รีวิว (Review) Huawei P9

ยอดสมาร์ทโฟนเรือธงเพื่อการถ่ายภาพ ด้วยกล้อง Leica Dual-Camera 12 ล้านพิกเซล พร้อมจอ 2.5D IPS-NEO Full HD 5.2 นิ้ว, ชิปเซ็ต Kirin 955 ตัวท็อป, RAM 3GB, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว, USB Type-C และความสดใหม่ของ Android 6.0 Marshmallow บนบอดี้โลหะดีไซน์พรีเมียมบางเฉียบ ในราคา 16,990 บาท

Review Date (26 กรกฎาคม 2559)

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบกับทีมงาน Thaimobilecenter กันอีกครั้งในบทความรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ด ซึ่งในวันนี้สมาร์ทโฟนที่ทีมงานจะนำมาทำการรีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกันนั้น ต้องขอบอกก่อนเลยว่าหากท่านใดที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเป็นชีวิตจิตใจจะต้องหลงใหลในฟีเจอร์กล้องสุดเด็ด และความคมชัดของภาพถ่ายที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับการถ่ายด้วยกล้อง DSLR เลยก็ว่าได้ ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็คือ Huawei P9 นั่นเองครับ

Huawei P9 เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกนั้นเรียกได้ว่างดงามในทุกๆ ส่วนด้วยการใช้วัสดุอะลูมิเนียม (Aluminium) คุณภาพสูงระดับเดียวกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน (Aerospace-Class) ที่นอกจากจะมอบความคงทนสุดแกร่งให้กับตัวเครื่องแล้ว ยังมอบความสวยหรู และพรีเมียมให้กับผู้ใช้ในเวลาจับถือด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีความบางเฉียบเพียง 6.95 มิลลิเมตร เท่านั้น ซึ่งนับว่า Huawei P9 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์ต้องตาต้องใจตั้งแต่เมื่อแรกเห็นเลยทีเดียว

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติตัวเครื่อง ทาง Huawei ก็ได้พัฒนาคุณสมบัติของ Huawei P9 ในทุกๆ ส่วนให้ครบครันในทุกการใช้งาน โดยเริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p IPS-NEO LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 423 ppi พร้อมกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4 ขอบนูนแบบ 2.5D, ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core HiSilicon Kirin 955 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, ชิปเซ็ตประมวลผลกราฟิก Mali-T880 MP4, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง, รองรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี USB Type-C พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow

และสำหรับฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของ Huawei P9 รุ่นนี้จะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้ นอกจาก กล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ที่ทาง Huawei ได้ร่วมมือกับ Leica บริษัทผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพชั้นนำระดับโลกสัญชาติเยอรมนี ที่มีส่วนช่วยในการดูแล และพัฒนาจนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) โดยกล้องตัวที่ 1 มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำหน้าที่ถ่ายภาพสีแบบ RGB ส่วนกล้องตัวที่ 2 มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกัน แต่จะทำหน้าที่ถ่ายภาพแบบ Monochrome หรือภาพขาว-ดำ ซึ่งกล้องทั้ง 2 ตัวจะทำงานแบบสอดประสานกันเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด และมีสีสันที่เที่ยงตรงมากที่สุด นอกจากนี้ Huawei P9 ยังใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI CMOS) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืดได้เป็นอย่างดี, ขนาดของเม็ดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 พร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพสุดเด็ดอีกมากมาย

หลังจากที่ทุกท่านได้ทราบข้อมูลคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ Huawei P9 กันไปคร่าวๆ แล้ว ก็ถึงเวลาที่ทีมงาน Thaimobilecenter จะพาทุกท่านไปพบกับการใช้งานจริงของสมาร์ทโฟนกล้องคู่ Leica รุ่นนี้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างไร ฟีเจอร์จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ และกล้องถ่ายภาพจะมีแสงสีที่คมจัดชัดเจน รวมไปถึงภาพถ่ายจะสวยงามสมคำร่ำลือเพียงใด ขอเชิญทุกท่านติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Huawei P9 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p IPS-NEO LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 423 ppi พร้อมกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4 ขอบนูนแบบ 2.5D โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 145x70.9x6.95 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 144 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย : กล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4, เซ็นเซอร์ Proximity, เซ็นเซอร์ Ambient Light, เซ็นเซอร์ Accelerometer และลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย : โลโก้แบรนด์ Huawei ที่มองเห็นได้อย่างเด่นชัด

ด้านซ้ายของตัวเครื่องประกอบด้วย : เส้นเสาอากาศด้านบน และด้านล่าง, ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual-SIM (Dual-Standby) ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ nanoSIM และช่องซิมที่ 2 สามารถใช้งานร่วมกับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้

ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบด้วย : เส้นเสาอากาศด้านบน และด้านล่าง, ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านบนของตัวเครื่องประกอบด้วย : ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกเสียง หรือถ่ายวิดีโอ

ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วย : ช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อสาย USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือการโอนย้ายข้อมูล และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบด้วย : กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ใช้งานเลนส์คุณภาพสูงจาก Leica และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED (Dual-Tone) โดยบริเวณแถบกล้องถ่ายภาพจะถูกครอบทับด้วยกระจกป้องกันรอยที่มีความทนทานต่อการขีดข่วน และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านล่างของตัวกล้อง

ตัวเครื่องของ Huawei P9 ใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (ตัวเครื่องอะลูมิเนียมถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูงระดับเดียวกันกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน (Aerospace-Class) ทำให้ตัวเครื่องมีความคงทนแข็งแรง และสวยหรูเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก

เปรียบเทียบ Huawei P9 กับ Sony Xperia X สองยอดเรือธงน้องใหม่ รุ่นไหนมีทีเด็ดมากกว่ากัน

สำหรับ Sony Xperia X ก็เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงอีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทยพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการใกล้เคียงกับการเปิดตัวของ Huawei P9 นอกจากนี้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น จากเจ้าพ่อแดนมังกร และแดนอาทิตย์อุทัย ยังมีฟีเจอร์เด่นร่วมกัน นั่นก็คือ กล้องถ่ายภาพระดับโปรที่มาพร้อมฟังก์ชันเด็ดมากมาย ทางทีมงานจึงขอนำ Huawei P9 และ Sony Xperia X ตัวเป็นๆ มาเปรียบเทียบให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันว่าสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้มีดีไซน์ที่โดดเด่นอย่างไรกันบ้าง

Huawei P9 - ใช้ดีไซน์หน้าจอแทบไร้ขอบ บนตัวเครื่องที่ทำการผลิตจากวัสดุประเภทอะลูมิเนียมสุดแข็งแกร่งที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน และอวกาศ พร้อมความบางเพียง 6.95 มิลลิเมตร ส่วนหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D

Sony Xperia X - มีการดีไซน์สุดพรีเมียมด้วยหน้าจอแทบไร้ขอบ และตัวเครื่องผลิตจากวัสดุประเภทโลหะ ที่มีความโค้งมนกว่าเดิม ส่วนหน้าจอแสดงผลเป็นแบบTRILUMINOS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล) พร้อมเทคโนโลยี X-Reality ที่ช่วยให้หน้าจอการแสดงผลมีความคมชัด และมีสีสันที่สมจริงมากที่สุด

Huawei P9 - บริเวณด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย กล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4, เซ็นเซอร์ Proximity, เซ็นเซอร์ Ambient Light, เซ็นเซอร์ Accelerometer และลำโพงสำหรับการสนทนา

Sony Xperia X - บริเวณด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพ Sony Exmor RS ขนาด 1/3 นิ้ว, เลนส์ G ทางยาวโฟกัส 22 มิลลิเมตร พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0, ลำโพงสำหรับการสนทนา, เซ็นเซอร์ Proximity, เซ็นเซอร์ Ambient Light และเซ็นเซอร์ Accelerometer

Huawei P9 - บริเวณด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย โลโก้แบรนด์ Huawei

Sony Xperia X - บริเวณด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ลำโพงตัวที่สอง

Huawei P9 - บริเวณด้านซ้ายประกอบด้วย เส้นเสาอากาศด้านบน และด้านล่าง, ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual-SIM (Dual-Standby) ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ nanoSIM และช่องซิมที่ 2 สามารถสลับใช้งานร่วมกับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้

Sony Xperia X - บริเวณด้านซ้ายประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual-SIM (Dual-Standby) ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ nanoSIM และช่องซิมที่ 2 สามารถสลับใช้งานร่วมกับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้

Huawei P9 - บริเวณด้านขวาประกอบด้วย เส้นเสาอากาศด้านบน และด้านล่าง, ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

Sony Xperia X - บริเวณด้านขวาประกอบด้วย ปุ่มชัตเตอร์แบบ Quick Access สำหรับเข้าใช้งานฟังก์ชันกล้องถ่ายภาพ, ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง และปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)

Huawei P9 - บริเวณด้านบนประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกเสียง หรือถ่ายวิดีโอ

Sony Xperia X - บริเวณด้านบนประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกเสียง หรือถ่ายวิดีโอ และช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

Huawei P9 - บริเวณด้านล่างประกอบด้วย ช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อสาย USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือการโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

Sony Xperia X - บริเวณด้านล่างประกอบด้วย ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือการโอนถ่ายข้อมูล

Huawei P9 - บริเวณด้านหลังประกอบด้วย กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ใช้งานเลนส์คุณภาพสูงที่พัฒนาร่วมกับ Leica และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED (Dual-Tone) โดยบริเวณแถบกล้องถ่ายภาพจะถูกครอบทับด้วยกระจกป้องกันรอยที่มีความทนทานต่อการขีดข่วน และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านล่างของตัวกล้อง

Sony Xperia X - บริเวณด้านหลังประกอบด้วย กล้องดิจิทัลความละเอียด 23 ล้านพิกเซล ใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพ Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้ว, เลนส์ G ทางยาวโฟกัส 24 มิลลิเมตร พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0 และไฟแฟลชในตัว (LED Flash)

เปรียบเทียบเจาะลึก Huawei P9 และ Sony Xperia X
สมาร์ทโฟนระดับท็อปพร้อมสุดยอดกล้องถ่ายภาพขั้นโปร

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Huawei P9 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชัน 4.1 และใช้งานปุ่มกดแบบ On-Screen โดยเรียงลำดับจากซ้ายไปขวา คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอ Home Screen และจัดการหน้าเมนูต่างๆ ได้อย่างอิสระตามแบบฉบับของ Android

Huawei P9 มาพร้อมกับแอปพลิเคชันของ Google และแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างครบครัน เรียกได้ว่าเปิดเครื่องขึ้นมาก็สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่

หากปัดนิ้วจากด้านบนของหน้าจอลงมาด้านล่าง จะพบกับแถบการแจ้งเตือน (Notification) และทางลัดในการ เปิด-ปิด ฟังก์ชันต่างๆ

หากปัดนิ้วจากด้านบนลงด้านล่างบริเวณตรงกลางของหน้าจอจะพบกับฟังก์ชัน Quick Search ที่สามารถค้นหา แอปพลิเคชัน, รายชื่อ, ข้อความ ฯลฯ ได้ทันที รวมไปถึงสามารถเปิดแอปพลิเคชันที่ใช้งานล่าสุดได้ด้วย

Huawei P9 ยังคงมี Theme Store ให้เลือกใช้งานตามความชอบ และรสนิยมของผู้ใช้ โดยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ และมีการจัดหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบ สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย

เมนู โทรศัพท์ และรายชื่อ มีดีไซน์แบบเรียบๆ สะอาดตา สามารถมองเห็นตัวเลข หรืออ่านรายชื่อได้อย่างชัดเจน

แอปพลิเคชัน เพลง เลือกใช้สีโทนเข้ม พร้อมแบ่งหมวดหมู่เพลงในเครื่องไว้เรียบร้อย และยังใช้งานระบบเสียง DTS เพิ่มมิติของเสียงดนตรีให้สมจริงมากยิ่งขึ้น

ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สามารถใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว เพียงแค่แตะนิ้วลงบนเซ็นเซอร์ ตัวเครื่องก็ทำการปลดล็อกทันที นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในรูปแบบอื่นๆ ได้ด้วย

แอปพลิเคชันจัดการโทรศัพท์ก็ใช้งานได้ดี สามารถเคลียร์ไฟล์ Cache, หน่วยความจำแรม (RAM) และแอปพลิเคชันที่เปิดค้างไว้ เพื่อให้ Huawei P9 สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

หากผู้ใช้ท่านใดรักสุขภาพ และชื่นชอบการออกกำลังกาย Huawei P9 ก็มีแอปพลิเคชันด้านสุขภาพมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถตั้งเป้าหมายได้ว่าจะออกกำลังกายรูปแบบใด โดยมีให้เลือก 3 แบบ คือ วิ่ง, เดิน และปั่นจักรยาน พร้อมทั้งสามารถเลือก ระยะทาง, เวลา และจำนวนแคลลอรีที่ต้องการเผาผลาญได้ด้วย

แอปพลิเคชันจัดการไฟล์จะแสดงให้เห็นถึงจำนวนการใช้งานพื้นที่หน่วยความจำ ซึ่งแบ่งข้อมูลออกเป็นแบบ ประเภท และบนอุปกรณ์

Huawei P9 มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน ที่ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

ขยับมาทางด้านคุณสมบัติตัวเครื่องกันบ้าง Huawei P9 มาพร้อมกับ ชิปเซ็ตประมวลผล 64-bit Octa-Core HiSilicon Kirin 955 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.5GHz, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 128GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark เวอร์ชัน 6.1.4 ได้ผลคะแนน 78,863 คะแนน

ทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลภาพกราฟิกด้วยแอปพลิเคชัน PCMark ได้ผลคะแนนรวมอยู่ที่ 6,188 คะแนน

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องข้างต้น ส่งผลให้ Huawei P9 สามารถเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกสวยๆ ได้ลื่นไหล และไม่ติดขัด

รวมไปถึงการรับชมวิดีโอความละเอียดสูงในระดับ Full HD 1080p ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน

ทดสอบกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Leica Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

สำหรับฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของ Huawei P9 คงหนีไม่พ้น กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ได้บริษัทผลิตกล้องถ่ายภาพชั้นนำระดับโลกอย่าง Leica มาร่วมพัฒนา และใช้งานเลนส์คู่คุณภาพสูงจาก Leica อีกด้วยเช่นกัน โดยกล้องตัวแรกจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำหน้าที่ในการถ่ายภาพสีแบบ RGB ขณะที่กล้องอีกตัวหนึ่งมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกัน แต่ทำหน้าที่ถ่ายภาพแบบ Monochrome หรือภาพ ขาว-ดำ ซึ่งกล้องทั้งสองตัวจะทำงานแบบผสานกันเพื่อเก็บรายละเอียดของภาพให้ดีที่สุด รวมถึงจุดเด่นของค่าย Leica อย่างการถ่ายภาพ ขาว-ดำ ก็สามารถแสดงความเปรียบต่าง (Contrast) รวมถึงรายละเอียดของภาพในส่วนสีดำ และสีขาวได้อย่างคมชัดเช่นเดียวกัน

กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ที่พัฒนารร่วมกับ Leica ของ Huawei P9 นั้น ใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI CMOS) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด, ขนาดของจุดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.2 และมีทางยาวโฟกัส 27 มิลลิเมตร โดยกล้อง Leica บน Huawei P9 รุ่นนี้จะมีฟีเจอร์ใดน่าสนใจ และภาพถ่ายจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ขอเชิญรับชมกันต่อได้เลยครับ

สำหรับหน้าจอ Interface ของแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพนั้นก็มีลักษณะที่ค่อนข้างเรียบง่าย การจัดวางเมนูไม่เยอะจนเกินไป โดยเมนูด้านบนแบ่งออกเป็น แฟลช, โหมดปรับขนาดรูรับแสง, เอฟเฟกต์ และปุ่มสลับเป็นกล้องด้านหน้า

หากปัดนิ้วไปทางด้านขวาจะเป็นการเปิดเมนูโหมดถ่ายภาพในแบบต่างๆ ขณะที่การปัดนิ้วมาทางด้านซ้ายจะเป็นการเปิดเมนูตั้งค่าการถ่ายภาพ

หากปัดนิ้วขึ้นตรงบริเวณลูกศรด้านบนปุ่มชัตเตอร์ จะเป็นการเปิดโหมด Pro ซึ่งสามารถปรับแต่งฟังก์ชันต่างๆ ได้คล้ายกับการถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR

ฟังก์ชันการวัดแสงมีให้เลือก 3 แบบ คือ วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ, วัดแสงเฉลี่ยกลางภาพ และวัดแสงเฉพาะจุด ส่วนการตั้งค่าความไวแสง (ISO) มีให้เลือกตั้งแต่ ISO 50 ไปจนถึง ISO 3200

การเลือกใช้ความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter) ปรับได้เร็วที่สุดคือ 1/4000 และช้าที่สุดคือ 30 วินาที

การตั้งค่า EV (Exposure Value) หรือค่าชดเชยแสง สามารถปรับได้ต่ำสุดที่ -4.0 และปรับได้สูงสุดที่ +4.0

การตั้งค่าระบบโฟกัสภาพมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน คือ AF-S เป็นการโฟกัสครั้งเดียว เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุที่ไม่เคลื่อนไหว, AF-C เป็นการโฟกัสตามวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุที่ไม่อยู่นิ่ง และ MF เป็นการหาระยะโฟกัสด้วยตนเอง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ผู้ถ่ายมีเวลาจัดองค์ประกอบของภาพ และวัตถุมากพอสมควร

การตั้งค่าสมดุลแสงขาว (White Balance) ในกล้อง Leica ของ Huawei P9 ก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นเดียวกัน โดยสามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพแสงที่จะถ่ายภาพ และจุดเด่นก็คือ ผู้ถ่ายสามารถปรับตั้งค่าสมดุลแสงขาวนี้ได้ด้วยตนเอง โดยมีค่าอุณหภูมิสีให้เลือกตั้งแต่ 2800 องศาเคลวิน จนถึง 7000 องศาเคลวิน

เมื่อเข้าสู่โหมดถ่ายภาพแบบ ขาว-ดำ จะไม่สามารถใช้งานเมนูปรับรูรับแสง และเอฟเฟกต์ภาพได้ แต่ยังสามารถใช้งานการถ่ายภาพด้วยโหมด Pro ได้ตามปกติ

โหมดถ่ายภาพแบบ Beauty ของกล้องคู่ด้านหลังก็สามารถใช้งานได้ โดยมีให้เลือกปรับตามความชอบมากถึง 10 ระดับ

โหมดถ่ายภาพแบบ Panorama สามารถถ่ายได้ค่อนข้างกว้าง และด้วยคุณภาพของเลนส์กล้อง Leica รวมไปถึงเซ็นเซอร์รับภาพ ก็ส่งผลให้ภาพถ่าย Panorama เก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างครบถ้วน

เมื่อขยับมาในส่วนของกล้องด้านหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.4 และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p โดย Interface ยังคงคล้ายกับการถ่ายภาพด้วยกล้องด้านหลัง แต่จะไม่มีเมนูปรับรูรับแสงด้านบน

เมื่อปัดนิ้วมาทางด้านขวาจะเป็นการเข้าสู่เมนูโหมดถ่ายภาพ ขณะที่การปัดนิ้วมาทางด้านซ้ายจะเข้าสู่เมนูการตั้งค่ากล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถปรับค่าสมดุลแสงขาว (White Balance) และค่าความไวแสง (ISO) ได้บ้าง แต่ไม่เท่ากับโหมด Pro ในกล้องด้านหลัง

สำหรับโหมดถ่ายภาพแบบ Beauty ก็สามารถปรับได้ถึง 10 ระดับเช่นเดียวกัน

หากถ่ายภาพเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเข้าไปชมภาพในแกลลอรี่ และกดไอคอนรูปตัว i (Information) จะพบกับรายละเอียดของภาพ เช่น ค่าความไวแสง, ความเร็วชัตเตอร์ หรือค่าสมดุลแสงขาว เป็นต้น พร้อมกราฟแสดงค่าสี

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Leica Dual-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ของ Huawei P9

ตัวอย่างภาพถ่ายในสถานการณ์ต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปรับรูรับแสง โดยมีขนาดรูรับแสง f/0.95, f/4.0, f/8.0 และ f/16 ตามลำดับ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดพาโนรามา (Panorama)

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด ขาว-ดำ หรือ Monochrome

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ Huawei P9

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie แบบปกติ

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie ด้วยโหมด Beauty โดยปรับระดับตั้งแต่ 0, 3, 7 และ 10 ตามลำดับ

สรุปผลการทดสอบของ Huawei P9

เรียกได้ว่าฟีเจอร์พระเอกของ Huawei P9 อย่างกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพชั้นนำระดับโลกอย่าง Leica สามารถมอบประสบการณ์การถ่ายภาพสุดพิเศษให้กับผู้ใช้ได้อย่างไม่ผิดหวังจริงๆ ด้วยเลนส์คู่คุณภาพสูงจาก Leica ประกอบกับการทำงานของตัวกล้องทั้งสองที่แยกออกจากกัน โดยกล้องตัวที่หนึ่งจะถ่ายภาพสีแบบ RGB ขณะที่กล้องอีกตัวหนึ่งจะถ่ายภาพแบบ ขาว-ดำ หรือ Monochrome เพื่อเก็บรายละเอียดสีสันของภาพให้ครบมากที่สุด ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมานั้นก็มีสีสันที่สดใส และคมชัด ขณะที่จุดเด่นของ Leica อย่างการถ่ายภาพแบบ Monochrome ก็ไม่ทำให้ผู้ใช้ผิดหวัง เพราะตัวกล้องสามารถเก็บรายละเอียดของภาพในส่วนที่มืด และส่วนที่สว่างได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงการกำหนดค่าสีที่มีความสมดุลกัน จึงทำให้ภาพที่ออกมาดูไม่ Over Exposure และไม่ Under Exposure จนเกินไป

นอกจากนี้กล้องคู่ Leica ของ Huawei P9 ยังมีฟีเจอร์เด่นอีกจุดหนึ่งก็คือ ฟังก์ชันการปรับรูรับแสงให้เกิดระยะชัดลึก-ชัดตื้น (Depth of Field) ซึ่งเป็นการปรับด้วยซอฟต์แวร์ภายในตัวเครื่อง แต่ผลของภาพที่ได้ออกมานั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างสมจริงคล้ายกับการถ่ายภาพด้วยเลนส์บนกล้องใหญ่แบบ DSLR มากทีเดียว แต่ผู้ถ่ายจำเป็นต้องปรับค่ารูรับแสงดังกล่าวให้พอดี และพอเหมาะกับวัตถุที่โฟกัส มิฉะนั้น ความคมชัดของตัววัตถุกับ ระยะชัดลึก-ชัดตื้น ด้านหลังจะไม่สมดุลกัน และอาจทำให้ภาพเสียได้ นอกจากนี้ กล้องคู่ Leica ของ Huawei P9 ยังใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Backside-illuminated Sensor (BSI CMOS) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด และมีขนาดของเม็ดพิกเซลใหญ่ถึง 1.25 ไมครอน ซึ่งช่วยให้เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ส่วนทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.4 ก็มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมามีความคมชัด สีสันสมจริง พร้อมโหมด Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 10 ระดับอีกด้วย

สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก หรือการออกแบบดีไซน์ของ Huawei P9 นั้นมาพร้อมกับความพรีเมียม และดูหรูหรา ด้วยการใช้งานวัสดุอะลูมิเนียม (Aluminium) คุณภาพสูงระดับเดียวกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน (Aerospace-Class) พร้อมเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (ตัวเครื่องอะลูมิเนียมถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) ส่งผลให้ตัวเครื่อง Huawei P9 มีความคงทนแข็งแรงมากเป็นพิเศษ

ในส่วนของคุณสมบัติตัวเครื่อง Huawei P9 ก็มาพร้อมกับความสามารถ และประสิทธิภาพในการใช้งานที่ครบครันไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS-NEO ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล) ขนาด 5.2 นิ้ว ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 423 ppi พร้อมกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4 ขอบนูนแบบ 2.5D, ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core HiSilicon Kirin 955 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz, ชิปเซ็ตประมวลผลกราฟิก Mali-T880 MP4, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และ RAM ขนาด 3 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง, รองรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี USB Type-C พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Dual-IC Rapid Charge : Fast Battery Charging) ซึ่งสามารถใช้สนทนาได้นาน 6 ชั่วโมง แม้ชาร์จแบตเตอรี่เพียง 10 นาที  และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชัน 4.1 และจากการทดสอบใช้งาน Huawei P9 ด้วยการเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกระดับสูง รวมไปถึงการรับชมวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล และไม่มีอาการกระตุก แต่ในช่วงที่มีการประมวลผลมากๆ และต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการเล่นเกมที่มีภาพกราฟิกระดับสูง ตัวเครื่องอาจเกิดความร้อนสะสมขึ้นได้ แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับการใช้งานแต่อย่างใด

หลังจากที่ได้จับถือ และทดลองใช้งาน Huawei P9 มาได้สักระยะก็ต้องขอบอกว่า Huawei P9 สามารถตอบสนองต่อการใช้งานในทุกๆ ด้านได้เป็นอย่างดี การทำงานของตัวเครื่องลื่นไหล ไม่มีติดขัด อีกทั้งในส่วนของฟีเจอร์พระเอกอย่าง กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ที่ร่วมกันผลิตกับ Leica นั้นถือว่าตอบโจทย์สำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพได้โดยตรง ดังนั้น Huawei P9 จึงน่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมองหาสมาร์ทโฟนกล้องเด่น, ตัวเครื่องมีความหรูหราพรีเมียม และคงทนแข็งแรง, สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย และที่สำคัญคือผู้ใช้จะไม่ผิดหวังเรื่องกล้องถ่ายภาพอย่างแน่นอน ซึ่งในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มีกล้องถ่ายภาพขั้นโปรนั้น Huawei P9 ก็เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจเป็นลำดับต้นๆ

โดยขณะนี้ Huawei P9 ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ในราคา 16,990 บาท หากท่านใดสนใจจับจองเป็นเจ้าของสามารถแวะเวียนไปทดลองใช้งานได้ที่ Huawei Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาใกล้บ้านท่าน และทีมงานต้องขอขอบคุณ Huawei (ประเทศไทย) ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Huawei P9 มาให้ทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ได้ในรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดรุ่นต่อไป สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Huawei P9

- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (ตัวเครื่องอะลูมิเนียมถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) โดยใช้อะลูมิเนียมคุณภาพสูงระดับเดียวกันกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน (Aerospace-Class)
- ชนิดจอแสดงผลแบบ IPS-NEO LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.2 นิ้ว : 423 ppi)
- กระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Octa-Core HiSilicon Kirin 955 ความเร็วในการประมวลผล 2.5 GHz (ซีพียู Quad-Core Cortex-A72 ความเร็ว 2.5 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 ความเร็ว 1.8 GHz)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 6.0 (Marshmallow)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง พร้อมเลนส์คู่คุณภาพสูงที่พัฒนาร่วมกับ Leica (กล้องดิจิทัลตัวที่หนึ่ง ความละเอียดระดับ 12 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิทัลตัวที่สอง ความละเอียดระดับ 12 ล้านพิกเซล) พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ BSI, ขนาดของจุดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.2, ไฟแฟลชในตัว (Dual-LED : Dual-Tone), เทคโนโลยี IMAGEsmart 5.0, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Hybrid Autofocus (Laser Autofocus) และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 60 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.4 และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- USB Type-C 1.0 (High Speed USB) (สามารถสลับด้านของหัวต่อได้อย่างอิสระ)
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion 3000 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Dual-IC Rapid Charge : Fast Battery Charging) (ชาร์จแบตเตอรี่ 10 นาที สามารถใช้สนทนาได้นาน 6 ชั่วโมง)
- มี 3 สีมาตรฐานให้เลือก (Prestige Gold, Titanium Grey และ Mystic Silver)
- ราคาเปิดตัว 16,990 บาท (ประเทศไทย)

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Huawei P9

- หน้าจอไม่รองรับเทคโนโลยี Press Touch ในขณะที่รุ่น P9 Plus รองรับ
- ไม่มีระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization)
- ไม่รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K UHD (รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p)
- ไม่รองรับเทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลไร้สายแบบ NFC
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
- ในช่องซิมการ์ดที่สองต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- แบตเตอรี่เป็นแบบ Built-in Battery จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนด้วยตนเองได้
- ขณะที่ใช้งานกล้องในโหมดโปร เมื่ออยู่ภายใต้แสงของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ การแสดงผลจากเซ็นเซอร์กล้องจะมีลักษณะเป็นคลื่น

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Huawei P9 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Huawei P9

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::