รีวิว (Review) iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)
สานต่อความสำเร็จของ แท็บเล็ต ขนาดกะทัดรัดรุ่นยอดนิยม กับจอภาพที่ละเอียดขึ้น และการประมวลผลที่เร็วแรงยิ่งกว่า
Review
Date (27-มกราคม-2557)

สวัสดีท่านผู้ชมเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ทุกท่านครับ หากพูดกันถึงสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตระดับ Hi-End ก็จะเห็นว่าเป็นกลุ่มของผลิตภัณฑ์ที่มีราคาค่อนข้างสูง ทางผู้ผลิตจึงเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ซื้อ ด้วยการนำสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตระดับ Hi-End มาย่อส่วน และปรับลดสเปคเครื่องลงเล็กน้อย แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยม โดยอาจจะใส่คำว่า mini เข้าไปต่อท้ายให้เป็นที่สังเกต ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S4 mini, HTC One mini หรือ iPad mini และในวันนี้ทางทีมงานก็ได้นำแท็บเล็ตแบบ mini รุ่นใหม่ล่าสุดมารีวิวให้ทุกท่านได้ติดตามกัน ซึ่งก็คือ iPad mini 2 หรือ iPad mini with Retina Display นั่นเอง โดย iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) นั้นจะมาพร้อมกับพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่า iPad mini รุ่นแรกค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่จอแสดงผล IPS LCD ขนาด 7.9 นิ้ว พร้อมด้วยเทคโนโลยี Retina Display ที่ทำให้หน้าจอมีความละเอียดสูงถึง 2048x1536 พิกเซล และยังมีการเคลือบผิวแบบ Oleophobic Coating ที่ช่วยป้องกันหน้าจอจากรอยนิ้วมืออีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Cyclone Processor (ชิปเซ็ต Apple A7 : มีพื้นฐานอยู่บน ARMv8) ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz และมีระดับความสามารถในการประมวลผลระดับ 64-bit พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟฟิคแบบ Quad-Core PowerVR G6430 และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะเห็นว่าทาง Apple ได้ใส่ความสามารถให้กับเครื่อง iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) อย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมพร้อมกันดีกว่า ว่า iPad Mini with Retina Display (iPad Mini 2) จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง และมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีเพียงใด
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

เรามาเริ่มที่การแกะกล่อง iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) กันก่อน

ซึ่งด้านหลังกล่องจะระบุด้วยว่าเครื่องมีจอแสดงผลแบบ Retina Display

เมื่อเปิดกล่องก็จะพบกับตัวเครื่องสวยๆ งามๆ ของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) อยู่ภายในกล่อง

นอกจากนี้ ภายในกล่องยังมี Adapter

สายชาร์จแบตเตอรี่

และคู่มือการใช้งาน iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)

โดย iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ที่นำมารีวิวให้ชมกันนี้จะเป็นสีขาว และเป็นรุ่น WiFi โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 200x134.7x7.5 มิลลิเมตร

iPad Mini with Retina Display (iPad Mini 2) มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Retina Display IPS LCD (LED-backlit) Capacitive Touchscreen ความละเอียด 2048x1536 Pixels กว้าง 7.9 นิ้ว พร้อมด้วยเทคโนโลยี Oleophobic Coating ช่วยป้องกันหน้าจอจากรอยนิ้วมือได้, เซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor ช่วยหมุน หรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัต โดยจะมีน้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 331 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนของตัวเครื่อง จะมีกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง (กล้อง FaceTime HD) ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล

ด้านหน้าส่วนล่างของตัวเครื่องจะมีเพียงปุ่มโฮมเท่านั้น

ด้านบนของตัวเครื่อง : จะมากับช่องสำหรับเสียบหูฟังแบบมาตรฐาน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน และปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อคหน้าจอ

ด้านล่างของตัวเครื่อง : จะมีช่องเชื่อมต่อแบบ Lightning สำหรับเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ และลำโพงเสียงแบบสเตอริโอ

ด้านขวาของตัวเครื่อง : มาพร้อมกับปุ่ม เปิด-ปิด เสียง และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง : จะไม่มีปุ่ม หรือส่วนเชื่อมต่อใดๆ

ด้านหลังของตัวเครื่อง : โดย iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) จะมีดีไซน์เป็นแบบ Unibody คือ การใช้วัสดุชิ้นเดียวในการผลิตตัวเครื่อง และวัสดุที่ใช้คืออลูมิเนียม จึงมั่นใจได้ว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) นั้นมีความแข็งแรงทนทาน และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ทาง Apple อ้างว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 10 ชั่วโมง

ด้านหลังส่วนบน : จะมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (iSight Camera) พร้อมด้วยรูรับแสงขนาดกว้างสูงสุดที่ F/2.4 และเทคโนโลยี Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ส่วนตรงกลางจะเป็น ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอพพลิเคชั่นต่างๆ

เนื่องจาก iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 7 ซึ่งทาง Apple ได้มีการออกแบบ User Interface แบบใหม่ที่ให้ความรู้สึกที่สดใสกว่าเดิม

ที่สำคัญยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้ามาอีกด้วย ได้แก่ Notification Center (สามารถเข้าฟังก์ชันโดยการเลื่อนจากขอบด้านบนลงด้านล่าง) คือการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล, ข้อความ หรืออื่นๆ โดยสามารถเลือกดูรายของ วันนี้, ทั้งหมด และไม่ได้รับ ได้

และ Control Center (สามารถเข้าฟังก์ชันโดยการเลื่อนจากขอบด้านล่างขึ้นด้านบน) คือ การเข้าใช้เมนูลัด ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด WiFi, เปิด-ปิด โหมดเครื่องบิน, การปรับความสว่างของจอแสดงผล และการ เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง เป็นต้น

และยังสามารถเข้าสู่ฟังก์ชันการค้นหาได้ (สามารถเข้าฟังก์ชันโดยการเลื่อนจากด้านบนลงด้านล่าง)

iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 7.0.4

สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ผ่าน Apple Store

ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ Safari สามารถตอบสนองการเข้าใช้งานเว็ยไซต์ได้เป็นอย่างดี ไม่มีอาการหน่วงให้รู้สึกเลยแม้แต่น้อย

และยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Apple Maps ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับนำทาง และค้นหาเส้นทางที่ต้องการ

ในส่วนของคลังรูปภาพก็มีการปรับปรุงใหม่ คือ สามารถแบ่งรูปออกเป็นรายวัน และมีการบอกสถานที่ของภาพถ่าย

และยังสามารถเชื่อมกับแผนที่ได้อีกด้วยว่าภาพดังกล่าวถ่ายจากสถานที่ใด

และยังสามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้ผ่านแอพพลิเคชั่น โน๊ต

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น FaceTime สำหรับการโทรศัพท์แบบเห็นหน้า

และด้วยจอแสดงผลขนาด 7.9 นิ้ว ทำให้การอ่านหนังสือบน iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) นั้นสบายตามากๆ เพราะตัวหนังสือมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

หรือแม้จะขยายให้ใหญ่ขึ้น ตัวหนังสือก็ยังมีคงมีความละเอียดคมชัดเท่าเดิม

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นวีดีโอ ซึ่งตัวแอพพลิเคชั่นวีดีโอไม่ได้มีไว้เพียงเปิดชมภาพยนตร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ท่านยังสามารถซื้อ หรือเช่าวีดีโอ และเพลงที่ต้องการได้อีกด้วย

ซึ่งภาพยนตร์แต่ละเรื่องอาจมีราคาแตกต่างกันออกไปตามความละเอียดของภาพยนตร์ที่เลือกซื้อ


โดย iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) สามารถเปิดเล่นไฟล์ความละเอียดสูงระดับ Full HD ได้ และด้วยจอแสดงผลแบบ Retina Display ที่มีความละเอียด 2048x1556 พิกเซลขนาด 7.9 นิ้ว จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์ที่มีรายละเอียดครบท้วนบน iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) อย่างมากแน่นอน
และแอพพลิเคชั่นสำหรับฟังเพลงก็เช่นเดียวกัน นอกจากจะเอาไว้ฟังเพลงแล้ว ยังสามารถเลือกซื้อเพลงเพราะๆ ได้ด้วย

ที่สำคัญ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ยังสามารถเล่มเกมส์ได้อย่างไหลลื่น เนื่องจาก iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ใช้หน่วยประมวลผลกราฟฟิคแบบ Quad-Core PowerVR G6430 จึงทำให้การเล่นเกมส์นั้นมีประสิทธิภาพ และแสดงรายละเอียดภายในเกมส์ได้อย่างครบถ้วน
เปรียบเทียบ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) กับ iPad mini

ในส่วนของจอแสดงผลของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) กับ iPad mini จะมีขนาดเท่ากันคือ 7.9 นิ้ว และใช้เทคโนโลยีการแสดงผลแบบเดียวกันคือ IPS LCD (LED-backlit) แต่จะแตกต่างกันที่ความละเอียดของการแสดงผล คือ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) จะมีความละเอียดอยู่ที่ 2048x1536 พิกเซล ส่วน iPad mini จะมีความละเอียดอยู่ที่ 1024x768 พิกเซล

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความละเอียดคมชัดของการแสดงผลมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่นภาพไอคอนบน iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) จะมีรายละเอียดที่ชัดเจนกว่า ภาพไอคอนบน iPad mini (ภาพไอคอนสำหรับฟังเพลงของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) คือภาพล่าง ส่วนภาพไอคอนสำหรับฟังเพลงด้านบนจะเป็นของ iPad mini

ภาพซ้ายคือ : iPad mini with Retina Display (iPad mini 2 ) และภาพขวาคือ iPad mini
และข้อแตกต่างอีกหนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะถ่ายวีดีโอ หรือการบันทึกเสียง ซึ่งจะมีอยู่บน iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) เท่านั้น จะไม่มีบน iPad mini

ภาพซ้ายคือ : iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) และภาพขวาคือ iPad mini
แม้ iPad mini ทั้ง 2 เครื่อง จะมีสี Silver เช่นเดียวกัน และหากสังเกตกันให้ดีๆ จะเห็นได้ว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) จะมีสี Silver ที่อ่อนกว่า iPad mini

ภาพบนคือ : iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) และภาพล่างคือ iPad mini
อย่างไรก็ดี หากดูกันในเรื่องของความบาง และน้ำหนักตัว iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) จะมีตัวเครื่องที่หนา และหนักกว่า iPad mini รุ่นแรกอยู่เล็กน้อย
 
ภาพซ้ายเป็นคะแนนที่ได้จาก iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ส่วนภาพขวาเป็นคะแนนที่ได้จากการทดสอบ iPad mini ซึ่งจากผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบนี้ จะเห็นได้ว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ได้คะแนนอยู่ที่ 1390 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 2506 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core ส่วน iPad mini ได้คะแนนอยู่ที่ 263 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 497 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core สรุปแล้วก็เรียกได้ว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) นั้นมีประสิทธิภาพในการประมวลผลมากกว่า iPad mini อยู่ราวๆ 5 เท่าเลยทีเดียว

และเมื่อนำ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) มาทดสอบหน่วยประมวลผลกราฟฟิค พบว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) สามารถทำคะแนนถึงระดับ Maxed out เลยทีเดียว และได้อยู่อันดับที่ 3 ยังคงเป็นรอง Amazon Kindle Fire และ iPad Air
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ

ในส่วนของแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายภาพบน iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ก็มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นการ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน HDR

ซึ่งรวมถึงการเลือกโหมดการถ่ายภาพทั้ง การถ่ายภาพ, การถ่ายวีดีโอ และการถ่ายถาพแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส

นอกจากนี้ ยังสามารถสลับเปลี่ยนไปใช้งานกล้องดิจิตอลด้านหน้าด้วยไอคอนด้านขวาบน แต่กล้องดิจิตอลด้านหน้า จะไม่มีฟังก์ชัน HDR ให้ใช้งาน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล ของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)











สรุปผลการทดสอบของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)

สำหรับ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) นับว่ามีการพัฒนาความสามารถจากรุ่นก่อนหน้า หรือ iPad mini รุ่นแรกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจอแสดงผลขนาด 7.9 นิ้ว กับความละเอียดแบบ Retina Display ซึ่งช่วยในเรื่องของการแสดงผลให้มีความละเอียดคมชัด และดูเนียนตามากกว่าเดิม นอกจากนี้ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ยังมีประสิทธิภาพในเรื่องของการประมวลผลที่ดีขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากใช้หน่วยประมวลผลตัวใหม่อย่าง Apple A7 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz (เทคโนโลยีการประมวลผลแบบ 64-bit) และหน่วยประมวลผลกราฟฟิคแบบ Quad-Core PowerVR G6430 ซึ่งแน่นอนว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) จะตอบสนองการเล่นเกมส์ และการตัดต่อวีดีโอผ่านแอพพลิเคชั่น iMovie ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ยังมาพร้อมกับกล้องดิจิตอล iSight Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพที่มีความคมชัด และสีสันสมจริง นอกจากนี้ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ใช้เทคโนโลยีการผลิตเป็นแบบ Unibody คือการใช้วัสดุชิ้นเดียวในการผลิตตัวเครื่อง ซึ่งวัสดุที่ใช้คือ อลูมิเนียม จึงมั่นใจได้ว่า iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) นั่นมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษอย่างแน่นอน และยังคงจุดเด่นในเรื่องของขนาดตัวเครื่องไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แม้แต่ผู้หญิงก็สามารถถือใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้ สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2) ได้ที่ Apple Store Online และตัวแทนจำหน่ายทั่วไป สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณทุกท่านที่แวะมาติดตามอ่านรีวิวของเราในวันนี้ พบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)
- จอแสดงผลแบบ Retina Display IPS LCD (LED-backlit) Capacitive Touchscreen ความละเอียด 2048x1536 พิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ Quad-Core PowerVR G6430 - ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Cyclone Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz พร้อมด้วยเทคโนโลยีในการประมวลผลแบบ 64-bit
- หน่วยประมวลผล M7 Motion Coprocessor สำหรับการประมวลผลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว - ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 7.0.4 - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, 32 GB, 64 GB และ 128 GB - หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi (สำหรับโมเดล WiFi+Cellular จะสามารถรองรับระบบ LTE และ 3G ได้ด้วย) - ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) (สำหรับโมเดล Wi-Fi+Cellular เท่านั้น) - กล้อง iSight Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- เทคโนโลยี Backside-illuminated Sensor (BSI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด - รองรับการถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels) - กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.2 ล้าน Pixels พร้อมรองรับการใช้งาน FaceTime หรือการโทรศัพท์แบบวีดีโอ - มาพร้อมลำโพงเสียงแบบสเตอริโอที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี มีรายละเอียดเสียงครบถ้วน
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง ( Li-Ion Polymer)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ iPad mini with Retina Display (iPad mini 2)
- มีตัวเครื่องที่หนากว่าเดิม และมีน้ำหนักตัวที่มากกว่าเดิมเล็กน้อย
- ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD Card หรืออื่นๆ
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ LTE, 3G, EDGE หรือ GPRS ทำได้เฉพาะโมเดล WiFi+Cellular เท่านั้น
- การรับสัญญาณ GPS ทำได้เฉพาะโมเดล WiFi+Cellular เท่านั้น
- มีราคาที่ค่อนข้างสูง หากเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตขนาดเล็กรุ่นอื่นๆ
โปรดทราบ
* แท็บเล็ต iPad mini 2 (iPad mini with Retina Display) ที่นำมาทดสอบนี้ เป็น iPad mini 2 โมเดล WiFi ไม่ใช่โมเดล WiFi+Cellular
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ iPad mini 2 (iPad mini with Retina Display) ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
iPad mini 2 (iPad mini with Retina Display) Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|