รีวิว (Review) Microsoft Surface 3
ที่สุดของแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานระดับสูง บนดีไซน์สุดพรีเมียมบางเบา พร้อมขาตั้ง 3 ระดับ, คีย์บอร์ดที่พกพาได้ง่าย, ปากกาสุดล้ำ, การประมวลผลอันทรงพลัง และแอปพลิเคชันระดับมืออาชีพที่สมบูรณ์แบบจากไมโครซอฟท์
Review
Date (10-กรกฎาคม-2558)

ในโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่งดังเช่นทุกวันนี้ อุปกรณ์ หรือแกดเจ็ตที่มีขนาดเล็ก บางเบา และพกพาได้สะดวกนั้น ดูเหมือนจะได้กระแสตอบรับที่ดีเป็นพิเศษ และแน่นอนว่า ในปัจจุบันทั้งโน๊ตบุ๊ค และแท็บเล็ตเอง ก็ได้รับการพัฒนาเพื่อให้มีความบางเฉียบ มีน้ำหนักที่เบา พกพาได้สะดวกสบาย และมีรูปแบบของการใช้งานที่คล่องตัวมากขึ้นตามลำดับ ไม่เพียงเท่านั้น ทางด้านคุณสมบัติของตัวเครื่องก็ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า องค์ประกอบหลักๆ ดังกล่าว มีผลต่อการเลือกซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบันไม่น้อย
ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีแท็บเล็ตสุดล้ำสมัยรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีดีไซน์สวย พร้อมความบางเบา พกพาสะดวก บวกกับประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกการใช้งาน นั่นคือ Microsoft Surface 3 โดยจุดประสงค์หลักของทาง ไมโครซอฟท์ นั้นจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักศึกษา, ครอบครัว และคนวัยทำงานที่ต้องเดินทางออกนอกสถานที่เป็นจำ ซึ่งจะเห็นได้จากจุดเด่นของ Microsoft Surface 3 ที่ติดตัวมานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์การออกแบบระดับพรีเมียม บางเฉียบเพียง 8.7 มิลลิเมตร พกพาได้สะดวก พร้อมการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการใช้งานได้หลากหลาย กับน้ำหนักที่เบาแค่ 622 กรัม จึงถือว่ามีความบางเบาที่สุดในตระกูล Microsoft Surface ทุกรุ่นที่ผ่านมา, แบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง, มีแอปพลิเคชัน Office 365 ให้ใช้งานได้ฟรี 1 ปีเต็ม, รองรับการใช้งานควบคู่กับปากกา Surface Pen, รองรับการใช้งานร่วมกับ Type Cover Keyboard, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กับฟีเจอร์การถ่ายภาพ Smart Camera และยังรองรับการอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้เป็น Windows 10 ได้ฟรีในอนาคตอีกต่างหาก ซึ่งเมื่อมองดูจากคุณสมบัติของตัวเครื่องแล้ว บอกได้เลยว่า Microsoft Surface 3 ครบเครื่องทุกการใช้งานเสียจริงๆ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ประสิทธิภาพตัวเครื่องดีจะขนาดไหน และจะคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Microsoft Surface 3 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Microsoft Surface 3 จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 10.8 นิ้ว แบบ ClearType Full HD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล อัตราส่วน 3:2 โดยจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 267x187x8.7 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 622 กรัม

ด้านหน้าส่วนบน : จะมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 3.5 ล้านพิกเซล พร้อมสัญญาณไฟ LED เมื่อมีการเปิดใช้งานกล้อง และฟังก์ชัน Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

ด้านหน้าทางขวา : จะมีปุ่ม Windows หรือปุ่มโฮม ซึ่งเป็นปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) และลำโพงเสียงภายนอก (ลำโพงเสียงภายนอกมีทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวา)

ด้านบนของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

ด้านล่างของตัวเครื่อง : จะเป็นพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ Type Cover Keyboard


ซึ่งตัว Type Cover Keyboard สามารถปรับระดับความลาดเอียงได้ 2 ระดับ ตามลักษณะการใช้งาน ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบาย และจะมีให้เลือกหลายสีด้วยกัน เช่น ดำ, แดง, ฟ้า และน้ำเงิน โดยตัว Touchpad ได้รับการปรับปรุง และพัฒนา เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

ด้านขวาของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย พอร์ต mini Display, พอร์ต USB เวอร์ชัน 3.0, ช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จแบตเตอรี่ หรือส่งผ่านข้อมูลแบบ microUSB และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านหลังของตัวเครื่อง : จะประกอบไปด้วย กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และสัญญาณไฟ LED เมื่อมีการเปิดใช้งานกล้อง

ด้านหลังส่วนล่าง : จะมีขาตั้งที่สามารถปรับได้ 3 ระดับ ตามลักษณะการใช้งาน และภายในยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 10 ชั่วโมง

ด้านในของขาตั้งจะช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ซ่อนอยู่ ซึ่งรองรับได้สูงสุดที่ขนาด 128 GB

นอกจากนี้ Microsoft Surface 3 ยังรองรับการใช้งานกับ Surface Pen อีกด้วย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนปากกาจริง ทั้งการวาดภาพ จดบันทึก หรือเขียนเพลงต่างๆ โดย Microsoft Surface 3 จะมีเทคโนโลยี Palm Block คือ คุณสามารถวางมือเพื่อเขียน หรือวาดภาพบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องกังวลว่าส่วนใดๆ ของมือที่ไปสัมผัสกับหน้าจอจะไปรบกวนการทำงาน เพื่อประสบการณ์การเขียนที่เป็นธรรมชาติ
ส่วนปุ่มข้างๆ ทั้ง 2 ปุ่ม ก็มีฟังก์ชันพิเศษๆ ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน เช่นการใช้ปุ่มด้านบนสำหรับกดค้างเพื่อคลุมข้อความที่ต้องการ เพื่อย้ายข้อความไปในจุดที่ต้องการ นอกจากนี้ เมื่อคลุมข้อความเรียบร้อยแล้ว จะมีฟังก์ชันให้ใช้งานเพิ่มเติมอีก 4 อย่าง คือ Copy, Tag, Undo และ Delete

สำหรับปุ่มด้านบนของปากกาก็มีฟังก์ชันด้วยเช่นกัน คือ กด 1 ครั้ง เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชัน OneNote แบบทันทีทันใด
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Microsoft Surface 3 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 Pro ซึ่งคุณสามารถติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ที่เป็นไฟล์นามสกุล .EXE ได้ แถมยังรองรับการอัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ฟรีในอนาคตอีกด้วย

โดยแอปพลิเคชันที่มาพร้อมกับ Microsoft Surface 3 ก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน Maps สำหรับดูแผนที่

แอปพลิเคชัน xbox games สำหรับเล่นเกม ซึ่งมีเกมให้เลือกเล่นมากมาย แถมยังดาวน์โหลดเกมอื่นๆ มาเล่นเพิ่มเติมได้ผ่านทาง Windows Store

สามารถดูตารางการแข่งขันกีฬาฟุตบอล หรือผลการแข่งขันต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Sport

อีกหนึ่งความพิเศษบน Microsoft Surface 3 คือมีแอปพลิเคชัน Office 365 ติดตั้งมาให้ และยังสามารถใช้งานได้ฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ซึ่งสามารถใช้งานไฟล์เอกสารต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบครบครันทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ PDF เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโน๊ตบุ๊คอีกต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อสร้างไฟล์งาน หรือแก้ไขไฟล์เอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเก็บบันทึกข้อมูลผ่านระบบคลาวด์อย่าง OneDrive ได้อีกด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องไฟล์สูญหายอีกต่อไป และสามารถเปิดใช้งานไฟล์ได้ทุกที่ทุกเวลา

มีแอปพลิเคชัน OneNote สำหรับการจดบันทึก หรือวาดภาพ แถมยังสามารถบันทึกเสียง และบันทึกวิดีโอลงไปได้อีกด้วย ทำให้ข้อมูลทั้งหมดของคุณอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว ซึ่งแอปพลิเคชัน OneNote ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Surface Pen ได้เป็นอย่างดี แถมยังเข้าสู่แอปพลิเคชัน OneNote ได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่มตรงก้นปากกา 1 ครั้ง และยังสามารถวางมือบนหน้าจอเพื่อจดบันทึกสิ่งต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้เกิดการทำงานที่ผิดพลาด

นอกจากนี้ ทาง Microsoft ยังเอาใจคนรักการวาดภาพเป็นพิเศษด้วยแอปพลิเคชัน Fresh Paint ซึ่งจะช่วยเสริมทักษะ และจินตนาการ ด้วยวาดรูปภาพต่างๆ ตามที่คุณต้องการ แต่สำหรับมือใหม่บน แอปพลิเคชัน Fresh Paint ก็มีเทมเพลตรูปตัวการ์ตูนต่างๆ ให้เลือกใช้งาน สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกระบายสีอีกด้วย

โดยเจ้าแอปพลิเคชัน Fresh Paint ก็มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของหัวดินสอ, ขนาดของพู่กัน และยางลบ รวมไปถึงสีก็มีให้เลือกใช้งานมากมาย โดยภาพต่างๆ ที่วาด หรือระบายสีเสร็จเรียบร้อย สามารถแชร์ขึ้นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กให้เพื่อนๆ ชมผลงานได้โดยง่าย

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.8 นิ้ว บวกกับความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ทำให้ Microsoft Surface 3 สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการท่องเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี สามารถแสดงรายละเอียดได้ครบถ้วน และทำงานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด

Microsoft Surface 3 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Multitaking ที่สามารถใช้งานได้ 2 แอปพลิเคชันพร้อมกัน เช่น ท่องเว็บไซต์ไปพร้อมกับ การชมภาพยนตร์สนุกๆ

ส่วนแอปพลิเคชัน Skype ก็มีให้ใช้งาน Microsoft Surface 3 ด้วยเช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ชอบฟังเพลง บน Microsoft Surface 3 ก็มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงให้ใช้งาน

Microsoft Surface 3 ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างราบรื่นเนียนตา ไร้อาการกระตุก

Microsoft Surface 3 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Intel Atom x7-Z8700 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.60 GHz พร้อมเทคโนโลยี Intel Burst ที่ช่วยอัพความเร็วขึ้นไปได้ถึง 2.4 GHz

พร้อมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB แบบ DDR3 (เฉพาะรุ่นความจุ 128 GB หากเป็นรุ่นความจุ 64 GB จะมีหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB)

ส่วนหน่วยประมวลผลกราฟิกจะเป็นแบบ Intel HD Graphics

ด้วยคุณสมบัติของตัวเครื่องที่ดี รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบออนบอร์ด จึงช่วยให้ Microsoft Surface 3 สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการเล่นเกมที่มีกราฟิกในระดับกลางได้ดี ไม่มีอาการหน่วงแม่แต้น้อย แถมยังแสดงรายละเอียดของตัวเกมได้ครบถ้วนอีกด้วย

และเมื่อนำ Microsoft Surface 3 มาทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลกราฟิก ด้วยแอปพลิเคชัน 3DRating จะได้คะแนนอยู่ที่ 17708 คะแนน ซึ่งถือเป็นระดับคะแนนที่น่าพอใจ
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับกล้องดิจิทัลบน Microsoft Surface 3 จะไม่ได้เน้นในเรื่องของการถ่ายภาพเป็นหลัก จึงมีโหมดการถ่ายภาพในขั้นพื้นฐานเท่านั้น ได้แก่ โหมดการถ่ายภาพปกติ และโหมดการถ่ายภาพแบบพาโนราม่า

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที และมีฟังก์ชันชดเชยแสงให้ใช้งาน

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ Microsoft Surface 3 ยังมีฟีเจอร์การถ่ายภาพ Smart Camera สำหรับการตกแต่งภาพถ่าย ไม่ว่าจะเป็น เอฟเฟกต์ สำหรับถ่ายภาพ, การหมุนภาพ, การตัดภาพ, เปิดใช้งานฟังก์ชันลดตาแดง, ปรับค่าชดเชยแสง, ปรับค่าความสมดุลสีขาว และยังสามารถทำภาพให้ชัดเฉพาะส่วนที่ต้องการได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ Microsoft Surface 3




สรุปผลการทดสอบของ Microsoft Surface 3

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิวแท็บเล็ตสุดล้ำสมัยอย่าง Microsoft Surface 3 ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า Microsoft Surface 3 มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่า Microsoft Surface 2 อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ดีไซน์การออกแบบที่มีความบางเพียง 8.7 มิลลิเมตร กับน้ำหนักเพียง 622 กรัม ซึ่งนับว่าบางเบาที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตระกูล Microsoft Surface พร้อมขาตั้งที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ ซึ่งสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงรองรับกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ร่วมกับปากกา Surface Pen และ Type Cover Keyboard
ส่วนคุณสมบัติของตัวเครื่องก็ได้รับการอัพเกรดใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยเฉพาะหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Intel Atom x7-Z8700 ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Intel Atom ที่แรงที่สุดในขณะนี้ บอกได้เลยว่า Microsoft Surface 3 จะสามารถตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับระบบปฏิบัติการก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งได้รับการอัพเกรดใหม่ให้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 Pro ที่เป็นเวอร์ชันเดียวกับที่ใช้บนคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค นั่นเอง และยังรองรับการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Windows 10 ได้ในอนาคต จึงทำให้ Microsoft Surface 3 สามารถติดตั้งโปรแกรมที่เป็นไฟล์นามสกุล .EXE ได้ เสมือนมีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่สามารถพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ
และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Microsoft Surface 3 รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Surface Pen ผ่านแอปพลิเคชัน OneNote กับ Fresh Paint พร้อมด้วยเทคโนโลยี Palm Block ที่จะทำให้คุณพบกับประสบการณ์การเขียนที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ Microsoft Surface 3 ยังมีแอปพลิเเคชัน Office 365 มาให้ใช้งานกันแบบฟรีๆ นานถึง 1 ปีเต็ม บอกได้เลยว่า ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถทำงานที่เกี่ยวกับไฟล์เอกสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างไฟล์เอกสาร หรือการแก้ไขไฟล์ ทั้ง Microsoft Word, Excel, PowerPoint และ PDF หลังจากนั้นคุณสามารถแชร์ไฟล์งานได้ทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน OneDrive (OneDive มีพื้นที่ให้ใช้งานฟรีถึง 1 TB) แม้ว่าตัวคุณกับทีมงาน หรือเพื่อนๆ จะทำงานอยู่คนละสถานที่ก็ตาม
ในส่วนของคุณสมบัติของตัวเครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ ClearType Full HD Plus ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 10.8 นิ้ว อัตราส่วน 3:2 พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Intel HD Graphics, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 128 GB, รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด, มีพอร์ต USB เวอร์ชัน 3.0 และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 10 ชั่วโมง เรียกได้ว่า ครบเครื่องเรื่องการใช้งานอย่างแท้จริง เพียงแค่มี Microsoft Surface 3 ไว้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือโน๊ตบุ๊คอีกต่อไป
นอกจากนี้ ในเรื่องของกล้องดิจิทัลก็ได้รับการอัพเกรดให้มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น และถือเป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงที่สุดในตระกูล Surface ในขณะนี้ โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งก็ตอบสนองการใช้งานได้ดี สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างครบถ้วน และมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน เช่น โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า เป็นต้น อีกหนึ่งความพิเศษ คือ มีฟีเจอร์การถ่ายภาพ Smart Camera ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ และตกแต่งภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 3.5 ล้านพิกเซล ก็ตอบสนองการใช้งานได้ดีเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดี Microsoft Surface 3 ไม่ได้เน้นในเรื่องของการถ่ายภาพเป็นหลัก ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ จึงไม่สะดวกที่จะนำออกมาถ่ายภาพ แต่จะเน้นใช้งานเรื่องของวิดีโอคอลเป็นหลัก
โดย Microsoft Surface 3 นั้นเหมาะกับผู้ใช้งานแทบทุกกลุ่ม ตั้งแต่น้องๆ นักเรียน หรือนักศึกษา ที่จำเป็นต้องทำรายงานเป็นไฟล์เอกสารส่งอาจารย์ได้แบบทุกที่ทุกเวลา, ครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เพื่อทำกิจกรรมสนุกๆ แบบพร้อมหน้าพร้อมตา เช่น ชมภาพยนตร์แบบทั้งครองครัว และพนักงานออฟฟิศ หรือผู้ที่เดินทางบ่อย ที่ต้องการแท็บเล็ตแบตอึด แต่ตัวเครื่องมีความบางเบา พกพาสะดวก ซึ่ง Microsoft Surface 3 ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
โดย Microsoft Surface 3 จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ Microsoft Surface 3 รุ่น 64 GB พร้อม RAM 2 GB ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 17,400 บาท ส่วน Microsoft Surface 3 รุ่น 128 GB พร้อม RAM 4 GB จะมีราคาอยู่ที่ 21,400 บาท แต่สำหรับอุปกรณ์เสริมอย่าง Type Cover Keybord กับ Surface Pen ไม่ได้แถมฟรีมาภายในชุดขายมาตรฐาน จะต้องซื้อเพิ่มเติมในภายหลัง โดยจะมีราคาอยู่ที่ 4,490 บาท กับ 1,790 บาท ตามลำดับ
สำหรับท่านใดที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ Microsoft Surface 3 ก็สามารถแวะไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ Banana IT, IT City, Power Buy และอื่นๆ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Microsoft ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Microsoft Surface 3 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Microsoft Surface 3
- ตัวเครื่องมีความบางเบา พกพาสะดวก พร้อมดีไซน์ที่สวยหรูดูพรีเมียม และใช้วัสดุโลหะคุณภาพสูงแบบ Magnesium Alloy
- ขาตั้งที่ด้านหลังของตัวเครื่อง (Kickstand) สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ 3 ระดับ
- รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Surface Pen ซึ่งสามารถตรวจจับน้ำหนักของการกดปากกาได้ 256 ระดับ พร้อมเทคโนโลยี Palm Block
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Type Cover Keyboard พร้อมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ 2 ระดับ
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Docking Station
- จอแสดงผลแบบ ClearType Full HD Plus ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Intel HD Graphics
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Intel Atom x7-Z8700 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 8.1 Pro พร้อมรองรับการอัปเดตให้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ฟรีในอนาคต
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB หรือ 128 GB (มี 2 โมเดลย่อยให้เลือกซื้อ)
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB (สำหรับรุ่นความจุ 64 GB) หรือ 4 GB (สำหรับรุ่นความจุ 128 GB)
- รองรับการเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage ด้วยบริการ OneDrive พร้อมฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 1 TB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- ใช้งานแอปพลิเคชัน Office 365 Personal ได้ฟรีนาน 1 ปี (Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote)
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 a/b/g/n/ac)
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Full Size USB 3.0, microUSB และ mini Display Port
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 3.5 ล้านพิกเซล
- ลำโพงเสียงแบบ Stereo Speakers ในตัว พร้อมเทคโนโลยีระบบเสียงแบบ Dolby Audio
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Microsoft Surface 3
- ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบเครือข่าย 3G หรือ 4G LTE
- กล้องดิจิทัลไม่มีไฟแฟลชในตัว
- ไม่มีวิทยุในตัว
-Type Cover Keyboard ไม่แถมมาให้ภายในกล่อง ต้องซื้อแยกในราคา 4,490 บาท
- Surface Pen ไม่แถมมาให้ภายในกล่อง ต้องซื้อแยกในราคา 1,790 บาท
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Microsoft Surface 3 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Microsoft Surface 3 Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|