รีวิว (Review) Huawei Ascend Mate7
สมาร์ทโฟนเรือธงจอใหญ่ดีไซน์หรู ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง, ซีพียูระดับ Octa-Core, กล้อง 13 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในราคาไม่เกินเอื้อม
Review
Date (25-พฤศจิกายน -2557)

วันนี้นับเป็นโอกาสอันดีอีกครั้ง ที่ทีมงานของเราได้รับเครื่อง Huawei Ascend Mate7 อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์มารีวิวทดสอบให้ทุกท่านได้ชมกัน ซึ่งแน่นอนว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของแบรนด์ หัวเว่ย (Huawei) กันมาบ้างแล้ว เนื่องจากหัวเว่ยถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดสมาร์ทโฟนโลกเลยทีเดียว โดยด้านการออกแบบดีไซน์ของ Huawei Ascend Mate7 นั้น ดูเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความพรีเมียมหรูหราเป็นพิเศษ แต่ขนาดของตัวเครื่องโดยรวมอาจจะดูใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปบ้าง เนื่องจากมีจอแสดงผลที่ใหญ่ถึง 6 นิ้วนั่นเอง ซึ่งในส่วนของขอบตัวเครื่อง และด้านหลังของตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นโลหะ ซึ่งช่วยให้สามารถระบายความร้อนของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี

รวมไปถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เริ่มตั้งแต่หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor โดยเป็นชิปเซ็ตจาก Huawei เองที่มีชื่อว่า HiSilicon Kirin 925 ซึ่งจะมีซีพียู Quad-Core Cortex-A15 ความเร็ว 1.8 GHz และ ซีพียู Quad-Core Cortex-A7 ความเร็ว 1.3 GHz, แบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุ 4100 mAh ซึ่งถือว่าเป็นความจุที่สูงมากเป็นพิเศษ, จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p, กล้องดิจิตอลที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้องดิจิตอลที่ด้านหน้าของตัวเครื่องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และสิ่งที่เป็นจุดขายสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ Huawei Ascend Mate7 ก็คือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั่นเอง และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราลองมาติดตามชมกันต่อดีกว่าว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะมีจุดเด่น และมีความน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Huawei Ascend Mate7 นั้นมาพร้อมกระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน และหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS LCD ขนาด 6 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดระดับ Full HD (1920x1080 Pixels) รวมไปถึงมีระยะห่างระหว่างขอบตัวเครื่อง และขอบหน้าจอ เพียง 2.9 มิลลิเมตร

ด้านหน้าส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วย เลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้าน Pixels ถัดมาคือลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา และเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา รวมไปถึงระบบ Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุน หรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบไปด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ซึ่งจะมีปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่มเรียกดูแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานล่าสุด (Recent Apps)

ส่วนขอบด้านข้างรอบๆ ของตัวเครื่องนั้นทำมาจากวัสดุแบบโลหะ โดยด้านข้างส่วนบนนั้นจะประกอบด้วย ช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังมาตรฐาน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านข้างส่วนล่างนั้นจะประกอบด้วย ช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แบบ microUSB และไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือ บันทึกเสียง

ด้านข้างฝั่งขวานั้น จะประกอบไปด้วย ปุ่มสำหรับ เปิด-ปิด เครื่อง หรือ ล็อคหน้าจอ ถัดขึ้นมาก็จะเป็นปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ส่วนด้านข้างฝั่งซ้ายนั้น จะมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ microSIM และใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ที่รองรับได้สูงสุดขนาด 64 GB โดยฝาที่ปิดถาดซิมการ์ดนั้นสามารถเปิดได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้ SIM Door Key ที่แถมมาให้ในกล่อง ซึ่งสามารถเปิดได้โดยจิ้มเข้าไปในช่อง และถาดซิมการ์ดนั้นจะดันตัวออกมา

วัสดุด้านหลังตัวเครื่องนั้นทำมาจากโลหะ ซึ่งช่วยในการระบายความร้อนของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี โดย Huawei Ascend Mate7 นั้นไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 4,100 mAh ซึ่งถือว่ามากเป็นพิเศษ สำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

ด้านหลังส่วนบนนั้น จะประกอบไปด้วยกล้องดิจิตอล ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4128x3096 Pixels ถัดมาจะเป็นไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านหลังส่วนล่างนั้น จะมีลำโพงเสียงภายนอกขนาดเล็ก แต่ให้เสียงที่ดังชัดเจนพอสมควร
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Huawei Ascend Mate7 มาพร้อมหน่วยประมวลผลการทำงานแบบ Octa-Core Processor (ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 925 โดยมีซีพียู Quad-Core Cortex-A15 ความเร็ว 1.8 GHz และ ซีพียู Quad-Core Cortex-A7 ความเร็ว 1.3 GHz ทำงานร่วมกัน) และหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T628 รวมไปถึงหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat) พร้อม User Interface แบบ Emotion UI เวอร์ชัน 3.0 (EMUI 3.0)

ส่วนพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB จะเหลือให้ใช้งานได้จริงประมาณ 11.44 GB ซึ่งอาจจะดูน้อยไปสักหน่อย แต่ Huawei Ascend Mate7 นั้นก็สามารถรองรับการใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมเพิ่มเติมได้สูงสุดที่ขนาด 64 GB

ในส่วนของการ เปิด-ปิด เครื่องนั้น ก็จะมี โหมดปิดเครื่อง, โหมดรีสตาร์ท,โหมดใช้งานบนเครื่องบิน, โหมดปิดเสียง, โหมดเปิดระบบสั่น และโหมดเปิดเสียง

สำหรับ User Interface ในหน้า Lock Screen นั้นจะมี Notification Bar ที่อยู่ด้านล่าง พร้อมทั้งแอปพลิเคชันลัดบางส่วน เพื่อการใช้งานที่สะดวกรวดเร็ว

หน้า Home Screen นั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย พร้อมทั้งยังมีแอปพลิเคชันติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google และแอปพลิเคชันเบ็ดเตล็ดต่างๆ อย่างเช่น แอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศ ,เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง และวิทยุ เป็นต้น


และผู้ใช้งานก็สามารถการตกแต่ง เพิ่มวอลเปเปอร์, วิดเจ็ต, การเปลี่ยนรูปแบบ และการจัดวางไอคอน ในหน้า Home Screen ได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงตกแต่ง ธีม ได้เช่นกัน

เมื่อกดที่ปุ่ม Recent Apps เครื่องก็จะแสดงประวัติของแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เคยใช้งานล่าสุด และสามารถแตะที่ไอคอนแอปพลิเคชันนั้น เพื่อสลับการทำงานของแอปพลิเคชันในปัจจุบัน รวมไปถึงการปัดขึ้นเพื่อปิดการทำงานของแอปพลิเคชัน

และเมื่อปัดขอบหน้าจอด้านบนลงมาก็จะเข้าสู่โหมด Notification Bar โดยด้านบนนั้นจะมีการแจ้งเตือนสถานะต่างๆ พร้อมทั้งยังสามารถบล็อค หรือ ลบการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ ไม่ว่าจะเป็น WiFi, บลูทูธ, การสั่นเตือน, หมุนหน้าจออัตโนมัติ, การเชื่อมต่อข้อมูล, จีพีเอส และการปรับแสงหน้าจอ เป็นต้น

ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ มีการออกแบบให้ใช้งานง่าย และสามารถ เลือกเก็บบันทึกเบอร์ผู้ติดต่อใหม่ได้ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งยังสามารถค้นหารายชื่อผู้ติดต่อได้

คีย์บอร์ด Huawei Ascend Mate7 นั้น มีความสามารถหลากหลายไม่ว่าจะเป็น การพิมพ์แบบ Swype Keyboard หรือจะพิมพ์ด้วยเสียง ก็สามารถทำได้

สามารถเข้าใช้งานฟังก์ชัน Google Now แบบด่วนได้ โดยกดปุ่ม โฮม ค้างไว้ ประมาณ 2 วินาที รวมไปถึงการค้นหาข้อมูล หรือ ไฟล์ด้วยเสียง ก็สามารถทำได้เช่นกัน

พร้อมรองรับการใช้งาน Email ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Hotmail, Yahoo รวมไปถึงการใช้งาน Exchange เป็นต้น

โปรแกรมเรียกดูไฟล์ ซึ่งสามารถเรียกดูไฟล์ หรือดูข้อมูลแบบแยกประเภท พร้อมทั้งการแจ้งเตือนเมื่อพื้นเก็บข้อมูลใกล้เต็ม

การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะป็นเบราว์เซอร์ Android หรือ เบราว์เซอร์ Chrome นั้นถือว่ามีความรวดเร็ว และราบรื่น ไม่มีสะดุดเลยก็ว่าได้

ส่วนการใช้งานด้านการฟังเพลง Huawei Ascend Mate7 จะมีแอปพลิเคชันสำหรับการฟังเพลง พร้อมระบบแบบ DTS มาให้ในตัว ซึ่งสามารถดูรายการเพลงทั้งหมด, ชื่อศิลปิน, อัลบั้ม และรายการเพลงโปรด รวมไปถึงการรองรับไฟล์เพลง MP3, MIDI, AMR-NB, AMR-WB, AAC, AAC+, eAAC+, PCM และ WMA


ส่วนแอปพลิเคชัน Youtube สำหรับการเข้าชมคลิปวีดีโอต่างๆ แบบออนไลน์ ก็ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย พร้อมทั้งแอปพลิเคชันสำหรับการชมภาพยนตร์ ก็สามารถเปิดไฟล์วีดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels) ได้อย่างราบรื่นเลยทีเดียว รวมไปถึงระบบเสียงแบบ DTS ก็ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน




ด้านความสามารถในการเล่นเกมส์ ก็ถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว โดย Huawei Ascend Mate7 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิค แบบ Mali-T628 ซึ่งสามารถรองรับการเล่นเกมส์ที่ใช้กราฟฟิคในระดับสูงๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
แอปพลิเคชัน และฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจบน Huawei Ascend Mate7

Huawei Ascend Mate7 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง

โดยจะทำงานร่วมกับฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งการเปิดใช้งาน หรือ ลงทะเบียนจะต้องป้อนรหัสผ่านบนแอปพลิเคชันเสียก่อน แล้วจึงมาลงทะเบียนลายนิ้วมือของเราให้เรียบร้อยอีกครั้ง โดยฟังก์ชันสแกนนิ้วมือสามารถใช้งานได้กับการปลดล็อคหน้าจอ หรือ ปลดล็อคการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ

ซึ่งการเก็บข้อมูลลายนิ้วมือก็ไม่ยากจนเกินไป เพียงผู้ใช้งานนำนิ้วใด นิ้วหนึ่งวางไว้ตรงเซ็นเซอร์ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ระบบก็จะทำการบันทึกลายนิ้วมือ โดยสามารถลงทะเบียนลายนิ้วมือได้ทั้งหมด 5 ชุดด้วยกัน

สำหรับวงแหวนไอคอนลัด จะมีฟังก์ชันพื้นฐานหลายอย่างให้เรียกใช้งานไม่ว่าจะเป็น หน้าหลัก, ล็อคหน้าจอ และกล้องดิจิตอล เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถลากวงแหวนไอคอนลัดไปทางขวา และทางซ้าย เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น

โหมดปกสมาร์ท เมื่อผู้ใช้งานเปิดใช้งานโหมดนี้ การแจ้งเตือน และข้อมูลจะแสดงในจอขนาดเล็ก

โหมดใช้งานมือเดียว เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ แป้นพิมพ์จะเลื่อนไปอยู่ในด้านที่ผู้ใช้งานเอียงเครื่อง

ฟังก์ชันนับก้าวเดิน ซึ่งจะนับการก้าวเดิน หรือ การขยับแขน ขยับขา ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน

แล้วอีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจอย่าง โหมดใส่ถุงมือ ซึ่งสามารถใส่ถุงมือแตะ หรือ เลื่อนหน้าจอได้ตามที่ต้องการ

และแน่นอนว่าผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ที่ Google Play Store
ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยแอปพลิเคชันทดสอบต่างๆ

Huawei Ascend Mate7 นั้นรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้สูงสุด 10 จุด

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้าน GPS ในพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยแอปพลิเคชัน AndroiTS GPS Test จะเห็นว่าสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 20 ดวง ล็อคสัญญาณได้ 13 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณ อยู่ในช่วงประมาณ 1-87 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 12 เมตร

และเมื่อทดสอบอีกครั้งบนพื้นที่เปิดโล่งด้วยแอปพลิเคชัน GPS Test จะพบว่าสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยประมาณ 20 ดวง ล็อคสัญญาณได้โดยประมาณ 12 ดวง และระดับความแรงของสัญญาณอยู่ในช่วงประมาณ 12-44 ส่วนระดับความแม่นยำโดยประมาณอยู่ที่ 26 ฟุต อย่างไรก็ดี ผลการทดสอบการรับสัญญาณดาวเทียมในแต่ละช่วงเวลาก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมขณะทดสอบ เช่นท้องฟ้าเปิดโล่งมากน้อยขนาดไหน หรือมีอาคารสถานที่มาบดบังสัญญาณมากน้อยเพียงใด

ในตัวเครื่อง Huawei Ascend Mate7 นั้นสามารถใช้งานระบบ GPS และ A-GPS ร่วมกับ แอปพลิเคชัน Google Maps และแอปพลิเคชันนำทางต่างๆ ได้

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Antutu Benchmark ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 43193 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Vellamo ผลคะแนนในส่วนของ Browser จะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ Browser ที่ติดตั้งมากับเครื่อง จะมีคะแนนอยู่ที่ 2882 คะแนน และส่วนของ Chrome จะมีคะแนนอยู่ที่ 3070 คะแนน ส่วนผลคะแนนของ Multicore จะออกมาอยู่ที่ 1816 คะแนน และคะแนนในส่วนของ Metal จะออกมาอยู่ที่ 1377 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม Quadrant Standard ผลคะแนนจะออกมาอยู่ที่ 12109 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วยโปรแกรม AndEBench ผลคะแนน Native จะออกมาอยู่ที่ 19017 คะแนน และผลคะแนน Java จะออกมาอยู่ที่ 578 คะแนน
กล้องดิจิตอล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ



สำหรับกล้องดิจิตอลด้านหลังของ Huawei Ascend Mate7 นั้นมีความละเอียดสูงสุดถึง 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0 พร้อมทั้งสามารถสลับเปลี่ยนเป็นกล้องดิจิตอลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดสูงสุดถึง 5 ล้านพิกเซล ได้ด้วยการกดที่ไอคอนรูปม้วนกลับที่ด้านซ้ายของหน้าจอ และยังสามารถเปลี่ยนโหมดโฟกัสภาพ และโหมดวีดีโอ ได้อีกด้วย


สามารถเปิด-ปิด ไฟแฟลชได้ พร้อมทั้งยังมีเอฟเฟกต์มาให้เลือกใช้งานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สดใส, แผ่รัศมี, ครุ่นคิด, อ่อนเยาว์ และสว่าง เป็นต้น

รวมไปถึงตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โหมดแต่งสวย


โหมดพาโนรามา, โหมดการถ่ายภาพแบบ HDR, สมุดโน๊ตแบบเสียง และโหมดถ่ายภาพที่ดีที่สุด

รวมไปถึงโหมดลายน้ำ ซึ่งสามารถเพิ่มตำแหน่ง, พยากรณ์อากาศ, อารมณ์ และอาหาร


ในส่วนของการตั้งค่านั้นยังสามารถปรับแต่งความละเอียดของภาพถ่ายได้หลายระดับ รวมไปถึงตั้งค่า GPS, ปิดเสียง, ตัวเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือเพื่อถ่ายภาพ, ตั้งเวลาถ่ายภาพ, สัมผัสเพื่อจับภาพ, ค่าไวต์บาลานซ์ และค่า ISO เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ Huawei Ascend Mate7

ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางวันแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางวันแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ
 
ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางวันแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ
 
ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางวันแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางคืนแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางคืนแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ
 
ตัวอย่างภาพถ่ายในเวลากลางคืนแบบไม่ได้ปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ
สรุปผลการทดสอบของ Huawei Ascend Mate7

หากถามว่าความประทับใจอย่างแรกเมื่อได้พบเห็น และได้สัมผัสกับ Huawei Ascend Mate7 คืออะไร ก็ต้องบอกว่าคงเป็นเรื่องของการออกแบบดีไซน์ภายนอกที่ดูสวยหรู ดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ด้วยวัสดุโลหะที่ช่วยให้ตัวเครื่องดูมีราคา ประกอบกับความบางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร เมื่อได้เห็นจึงดูสะดุดตาไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ 6 นิ้วที่ดูดีอีกรุ่นเลยทีเดียว และนอกจากจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ กับหน้าจอแบบ LTPS ใหญ่ยักษ์ซึ่งมีความละเอียดระดับ Full HD 1080p แล้ว คุณสมบัติต่างๆ ก็จัดว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์ ครบเครื่องไม่แพ้สมาร์ทโฟนตัวเรือธงจากแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เริ่มตั้งแต่หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core HiSilicon Kirin 925, ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat), หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, รองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุด 64 GB, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ LTE/3G/WiFi, รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน NFC, ระบบ GPS+A-GPS ในตัว, กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์สำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ Huawei Ascend Mate7 รุ่นนี้สามารถขึ้นไปเทียบชั้นกับสมาร์ทโฟนตัวเรือธงจากแบรนด์ดังได้อย่างเต็มตัวก็คือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ซึ่งฟีเจอร์นี้มักจะมีอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของแต่ละค่ายเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นระบบการตรวจสอบสิทธิ์ที่ล้ำหน้าสุดๆ ในยุคนี้ โดย Huawei Ascend Mate7 นั้นได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราแล้ว ในราคา 16,990 บาท ซึ่งด้วยราคานี้ หากเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวเรือธงจากแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ก็นับว่าเป็นราคาที่ย่อมเยากว่าพอสมควร หากท่านใดสนใจก็สามารถลองไปสัมผัสตัวจริง และหาซื้อได้แล้วที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Huawei Ascend Mate7
- บอดี้ตัวเครื่องมีการออกแบบดีไซน์ที่บางเฉียบเรียบหรู พร้อมวัสดุแบบโลหะที่ดูทนทานแข็งแรง และดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ใช้ เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง
- จอแสดงผลแบบ LTPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 6.0 นิ้ว : 368 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T628
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core HiSilicon Kirin 925 (ซีพียู Quad-Core Cortex-A15 ความเร็ว 1.8 GHz + ซีพียู Quad-Core Cortex-A7 ความเร็ว 1.3 GHz)
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.4.2 (KitKat) พร้อม User Interface แบบ Emotion UI เวอร์ชัน 3.0 (EMUI 3.0)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 64 GB
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, LTE, HSPA+, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งาน LTE และ 3G ได้ครบทุกคลื่นความถี่
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง NFC และ Bluetooth
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- ระบบเสียงแบบ DTS Surround
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพจาก Sony, รูรับแสงขนาด F/2.0, ไฟแฟลชแบบ LED ในตัว, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการถ่ายภาพวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
- แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer ความจุสูง 4100 mAh สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวัน
- ราคาจำหน่ายที่ 16,990 บาท หากเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวเรือธงจากแบรนด์ชั้นนำรุ่นอื่นๆ ถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูง
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Huawei Ascend Mate7
- พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลภายในขนาด 16 GB เหลือให้ใช้งานจริงอยู่เพียงแค่ประมาณ 11.44 GB
- เมื่อเล่นเกมส์ไปสักพัก ตัวเครื่องจะร้อนพอสมควร
- ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- ไม่รองรับการถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K UHD
- ตัวเครื่องมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ การใช้งานด้วยมือข้างเดียว หรือการพกพาจึงไม่สะดวกมากนัก
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Huawei Ascend Mate7 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้
Huawei Ascend Mate7 Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|