รีวิว (Review) nubia N2
สมาร์ทโฟนพลังอึดใหม่ล่าสุด ด้วยแบตเตอรี่ 5000 mAh! พร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล, จอ AMOLED ใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, ROM 64GB, RAM 4GB, กล้องหลัง PDAF 13 ล้านพิกเซล, USB Type-C และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้โลหะ Curved Metal โค้งมนเรียบหรู ในราคาเพียง 7,990 บาท!
Review
Date (13-มิถุนายน-2560)
หลังจากที่สมาร์ทโฟนแบรนด์ nubia ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ก็จะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้น กับระดับกลางนั้นมีการแข่งขันที่สูงมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนของแบรนด์ nubia นั้นมาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องสวยหรู พร้อมวัสดุแข็งแรงทนทาน กับคุณสมบัติตัวเครื่องที่จัดเต็มครบเครื่อง ในราคาที่คุ้มค่า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้กลุ่มผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่หันมาให้ความสนใจสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้เป็นพิเศษ ซึ่งล่าสุดทาง nubia ก็ได้เปิดตัว และวางจำหน่าย nubia N2 สมาร์ทโฟนพันธุ์อึดรุ่นต่อยอดใหม่ล่าสุด พร้อมเคาะราคาออกมาที่ 7,990 บาท เท่านั้น!
โดยจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน อีกทั้งยังได้รับการพัฒนา พร้อมปรับปรุงให้ดีขึ้นหลายส่วน เริ่มตั้งแต่ แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Quick Charge, เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Curved Metal Body, หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว (N1 ใช้จอแบบ LTPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, รองรับชิปเซ็ตประมวลผลเสียงแบบ AW8738 และระบบเสียง DTS Sound, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน, รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE), รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ได้พร้อมกันสองแอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual instance (N1 ไม่รองรับ), รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอแบบ Edge Gesture (N1 ไม่รองรับ) และรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้
นอกจากนี้ ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังจะเป็นแบบ NeoVision 6.0 ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลช LED ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter และรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0
ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผลก็ถือว่าครบเครื่องพอตัว และสามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB (N1 แรม 3 GB), หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB (N1 รอม 32 GB) และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
และจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า nubia N2 นั้นมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว ทั้งในเรื่องของแบตเตอรี่ความจุสูง, การออกแบบดีไซน์ กับเทคโนโลยีการผลิต, คุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ และกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงทั้งด้านหน้าด้านหลัง ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องถ่ายภาพสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว nubia N2 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
nubia N2 มาพร้อมกล่องแพ็กเกจสีขาว
ภายในกล่องมีอะแดปเตอร์, สายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C และเข็ม SIM Door Key
.
nubia N2 มาพร้อมกับหน้าแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 155x75x7.9 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 180 กรัม
ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter และรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม พร้อมทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที และปุ่มย้อนกลับ
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอกแบบเดี่ยว, ช่องเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C และไมโครโฟน
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด
โดยเป็นถาดแบบ Dual-SIM ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และในช่องที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง
ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลแบบ NeoVision 6.0 ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลช LED
สำหรับตัวเครื่องของ nubia N2 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody อีกทั้งยังมีความโค้งมน จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม พร้อมทั้งสามารถจับ หรือถือใช้งานได้ถนัดมือ และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ซึ่งรองรับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Quick Charge)
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
nubia N2 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 4 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB
และรองรับการโทรผ่านระบบ VoLTE ได้
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือน ไม่ว่าเป็น ข้อความใหม่ หรือการอัปเดทแอปพลิเคชัน และสามารถเปิด-ปิดหังก์ชันลัดได้ เช่น บลูทูธ, โหมดการใช้งานบนเครื่องบิน หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ เริ่มตั้งแต่ การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ หรือบันทึกการโทรทั้งหมดได้ทันที
สำหรับฟังก์ชันแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันก็มีให้ใช้งานบน nubia N2 ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน โดยผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ด้วยการ Swip จากขอบด้านล่างของหน้าจอขึ้นด้านบน
พร้อมทั้งสามารถรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ เช่น การพลิกคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียง หรือเขย่าตัวเครื่องเพื่อเคลียร์หน่วยความจำแรม (RAM), การนำสมาร์ทโฟนแนบใบหูเพื่อโทรออก หรือรับสาย และการถ่ายภาพหน้าจอด้วยการลากสามนิ้วขึ้น หรือลง
และแน่นอนว่าทางด้านฟังก์ชัน Edge Gesture หรือการรองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ ก็มีให้ใช้งานบน nubia N2 ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การแตะที่ขอบจอเพื่อเปลี่ยนหน้าเดสก์ทอป, สไลด์ขอบหน้าจอจากบนลงล่างเพื่อเปลี่ยนแอปพลิเคชัน, สไลด์เร็วๆ แบบบนล่างที่ขอบหน้าเพื่อเคลียร์แอปพลิเคชัน, สไลด์ขึ้น หรือลงที่ขอบจอทั้งสองข้างพร้อมๆ กันเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และดับเบิ้ลคลิกที่ขอบหน้าจอ เพื่อย้อนกลับ
ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน
สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ อีกทั้งยังสามารถใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในการปลดล็อกแอปพลิเคชัน หรือปลดล็อกหน้าจอได้ และยังสามารถปลดล็อกหน้าจอได้ทันทีแม้ตัวเครื่องยังอยู่ในโหมดสลีป
สามารถปรับตำแหน่งของปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ ได้
นอกจากนี้ nubia N2 ยังสามารถถ่ายภาพหน้าจอได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพหน้าจอแบบยาว, ถ่ายภาพหน้าจอแบบอิสระ และสามารถบันทึกวิดีโอบนหน้าจอได้อีกด้วย
และที่สำคัญคือมีฟังก์ชัน Dual Instance สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชันให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ซึ่งผู้ใช้งานสามารถล็อกอินเข้าใช้งาน Facebook หรือ Line ได้พร้อมๆ กันถึง 2 แอคเคานท์ (สามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะบางแอปพลิเคชันเท่านั้น)
นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับจัดการไฟล์ต่างๆ ภายในเครื่องให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
nubia N2 ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง พร้อมทั้งสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง DTS Sound ได้ (ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อนถึงจะสามารถเปิดใช้งานระบบเสียงได้)
ในส่วนของแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน nubia N2 ด้วยเช่นกัน
และยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
และมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งาน
สำหรับ nubia N2 นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0
ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่ไม่เป็นสองรองใคร จึงทำให้ nubia N2 นั้นสามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
และเมื่อนำ nubia N2 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 41895 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 604 สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 2510 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core
ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 7261 คะแนน
Nubia N2 สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 3 จุด
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพของ nubia N2 นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น โหมดถ่ายภาพ HDR, ไฟแฟลช LED หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพการวาดแสง, โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า หรือโหมดถ่ายภาพดวงดาว
ในส่วนของโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น ความเร็วชัตเตอร์, ไวท์บาลานซ์ หรือจุดโฟกัส นอกจากนี้ กล้องดิจิทัลด้านหลังยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับเลยทีเดียว
มีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ
นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ
สามารถตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เช่น การเปิดใช้งานตาราง 9 ช่อง, ระบบตรวจจับใบหน้า, เสียงชัตเตอร์, เส้นวัดระดับน้ำ, สัดส่วนกล้องถ่ายภาพ, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ โหมดถ่ายภาพปกติ และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
ซึ่งในโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ
และสามารถเปิดใช้งานแสงสว่างจากหน้าจอแทนไฟแฟลช LED และมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพให้ใช้งานหลากหลาย
และสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง, ระบบตรวจจับใบหน้า, การเปิด-ปิด เสียงชัตเตอร์, การปรับสัดส่วนของภาพถ่าย หรือการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันกระจกสะท้อน, กล้องดิจิทัลด้านหน้าสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p), กล้องดิจิทัลด้านหลังสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) และสามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงให้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ nubia N2
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 10
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของ nubia N2
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 5
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับ 10
สรุปผลการทดสอบของ nubia N2
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทพันธุ์อึดรุ่นต่อยอดใหม่ล่าสุดอย่าง nubia N2 อันดับแรกต้องขอยอมรับในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ ซึ่งทาง nubia ได้เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Curved Metal Body พร้อมความโค้งมนที่ด้านหลัง จึงทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงาม และช่วยให้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้ถนัดมือ และมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ พื้นผิวด้านหลังของตัวเครื่องยังเป็นแบบด้าน ซึ่งช่วยให้ไม่เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมืออีกด้วย
ทางด้านจุดเด่นสำคัญของ nubia N2 ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นั้นก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Quick Charge ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และสามารถชาร์จจนเต็มได้รวดเร็วทันใจ, หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที, รองรับชิปเซ็ตประมวลผลเสียงแบบ AW8738 และระบบเสียง DTS Sound, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน, รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE), รองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ได้พร้อมกันสองแอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual instance, รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ (Edge Gesture) และรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้
สำหรับกล้องถ่ายภาพก็สามารถตอบโจทน์ด้านการถ่ายภาพได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ NeoVision 6.0 ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 และไฟแฟลช LED ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายภาพแบบต่างๆ พบว่ากล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยคมชัด สีสันสดใส และสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ หรือการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายอีกด้วย ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter และรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0 ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีเช่นเดียวกัน แถมยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน โดยผู้สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่รักการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นอย่างมาก
ส่วนประสิทธิภาพด้านการประมวลผลนั้นก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ครบทุกรูปแบบ และสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย nubia UI 4.0 ซึ่งจากการทดสอบด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) หรือเล่นเกมที่มีกราฟิกสามมิติแบบต่อเนื่อง ก็พบว่า nubia N2 ยังสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ แถมยังไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่อง และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh จึงช่วยให้สามารถเล่นเกมต่อเนื่องแบบยาวๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดแต่อย่างใด
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า nubia N2 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสุดคุ้มในราคาไม่ถึงหมื่น ที่มาพร้อมแบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานได้ตลอดวัน, บอดี้โลหะสวยหรู, วัสดุแข็งแรงทนทาน, จอใหญ่เต็มตา, มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ถ่ายภาพสวยคมชัดทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย ซึ่ง nubia N2 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับท่านใดที่สนใจ nubia N2 ก็สามารถสั่งซื้อได้ในราคา 7,990 บาท เท่านั้น! ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ nubia Store (Thailand) หรือสามารถไปเป็นเจ้าของได้ที่ห้างสรรพสินค้า Big C ในราคา 8,990 บาท ซึ่งถ้าหากเทียบกับคุณสมบัติระดับนี้ ก็ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดย nubia N2 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ในประเทศไทยวันที่ 10 มิถุนายน 2560
พิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟนของ nubia สามารถลุ้นรับรางวัล Workshop สุด Exclusive กับช่างภาพมืออาชีพ ที่ลาลามูก้า เขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน รวม 20 รางวัล (มูลค่ารวมกว่า 10,000 บาท) กติกาคือ แชร์ภาพที่ถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนของ nubia รุ่นใดก็ได้ผ่านทางสังคมออนไลน์ทั้ง Instagram หรือ Facebook (อย่าลืมตั้ง Post เป็น Public) ยิ่งโพสต์มาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก!! หมดเขตร่วมสนุก 15 มิถุนายน 2560 นี้เท่านั้น! ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://campaign.nubia.com
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง nubia ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง nubia N2 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ nubia N2
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Curved Metal Body ด้วยวัสดุโลหะอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน และมีความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.2 วินาที
- จอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T860 MP2
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองแอปพลิเคชัน พร้อมรองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line ได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ผ่านฟังก์ชัน Dual Instance
- รองรับการสั่งงานที่ขอบหน้าจอ (Edge Gesture) พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ NeoVision 6.0 ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ พร้อมเลนส์ตัดแสงแบบ Blue Glass IR Filter, รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0 และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- รองรับชิปเซ็ตประมวลผลเสียงแบบ AW8738 และระบบเสียง DTS Sound (ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อนถึงจะสามารถเปิดใช้งานระบบเสียงได้)
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มีชื่อว่า NeoPower และเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Quick Charge
- มี 2 สีมาตรฐานให้เลือกคือ ได้แก่ Black Gold และ Champagne Gold
- ราคา 7,990 บาท
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ nubia N2
- ระบบปฏิบัติการพื้นฐานยังคงเป็น Android 6.0 Marshmallow ซึ่งยังไม่ใช่แอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุด
- เนื่องจากเป็นดีไซน์แบบ Metal-Unibody ที่ไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
- หาซื้อได้เฉพาะที่ห้างสรรพสินค้า Big C หรือสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ nubia Store (Thailand) เท่านั้น
- ในช่องซิมการ์ดที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
- ความละเอียดของจอแสดงผลยังอยู่ที่เพียงระดับ HD 720P
- ไม่มีเซ็นเซอร์ Gyroscope
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติโดยละเอียดของ nubia N2 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ nubia N2
title="Sony Xperia ZL Specification">
:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|