รีวิว (Review) Honor 7C
สมาร์ทโฟนกล้องคู่ พร้อมจอ FullView ในราคาเริ่มไม่ถึง 5 พันบาท! ด้วยกล้องคู่ PDAF 13+2 ล้านพิกเซล ผสานจอ FullView HD+ 18:9 ใหญ่เต็มตา 5.99 นิ้ว พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 450, RAM 3GB, ROM 32GB, Android Oreo, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ระบบสแกนใบหน้า, เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว และแบตเตอรี่ 3000 mAh บนบอดี้โลหะเรียบหรูบางเฉียบ กับราคาเริ่มต้นสุดคุ้มเพียง
4,690 บาท!
Review
Date (30-เมษายน-2561)

หลังจากที่เปิดตัว Honor 7X สมาร์ทโฟนกล้องคู่จอ FullView ราคาย่อมเยากันไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Honor ประเทศไทย ก็ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนกล้องคู่จอ FullView รุ่นเล็กใหม่ล่าสุดอย่าง Honor
7C ที่เน้นเจาะกลุ่มในตลาดระดับเริ่มต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยชูจุดเด่นในเรื่องของกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการปรับค่ารูรับแสง (Wide Aperture) สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ, สเปกครบเครื่องทุกการใช้งานในระดับเริ่มต้น, ดีไซน์เรียบหรู แข็งแกร่ง และมีราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
สำหรับ Honor 7C นั้นมีจุดขายที่หลักที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, หน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ IPS LCD FullView Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9, รองรับฟังก์ชัน Split Screen สำหรับแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน,
รองรับโหมดถนอมสายตา, กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลช LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Toning Light, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock), มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G
LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.0 Oreo
โดย Honor 7C นั้นได้เปิดราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 4,690 บาท เท่านั้น! และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Honor 7C นั้นมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ทั้งในเรื่องของหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบไซส์ยักษ์ 5.99 นิ้ว พร้อมดีไซน์เรียบหรู โค้งมนจับถนัด, ฟีเจอร์การใช้งานที่ครบเครื่องทุกการใช้งาน และถ่ายภาพได้คมชัดทั้งกล้องด้านหน้า-ด้านหลัง ซึ่งหากเทียบกับราคาค่าตัวแล้ว ก็ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน กล้องดิขิทัลถ่าย
าพได้สวยสมคำร่ำลือหรือไม่ และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Honor 7C พร้อมกันต่อได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Honor 7C มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ IPS LCD FullView Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 158.3x76.7x7.8 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 164 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Toning Light, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล, ไมโครโฟน และลำโพงเสียงภายนอก

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้า และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง


ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นแบบ Triple-Slot Tray ซึ่งเป็น 3 ช่องอิสระ ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมๆ กัน


ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องถ่ายภาพแบบ Dual-Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลช LED นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ใช้งาน และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกวิดีโอ หรือบันทึกเสียง

สำหรับตัวเครื่องของ Honor 7C นั้นเป็นโลหะ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
Honor 7C ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติ Android เวอร์ชัน 8.0 Oreo และรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ และรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE)
 
มาพร้อมกับหน่วยความจำขนาด 3 GB และหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ GPS
 
 
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ
 
ทางด้านฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดพอดีกับนิ้วมือช่วยให้กดหมายเลขที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันที
 
สำหรับบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน
 
นอกจากนี้ ยังเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตา (Eye Comfort) ด้วยการลดแสงสีฟ้า สำหรับใช้งานที่สภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังสามารถสลับปุ่ม On Screen ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้อีกด้วย
 
สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ และสามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อถ่ายภาพ, ถ่ายวิดีโอ, รับสายเรียกเข้า หรือหยุดนาฬิกาปลุกได้ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ
 
ซึ่งนอกจากระบบสแกนลายนิ้วมือแล้วนั้นบน Honor 7C ยังมีระบบจดจำใบหน้าให้ใช้งานอีกด้วย โดยตัวฟังก์ชันจะทำการสแกนใบหน้าหลายจุด เพื่อเก็บรายละเอียดใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันผู้อื่นแอบอ้างเองภาพถ่ายของผู้ใช้มาทำการปลดล็อกเครื่อง เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งขั้นเลยทีเดียว
 
ในส่วนของอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 อย่างด้วยกัน คือ แสดงภาพถ่ายแบบแยกอัลบั้ม และแสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด

มีฟังก์ชัน Split Screen สำหรับแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 หน้าจอ
 
มีเซ็นเซอร์พื้นฐานติดตั้งมาให้อย่างครบครัน แต่จะไม่มี Gyroscope Sensor ให้ใช้งาน
 
สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ดี พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย และรองรับระบบดาวเทียม Beidou ของจีน โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 37 ดวง และมีค่าความแม่นยำอยู่ที่บวกลบ 10 เมตร (คลาดเคลื่อนไม่เกิน 10 เมตร) ซึ่งคุณภาพของการจับสัญญาณอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่
 
มาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง หรือท่านใดที่ชื่นชอบฟังรายการวิทยุ บน Honor 7C ก็มีแอปพลิเคชันวิทยุ FM ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน


สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
 
สำหรับ Hornor 7C จะมาพร้อมชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.0 Oreo


ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ ก็พบว่า Honor 7C นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งสามารถเล่นเกมโดยไม่มีอาการหน่วง หรืออาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ
 
และเมื่อนำ Honor 7C มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 68140 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 761 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 3689 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

Honor 7C สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
 
 
สำหรับ Interface ของกล้องถ่ายภาพก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมแสดงไอคอนฟังก์ชันเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานไฟแฟลช LED, การปรับค่ารูรับแสง, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพปกติ หรือโหมดถ่ายภาพ HDR
   
ในส่วนของฟังก์ชันการปรับค่ารูรับแสง (Wide Aperture) นั้นสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ f/1.0 ไปจนถึง f/7.0 และสามารถปรับค่าโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้ถึง 10 ระดับ
 
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถปรับได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย, ตารางเก้าช่อง, การปิดเสียงชัตเตอร์, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, สามารถสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียงได้, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม, การโฟกัสติดตามวัตถุ, สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียง และคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ส่วนของการถ่ายวิดีโอก็มีจุดเด่นที่สามารถเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยร่วมได้ และสามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) แต่ถ้าเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยจะสามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p) เท่านั้น
 
 
ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที เช่น การเปิดใช้งานไฟแฟลชที่ใช้แสงสว่างจากหน้าจอ (Selfie Toning Light) และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ หรือโหมดถ่ายภาพหน้าสวย
 
สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยก็สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ
 
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถปรับได้สูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย, กระจกเงาสะท้อน, ตารางเก้าช่อง, การปิดเสียงชัตเตอร์, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, สามารถสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียงได้, การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม, การโฟกัสติดตามวัตถุ, สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียง และคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ส่วนของการถ่ายวิดีโอก็มีจุดเด่นที่สามารถเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยร่วมได้ และสามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) แต่ถ้าเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยจะสามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p) เท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังแบบ Dual-Camera ของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13+2 ล้านพิกเซล ของ Honor 7C

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 5

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 10

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันการปรับค่ารูรับแสง (Wide Aperture) f/1.0

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันการปรับค่ารูรับแสง (Wide Aperture) f/4.0

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันการปรับค่ารูรับแสง (Wide Aperture) f/7.0
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Honor 7C
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 5
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 10
สรุปผลการทดสอบของ Honor 7C

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิว Honor 7C สมาร์ทโฟนกล้องคู่ (Dual-Camera) ระดับเริ่มต้นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับสเปกครบเครื่องทุกการใช้งานขั้นพื้นฐาน และตัวเครื่องเรียบหรูจับถนัดมือ ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ ซึ่งตัวเครื่องของ Honor 7C นั้นก็ต้องขอยอมรับว่าออกแบบมาได้สวยงามลงตัวไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความบางเฉียบเพียง 7.8 มิลลิเมตร
บวกกับฝาหลังเป็นพื้นผิวแบบด้าน ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว และไม่เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมืออีกด้วย
ทางด้านกล้องดิจิทัลก็ถือตอบโจทย์ต่อการถ่ายภาพได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF และไฟแฟลช LED ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการปรับค่ารูรับแสง (Wide Aperture) ซึ่งผู้ใช้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ เพื่อให้ตัวแบบมีความโดดเด่นขึ้นมาได้ นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งานอีกด้วย นั่นหมายความว่า
ไม่ว่าจะเป็นกล้องด้านหน้า หรือกล้องด้านหลังก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้ผิวสวย เรียบเนียน พร้อมโพสต์อวดเพื่อนๆ ผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ทันที
ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Selfie Toning Light ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีพอสมควร อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้เป็นอย่างดี ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ตัวแบบก็มีผิวเนียนกำลังดี ดูไม่สว่าง อีกหนึ่งความพิเศษคือ บันทึกวิดีโอนั้นก็สามารถเปิดใช้งานโหมดหน้าสวยได้เช่นเดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ กับความสนุกสนานให้กับการถ่ายวิดีโอของผู้ใช้ได้อย่างแน่นอน
นอกจากในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ทางด้านหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ IPS LCD FullView Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของหน้าจอแบบ FullView Display นั้นช่วยให้ Honor 7C นั้นมีพื้นที่หน้าจอแสดงผลเพิ่มมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดของตัวเครื่อง จึงทำให้สามารถรับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตา เช่น ภาพยนตร์ หรือเล่นเกม
นอกจากนี้ ด้วยความที่มีสัดส่วน หรือพื้นที่ของหน้าจอแสดงผลเพิ่มมากขึ้น จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมๆ กัน 2 แอปพลิเคชันผ่านฟังก์ชัน Split Screen ได้อย่างสบายๆ และสามารถแสดงคอนเทนท์ที่รับชมได้อย่างครบถ้วน
ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น รองรับโหมดถนอมสายตา, มีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock), มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 506, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.0 Oreo ซึ่งจากทดสอบทั้งการเล่นเกมที่มีการฟิกแบบสามมิติ หรือชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) Honor 7C ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่นโดยไม่มีอาการหน่วง
หรือกระตุกให้พบเจอ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Honor 7C น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีจอ FullView ใหญ่คมชัดเต็มตาในอัตราส่วนยุคใหม่แบบ 18:9 พร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่ครบครัน, ดีไซน์โค้งมนจับถนัดมือ และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ ในราคาที่คุ้มค่าเป็นเจ้าของได้ง่าย ซึ่ง Honor 7C ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับท่านใดที่สนใจ Honor 7C ก็สามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ Lazada.com ในราคาลดพิเศษเหลือเพียง 4,690 บาท เท่านั้น! จากราคาปกติที่ 5,290 บาท โดยต้องสั่งซื้อในช่วง Flash Sale ของวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ในช่วงเวลา 12.00-16.00 น. เท่านั้น ท่านใดสนใจก็อดใจรอกันอีกนิดนะครับ
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Honor ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Honor 7C มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Honor 7C
- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Unibody (โลหะ) จึงทำให้มีความสวยงาม และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- มีระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock) และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลไร้ขอบแบบ IPS LCD FullView Display ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วนแบบ 18:9 พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 506
- มีโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า (Eye Comfort)
- มีฟังก์ชัน Split Screen สำหรับแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 450 ความเร็วในการประมวลผล 1.8 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.0 Oreo พร้อมครอบทับด้วย EMUI 8.0
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, รองรับโหมดถ่ายภาพ Wide Aperture และไฟแฟลช LED, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.0, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby) พร้อมถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS และ Beidou
- เทคโนโลยี Dual Bluetooth
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3000 mAh พร้อมเทคโนโลยี SmartPower 5.0
- มี 3 สีมาตรฐานให้เลือก (น้ำเงิน, ดำ และทอง)
- ราคา 5,290 บาท (ราคาลดพิเศษเหลือ 4,690 บาท เฉพาะการสั่งซื้อในช่วง Flash Sale บนเว็บไซต์ Lazada ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ช่วงเวลา 12.00-16.00 น. เท่านั้น)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Honor 7C
- ไม่มีเซ็นเซอร์ Gyroscope
- ราคา 4,690 จำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ในช่วง Flash Sale เท่านั้น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Honor 7C ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Honor 7C

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus :: |