รีวิว (Review) Honor 10
เรือธง Honor ตัวท็อปรุ่นแรกของค่าย ด้วยจอ FullView บนบอดี้กระจก Aurora Glass Design สุดเงางาม, ชิปเซ็ต Kirin 970 ผสาน Mobile AI สุดอัจฉริยะ, กล้องหลังคู่ 24 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า AI Beauty 24 ล้านพิกเซล, ROM ใหญ่จุใจ 128GB และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว Ultrasonic ในราคาเพียง 13,990 บาท!
Review
Date (22-พฤษภาคม-2561)

หลังจากที่ค่าย Honor ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนชื่อดังจากประเทศจีนได้เริ่มเข้ามาทำตลาดออนไลน์ในบ้านเราด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นประเดิมในระดับกลางที่มีราคาย่อมเยาอย่าง Honor 9 Lite, Honor 7C และ Honor 7X ล่าสุดนี้ก็ถึงคิวของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงอย่าง Honor 10 แล้ว ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ตัวเครื่องอันโดดเด่น ด้วยหน้าจอไร้ขอบแบบ Honor FullView Display พร้อมรอยบาก (Notch) ในอัตราส่วน 19:9 บนบอดี้กระจกแบบ 3D Glass หรือที่เรียกว่าดีไซน์แบบ Aurora Glass Design และพกพาฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลด้วยชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 970 ที่มีหน่วยประมวลผล NPU (Neural Processing Unit) ฝังอยู่ภายใน สำหรับช่วยประมวลผลงานด้าน
AI โดยเฉพาะ และหน่วยความจำ RAM
ขนาด 4GB พร้อมหน่วยความจำ ROM ที่มีขนาดใหญ่ถึง 128GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh พร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง Honor SuperCharge บนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอย่าง Android 8.1 Oreo ที่ถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1 รวมถึงระบบความปลอดภัยที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ และใบหน้า
และอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของ
Honor 10 ที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ นั่นก็คือกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลัง โดยกล้องตัวแรกเป็นเซ็นเซอร์รับภาพขาวดำ (Monochrome) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 ส่วนกล้องตัวที่สองเป็นเซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงเท่ากันที่ F/1.8 และมีไฟแฟลช LED ในตัว พร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera
และระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF รวมถึงกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ที่มีความคมชัดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล

และจากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า Honor 10 มีจุดเด่นที่น่าสนใจในหลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียม หรือฟีเจอร์ระดับเรือธงแบบจัดเต็ม รวมถึงกล้องคู่ (Dual Camera) พร้อมเทคโนโลยี AI โดย Honor 10 เปิดราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ 13,990 บาท ถือได้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องที่ได้เมื่อเทียบกับราคานั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์จะครบเครื่องจัดเต็มสมกับที่เป็นรุ่นเรือธงของค่ายหรือไม่
ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Honor 10 พร้อมกันต่อได้เลยค่ะ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Honor 10 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล IPS LCD ไร้ขอบแบบ FullView Display ในอัตราส่วน 19:9 ขนาด 5.84 นิ้ว ที่มีความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+ (1080x2280 พิกเซล) บนตัวเครื่องขนาด 149.6x71.2x7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 153 กรัม

ด้านบนของหน้าจอมีการเว้นพื้นที่หน้าจอแสดงผลตรงกลาง หรือ Notch (รอยบาก) เอาไว้ สำหรับติดตั้งเซ็นเซอร์สำคัญต่างๆ ได้แก่ Accelerometer Sensor, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor พร้อมกับลำโพงสนทนา และกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ AI Portrait Mode

และสำหรับท่านต้องการปิด Notch ก็สามารถทำได้ โดยเลือกเปลี่ยนการแสดงของ Notch ที่เมนูตั้งค่าในตัวเครื่อง ซึ่งตัวระบบจะทำการเปลี่ยนแถบด้านบนเป็นสีดำให้กลมกลืนไปกับ Notch แทน

นอกจากนี้ Honor 10 ยังรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) แบบ 360 องศา
ที่สามารถปลดล็อกได้แม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย

ด้านล่างของหน้าจอ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนหน้าจอ (On-Screen Navigation) ถัดลงมามีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ถูกฝังเอาไว้ใต้กระจกแบบ Ultrasonic ที่สามารถสแกนได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถปลดล็อกได้แม้นิ้วมือเปียกน้ำ


ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM จำนวนสองช่อง

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ด้านบนของตัวเครื่อง มาพร้อมกับไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน และเซ็นเซอร์อินฟราเรด สำหรับใช้งานเป็นรีโมทควบคุม

ด้านล่างของตัวเครื่อง มาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก


Honor 10 มาพร้อมบอดี้ที่ผลิตมาจากวัสดุประเภทกระจกแบบ 3D Glass ที่มีการเคลือบผิวสัมผัสด้วยกระจกทั้งหมด 15 ชั้น ทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามเล่นกับแสง ซึ่งในสี Phantom Blue และสี Phantom Green นั้นตัวเครื่องจะมีการไล่เฉดสีเพื่อเสริมความโดดเด่น

ด้านหลังของ Honor 10 มีกล้องคู่ (Dual Camea) โดยกล้องตัวหลักเป็นเซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochome) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สองเป็นเซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera ที่นำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ

และจุดที่น่าสนใจคือ AI ของ Honor 10 สามารถแยกแยะ Object ที่ปรากฏอยู่บนภาพ เพื่อนำไปปรับแต่งให้มีความสวยงามได้ด้วย อย่างเช่นในบางสถานการณ์ ที่ภายในเฟรมมี Object ต่างกันทั้งท้องฟ้า, แม่น้ำ, ต้นไม้ และตัวแบบ แต่ตัว AI ก็ยังสามารถแยกแยะวัตถุ และซีนต่างๆ บนภาพได้
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ


Honor 10 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1 Oreo เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งถูกครอบทับด้วย EMUI 8.1 ที่เป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วยเช่นกัน และรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G

มีหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB และหน่วยความแรม (RAM) ขนาด 4GB


เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Themes และ Wallpaper ของตัวเครื่องได้อย่างอิสระ พร้อมเลือกใช้งาน Widget ที่ต้องการได้เช่นเดียวกัน

เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาก็จะมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนให้ใช้งาน และมีปุ่มทางลัดสำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชันต่างๆ มากมาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ

สำหรับบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครัน


รวมถึงแอปพลิเคชันพื้นฐาน และแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดนิยมก็มีการติดตั้งมาไว้ให้ได้ใช้งานกันด้วย


เปิดใช้งานโหมดถนอมสายตา (Eye Comfort) ด้วยการลดแสงสีฟ้า สำหรับใช้งานในสภาวะแสงน้อย และด้วยดีไซน์ของ Honor 10 ที่เป็นแบบ FullView Display ในอัตราส่วน 19:9 จึงส่งผลให้บางแอปพลิเคชันสามารถแสดงผลในสัดส่วนแบบเต็มหน้าจอได้ด้วย

สำหรับท่านที่ต้องการปิด Notch ก็สามารถทำได้ โดยเลือกเปลี่ยนการแสดงของ Notch ที่เมนูตั้งค่าในตัวเครื่อง ซึ่งตัวระบบจะทำการเปลี่ยนแถบด้านบนเป็นสีดำให้กลมกลืนไปกับ Notch แทน

สำหรับท่านใดที่ต้องการใช้งาน App Drawer สามารถไปเปิดได้ที่เมนู Home Screen Style และยังสามารถสลับตำแหน่งของปุ่ม Navigation Buttons ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้อีกด้วย
Honor 10 สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการใช้งานมือเดียวได้ โดยผู้ใช้สามารถลดขนาดหน้าจอ หรือปุ่มตัวเลข เพื่อให้สามารถใช้งานเพียงมือเดียวได้อย่างสะดวกสบาย

แอปพลิเคชัน Phone Manager จะช่วยในเรื่องการจัดการข้อมูลต่างๆ ด้วยการ Cleanup ข้อมูลที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ หรือลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ เพื่อให้ตัวเครื่องใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Honor 10 คือรองรับฟังก์ชัน App Twin สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน ซึ่งในเบื้องต้นนั้นสามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook หรือ Messenger จึงทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์

Honor 10 มี Motion Control สำหรับการใช้งานพื้นฐาน เช่น ปัดหน้าจอลงด้วย 3 นิ้วมือสำหรับแคปเจอร์หน้าจอเป็นต้น และยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ ไม่ว่าจะเป็น ยกตัวเครื่องขึ้นเพื่อเปิดหน้าจอ, การคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงนาฬิกาปลุก


Honor 10 มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน และรองรับและรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Honor SuperCharge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึงระดับ 50% ภายในเวลา 25 นาที

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Honor 10 มีทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ถูกฝังเอาไว้ใต้กระจกแบบ Ultrasonic ที่สามารถสแกนได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถปลดล็อกได้แม้นิ้วมือเปียกน้ำ พร้อมกับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) แบบ 360 องศา

โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ

Honor 10 รองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) แบบ 360 องศา
ที่สามารถสแกนใบหน้าได้แม่นยำแม้สวมแว่นตา

สำหรับท่านที่เป็นคนชอบออกกำลังกาย และเป็นสายรักสุขภาพ ก็มีแอปพลิเคชัน Health ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถวัดจำนวนก้าว, ระยะทาง หรือจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ รวมถึงตัวผู้ใช้สามารถสร้างแผนการออกกำลังกายสำหรับตนเองได้ด้วย

สำหรับข้อมูลในเครื่อง หรือไฟล์ต่างๆ ที่บันทึกไว้สามารถมาจัดการคัดลอก หรือย้ายโฟลเดอร์ได้ที่แอปพลิเคชัน Files

แอปพลิเคชัน Tips เป็นแหล่งรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงวิธีการ หรือเคล็ดลับบางอย่าง เช่น Tips สำหรับการใช้งานระบบปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า เป็นต้น

นอกจากนี้ Honor 10 ยังมาพร้อมแอปพลิเคชัน HiCare ที่รวบรวมข้อมูลบริการหลังการขาย, การใช้งาน และวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นไว้อย่างครบถ้วน

ท่านที่ใช้งาน Honor 10 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่แล้วอยากย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม ก็สามารถโอนย้ายข้อมูลด้วยแอปพลิเคชัน Phone Clone ได้ทันที
ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี ไหลลื่น และสามารถแสดงเนื้อหาทั้งหมดได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
Honor 10 มีฟังก์ชัน Split Screen ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน

ทางด้านอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบแยกอัลบั้ม กับแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่องนั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor

สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ดี พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย และ Beidou ของจีน โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 31 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 62 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่กำลังใช้งานอยู่ หรือสภาพอากาศด้วยนั่นเอง

Honor 10 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

สำหรับ Honor 10 มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Kirin 970 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.36 GHz และมีความพิเศษตรงที่มีหน่วยประมวลผล NPU ฝังอยู่ภายใน สำหรับช่วยประมวลผลงานด้าน AI โดยเฉพาะ โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo

Honor 10 มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 200,096 คะแนน และผลทดสอบจาก Geekbench 4 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 1,897 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 6,466 คะแนน
สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 2,882 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 3,061 คะแนน



จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติอย่าง Marvel Future Fight และ PUBG Mobile ก็พบว่า Honor 10 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง

Honor 10 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดระดับ Full HD+ และมีอัตราส่วนแบบ 19:9 จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

สำหรับกล้องถ่ายภาพของ Honor 10 เป็นแบบคู่ (Dual Camera) พร้อมเทคโนโลยี AI Camera โดยกล้องตัวหลักเป็นเซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochome) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องตัวที่สองเป็นเซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์เรียบหรู สบายตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน

โดยผู้ใช้สามารถปรับความละเอียดของกล้องได้ในส่วนของการตั้งค่า รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การปิด-เปิดเสียง, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการจับรอยยิ้มเพื่อถ่ายภาพ
สำหรับโหมดถ่ายภาพปกติของ Honor 10 สามารถเลือกความละเอียดสูงสุดได้ถึงระดับ 24 ล้านพิกเซล



ในโหมดการถ่ายภาพปกติ มีฟังก์ชัน AI ซึ่งเป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ โดยที่สามารถแยกแยะ Object ที่ปรากฏอยู่บนภาพ เพื่อนำไปปรับแต่งให้มีความสวยงามได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ ให้ได้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย เช่น AR Lens ที่เป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพด้วยสติกเกอร์สุดน่ารัก, Night Shot และการถ่ายภาพสีขาว-ดำ (Monochrome)

การถ่ายภาพในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) รองรับโหมด Beauty ที่สามารถปรับค่าได้ถึง 10 ระดับ และการปรับค่าแสง 3D Portrait Lighting ให้กับตัวแบบได้ถึง 5 สไตล์ เพื่อความเหมาะสม และอารมณ์ของภาพ

ในโหมด Aperture สามารถปรับความกว้างของรูรับแสงได้ตั้งแต่ F/0.95-F/16 โดยผู้ใช้สามารถนำมาปรับระดับความเบลอในภายหลังได้อีกด้วย

หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Honor 10 ได้แก่ AR Lens สำหรับการถ่ายภาพพร้อมสติกเกอร์น่ารักๆ
ที่มีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ



สำหรับการถ่ายโหมด Pro บน Honor 10 มาพร้อมกับรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด

สำหรับการถ่ายภาพขาว-ดำ (Monochrome) ก็มีให้เลือกใช้บน Honor 10 ด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกถ่ายพร้อมกับ
โหมดรูรับแสง (Aperture), หน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) และโหมด Beauty ได้อีกด้วย


การถ่ายวิดีโอบน Honor 10 รองรับโหมด Beauty ได้ด้วยเช่นกัน โดยสามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดที่ระดับ HD 720p ส่วนในโหมดปกติสามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดได้ที่ระดับ 4K Ultra HD เลยทีเดียว

ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตา Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้
ใช้งานได้ทันที และสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ที่เมนูตั้งค่า
สามารถเลือกความคมชัดในการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าได้สูงสุดที่ 24 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วน 4:3 พร้อมมีโหมดการถ่ายภาพแบบอื่นๆ อยู่อย่างครบครัน

นอกจากนี้ Honor 10 ยังมาพร้อมลูกเล่นที่น่าสนใจอย่างฟีเจอร์ AR Lens สำหรับการถ่ายภาพพร้อมสติกเกอร์น่ารักๆ ที่ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินให้กับการเซลฟี่


กล้องหน้าของ Honor 10 มาพร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) และโหมดรูรับแสง (Aperture) รวมถึงรองรับเทคโนโลยี AI ในการปรับค่า Beauty ได้ถึง 10 ระดับ

อีกทั้งยังสามารถปรับค่าแสง 3D Portrait Lighting ได้ 5 แบบเหมือนกับกล้องตัวหลักที่ด้านหลังอีกด้วย


การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าก็รองรับโหมด Beauty ด้วยเช่นกัน โดยสามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดที่ระดับ HD 720p ส่วนในโหมดปกติสามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดได้ที่ระดับ FHD+ ในอัตราส่วน 18:9
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องคู่ (Dual Camera) ความละเอียดระดับ 24+16 ล้านพิกเซล ของ Honor 10




ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดฟังก์ชัน AI



ภาพถ่ายจากโหมดปกติ ในสภาวะที่มีแสงน้อย



ภาพถ่ายในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait)

ภาพถ่ายในโหมดรูรับแสง (Aperture) ที่ F/2.8 และ F/6.3




ภาพถ่ายในโหมดขาว-ดำ (Monochrome)


ภาพถ่ายในโหมดขาว-ดำ (Monochrome) พร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait)

ภาพถ่ายโหมดปกติพร้อมฟีเจอร์ AR Lens
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ของ Honor 10

ภาพถ่ายในโหมดปกติ

ภาพถ่ายในโหมดปกติ พร้อมปรับ Beauty ระดับ 5

ภาพถ่ายในโหมดปกติ พร้อมปรับ Beauty ระดับ 10

ภาพถ่ายในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) พร้อมปรับ Beauty ระดับ 5

ภาพถ่ายในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) พร้อมปรับค่าแสง 3D Portrait Lighting แบบ Stage Lighting
และ Classic Lighting

ภาพถ่ายพร้อมฟีเจอร์ AR Lens
สรุปผลการทดสอบของ Honor 10

เรียกได้ว่า Honor 10 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่รูปแบบของการดีไซน์ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง FullView Display อัตราส่วน 19:9 ในขนาดเหมาะมือที่ 5.84 นิ้ว โดยมีรอยาก (Notch) หรือพื้นที่สำหรับกล้องหน้า, เซ็นเซอร์ต่างๆ และลำโพงสำหรับสนทนา ซึ่งสามารถเลือกซ่อน หรือแสดงได้ตามต้องการ พร้อมความคมชัดระดับ Full HD+ ที่รองรับการแสดงผลวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส อีกทั้งยังมีการดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียมด้วยการผลิตจากกระจกแบบ
3D Glass พร้อมเคลือบผิวสัมผัสด้วยกระจกทั้งหมด 15 ชั้น ทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามเล่นกับแสง ซึ่งในสี Phantom Blue และสี Phantom Green จะมีการไล่เฉดสีเพื่อเสริมความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ รวมถึงการใช้ชิปเซ็ตระดับท็อปอย่าง Octa-Core HiSilicon Kirin 970 ชิปเซ็ต Mobile AI ที่มีหน่วยประมวลผล NPU (Neural Processing Unit) ฝังอยู่ภายใน บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo เวอร์ชันล่าสุด พร้อมหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
แบบ Mali-G72MP12 โดยเฉพาะ ที่สามารถตอบสนองการใช้งานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงๆ ก็สามารถทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ แม้จะมีการสะสมความร้อนให้ได้เห็นบ้างเมื่อเล่นเป็นระยะเวลานานๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลในตัวเครื่องให้มากถึง 128GB
สำหรับจุดเด่นที่สำคัญของ Honor 10 อย่างระบบกล้องคู่ (Dual Camera) ที่ด้านหลังก็มาพร้อมกับความคมชัดระดับ 24+16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด F/1.8 ที่มีการนำเทคโนโลยี AI 2.0 camera เข้ามาช่วยประมวลผล และวิเคราะห์สภาพแวดล้อม กับวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถแยกแยะ Object ที่ปรากฏอยู่บนภาพ เพื่อนำไปปรับแต่งให้มีความสวยงามได้ด้วย รวมถึงโหมดการถ่าย
าพหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) ที่ตัดขอบได้ค่อนข้างน่าพอใจ และสามารถใช้งานพร้อมปรับค่า Beauty ได้ถึง 10 ระดับ รวมถึงการปรับค่าแสง 3D Portrait Lighting ถึง 5 แบบ 5 สไตล์ ที่ช่วยเน้นอารมณ์ของภาพให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และในโหมดรูรับแสง (Aperture) ที่สามารถปรับค่ารูรับแสงได้ตามที่ต้องการ ทั้งก่อน และหลังถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีลูกเล่นน่ารักๆ อย่างสติกเกอร์ในโหมด AR Lens อีกด้วย
ในด้านกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะให้ความคมชัดมาที่ 24 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Beauty ที่เลือกปรับความสวยได้ถึง 10 ระดับ และโหมดการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait), โหมดรูรับแสง (Aperture) ที่สามารถเลือกปรับตั้งค่าได้ทั้งก่อน และหลัง รวมถึงลูกเล่นที่น่ารักอย่าง AR Lens กับการเซลฟี่พร้อมสติกเกอร์หลากหลายดีไซน์ ซึ่งถือได้ว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเซลฟี่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ทางด้านระบบความปลอดภัย Honor 10 ก็มีมาให้ใช้งานด้วยกันถึง 2 ระบบ ได้แก่ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ถูกฝังเอาไว้ใต้กระจกแบบ Ultrasonic ที่สามารถสแกนได้แม้นิ้วมือเปียกน้ำ และการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) แบบ 360 องศา ที่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้แม้สวมแว่นตาอยู่
นอกจากนี้ Honor 10 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ App Twin สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน อย่างเช่น เช่น Facebook หรือ Messenger ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์ในเวลาเดียวกัน พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3400 mAh พร้อมกับเทคโนโลยี Honor SuperCharge
ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 50% ได้ในเวลา 25 นาที
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Honor 10 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนจอไร้ขอบดีไซน์สวยในขนาดพอเหมาะมือ ที่มาพร้อมกับกล้องคู่ และกล้องหน้าความละเอียดสูง บวกกับมีฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพที่หลากหลาย สเปกครบเครื่องทุกการใช้งาน ในราคาที่จับต้องได้
สำหรับ Honor 10 เปิดราคาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการออกมาแล้วที่ 13,990 บาท โดยจะเปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) ผ่านทาง Lazada.com หรือร้าน CSC, TG Fone และห้าง Big C ได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่สั่งจอง 500 ท่านแรกจะได้รับของสมนาคุณอย่าง Bluetooth Speaker และ Honor Gift Box
หลังจากนั้นในวันที่ 6 มิถุนายน Honor 10 จะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Lazada.com และจะเริ่มวางจำหน่ายผ่านแบบออฟไลน์ผ่านร้าน CSC, TG Fone และห้าง Big C ในวันที่ 8 มิถุนายนเป็นต้นไป
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Honor ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Honor 10 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ
จุดเด่นของ Honor 10
- ที่ด้านหลังตัวเครื่องผลิตจากกระจกแบบ 3D Glass ที่มีการเคลือบผิวสัมผัสด้วยกระจกทั้งหมด 15 ชั้น ทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามเล่นกับแสง ซึ่งในสี Phantom Blue และสี Phantom Green จะมีการไล่เฉดสีเพื่อเสริมความโดดเด่น
- ตัวเครื่องขนาด 149.6x71.2x7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 153 กรัม
- หน้าจอแสดงผล IPS LCD แบบ FullView ขนาด 5.84 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2280x1080 พิกเซล) และอัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล (CPU) HiSilicon Kirin 970 แบบ Octa-Core Processor พร้อมหน่วยประมวลผล NPU ที่ฝังอยู่ภายใน สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะ
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Mali-G72MP12
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ความจุ 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ AI Portrait Mode
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) โดยแบ่งออกเป็น เซ็นเซอร์รับภาพขาวดำ (Monochrome) ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 และเซ็นเซอร์รับภาพสี (RGB) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF และไฟแฟลชแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี AI 2.0 Camera
- รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ถูกฝังเอาไว้ใต้กระจกแบบ Ultrasonic ที่สามารถสแกนได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถปลดล็อกได้แม้นิ้วมือเปียกน้ำ
- ฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) แบบ 360 องศา ที่สามารถปลดล็อกได้ในสภาวะแสงน้อย และขณะสวมแว่นตา
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานแบบ 3.5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ Honor SuperCharge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo Oreo พร้อมครอบทับด้วย EMUI 8.1
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE, GPRS
และ WiFi
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS และ Beidou
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Honor 10
- ตัวเครื่องใช้ดีไซน์แบบกระจก จึงอาจเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย
- ตัวเครื่องมีการสะสมความร้อน เมื่อมีการประมวลผลระดับสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน
- หน้าจอ FullView Display ในอัตราส่วน 19:9 ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันทั้งหมดได้
- ด้วยความที่หน้าจอมีขอบบาง อาจทำให้อุ้งมือของผู้ใช้ไปสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ
- สำหรับผู้ที่ใส่แว่นตาอาจใช้งานฟีเจอร์ปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าไม่สะดวกในบางครั้ง
- ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้
- ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Honor 10 ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Honor 10

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|