รีวิว (Review) Google Pixel 2 XL

สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหญ่สดใหม่จาก Google กับความเป็นที่สุดด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องเดี่ยวตัวเทพแบบ Dual Pixel ผสานระบบกันสั่น OIS+EIS พร้อมจอไร้ขอบ pOLED 2K QHD+ 18:9 ใหญ่เต็มตา 6 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 ตัวท็อป, กล้องหน้า Portrait ละลายหลัง, Pure Android Oreo และแบตเตอรี่ 3520 mAh บนบอดี้ Metal-Glass กันน้ำสวยพรีเมียมบางเฉียบที่ใช้มือบีบสั่งงานได้!

Review Date (24-มกราคม-2561)

สำหรับ Google Pixel 2 XL ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหญ่ตัวต่อยอดใหม่ล่าสุด ที่ทาง Google ได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2560 ที่ผ่าน โดย Google Pixel 2 XL ได้รับการอัปเกรดใหม่ในหลายๆ ด้าน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องตัวเครื่องที่เป็นดีไซน์ใหม่หมดจดทั้งเครื่อง, ชิปเซ็ตเร็วแรงขึ้น, หน้าจอใหญ่ และกว้างขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Pure Android เวอร์ชัน Oreo ซึ่งการันตีในเรื่องของการอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ต่อเนื่องกว่า 2 ปี อย่างแน่นอน

สำหรับตัวเครื่องของ Google Pixel 2 XL นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ดีไซน์ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะผสานกระจก 3D Corning Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมรองรับคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำ และป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC Standard 60529 (อยู่ใต้น้ำลึก 1 เมตร ได้นานต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที) และรองรับเทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ Oleophobic Coating ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และคราบเปื้อนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ pOLED Fullscreen Display ความละเอียด 2880x1440 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว กับอัตราส่วน 18:9, รองรับโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า, รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชัน พร้อมๆ กันได้, รองรับฟังก์ชัน Active Edge สำหรับการสั่งงานด้วยการบีบตัวเครื่อง, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Pixel Imprint), รองรับระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และแบตเตอรี่ขนาด Li-Ion 3520 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charging : ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้ 7 ชั่วโมง)

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ Google Pixel 2 XL คือ ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบไม่มีกั๊กทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ซึ่งกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นได้รับการการันตีจากสถาบันทดสอบ DxOMark ว่าเป็นกล้องถ่ายภาพนิ่งบนสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน ด้วยคะแนนที่มากที่สุดถึง 98 คะแนนเลยทีเดียว โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะเป็นแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.6 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel Phase Detection กับระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel Phase Detection + LDAF (Laser Detection Autofocus), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), ระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) และไฟแฟลชแบบ Dual-LED Flash ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.2 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4 และระบบโฟกัสภาพแบบ Fixed Focus

ทางด้านคุณสมบัติการประมวลผลก็จัดอยู่ในระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 ความเร็วในการประมวลผล 2.35 GHz ซึ่งเป็นชิปเซ็ต Snapdragon ตัวท็อปที่เร็วแรงที่สุดในขณะนี้, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 540, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo

ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวจะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความน่าสนใจไม่แพ้สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท็อปรุ่นอื่นๆ ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์, กล้องถ่ายภาพทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง และคุณสมบัติด้านการประมวลผลที่เรียกได้ว่าจัดเต็มเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้าน  ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Google Pixel 2 XL พร้อมกันต่อได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

สำหรับเครื่อง Google Pixel 2 XL ที่นำมารีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกันนั้นเป็นเครื่องหิ้ว (เครื่องนอก) มาจากประเทศแคนาดา และเป็นเครื่องสีดำที่มีหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB

Google Pixel 2 XL มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ pOLED Full Screen Display ความละเอียด 2880x1440 พิกเซล (QHD+) ขนาด 6 นิ้ว กับอัตราส่วน 18:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจกหน้าจอแบบ 3D Corning Gorilla Glass 5 โดยตัวเครื่องมีขนาดอยู่ที่ 157.9x76.7x7.9 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 175 กรัม

โดยหน้าจอแสดงผลของ Google Pixel 2 XL นั้นมีขอบเขตของการแสดงสีแบบ DCI-P3 กว้าง 100% และค่าความเปรียบต่างสูงสุดอยู่ที่ 100000:1 (Super Contrast Ratio)

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.2 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4, ระบบโฟกัสภาพแบบ Fixed Focus และรองรับโหมดถ่ายภาพแบบ Portrait, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา พร้อมทำหน้าที่เป็นลำโพงเสียงภายนอก, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps นอกจากนี้ ยังมีลำโพงเสียงภายนอกตัวที่สอง พร้อมไมโครโฟนในตัว

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้า และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้เพียงแค่ซิมการ์ดเดียว

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกวิดีโอ หรือบันทึกเสียง

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล

ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกล้องดิจิทัลแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.6 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel Phase Detection กับระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ LDAF (Laser Detection Autofocus), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), ระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS และไฟแฟลชแบบ Dual-LED Flash นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน

โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังของ Google Pixel 2 XL นั้นได้รับการการันตี ทาง DxOMark ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบกล้องถ่ายภาพ และเลนส์ชั้นนำ ได้ให้คะแนนด้านการถ่ายภาพนิ่งของ Google Pixel 2 XL เอาไว้ที่ 99 คะแนน เลยทีเดียว ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นอยู่ที่ 96 คะแนน สรุปคะแนนรวมของ Google Pixel 2 XL คือ 98 คะแนน โดย DxOMark ให้เหตุผลว่า Google Pixel 2 XL นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของ Dynamic Range, ระบบ Autofocus ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม, การเก็บรายละเอียด, White Balance ที่วัดได้ค่อนข้างแม่นยำ แต่สำหรับการถ่ายภาพ Portrait ในบางฉาก ยังละลายฉากหลังได้ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติมากนัก แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

สำหรับตัวเครื่องของ Google Pixel 2 XL ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะผสานกระจก 3D Corning Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมรองรับคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำ และป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC Standard 60529 (อยู่ใต้น้ำลึก 1 เมตร ได้นานต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที) นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ Oleophobic Coating ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และคราบเปื้อน อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ขนาด Li-Ion 3520 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charging : ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้ 7 ชั่วโมง)

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

สำหรับ Google Pixel 2 XL นั้นขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo พร้อมรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC

ซึ่งมีหน่วยมีความจำภายในขนาด 64 GB พร้อมด้วยหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต และ GPS

สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน

ทางด้านฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ ช่วยให้สามารถกดหมายเลขที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถเข้าดูรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้ทันที

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเปิดงานโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้าได้ หรือตั้งเวลาเพื่อให้โหมดถนอมสายตาทำงานตามเวลาที่กำหนดได้อีกด้วย

อีกหนึ่งความน่าสนใจบน Google Pixel 2 XL คือ มาพร้อมกับฟังก์ชัน Active Edge สำหรับปิดเสียงการปลุก, หยุดจับเวลา หรือปิดเสียงสายเรียกเข้าด้วยการบีบที่ด้านข้างของตัวเครื่อง โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าการบีบได้ตั้งแต่บีบเบาๆ ไปจนถึงบีบแรงๆ ตามความถนัดของผู้ใช้ได้

Google Pixel 2 XL ยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการสั่งงานในรูปแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง เพื่ดเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ, การสแกนลายนิ้วมือเพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ, การพลิกข้อมือเพื่อสลับใช้งานกล้องด้านหน้า-ด้านหลัง และการดับเลิ้ลคลิกที่หน้าจอเพื่อดูการแจ้งเตือน และข้อมูลต่างๆ

นอกจากนี้ Google Pixel 2 XL ยังมาพร้อมกับ Pixel Imprint หรือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ อีกทั้งยังสามารถบันทึกลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมืออีกด้วย

ทางด้านเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ และด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่บวกกับอัตราส่วน 18:9 จึงช่วยให้ Google Pixel 2 XL นั้นสามารถรับชมคอนเทนท์ต่างๆ หรือเปิดดูเว็บไซต์ที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มตามากขึ้นกว่าเดิม

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจบน Google Pixel 2 XL คือ สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชัน พร้อมๆ กันได้

Google Pixel 2 XL ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และสามารถปรับอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย

สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 2K ได้อย่างไหลลื่น

โดย Google Pixel 2 XL จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 ความเร็วในการประมวลผล 2.35 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 540, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo

และด้วยคุณสมบัติด้านการประมวลผลที่เรียกได้ว่าจัดเต็มในระดับไฮเอนด์ จึงทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับสูงได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ภายในเกมได้อย่างคมชัด และไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจออีกด้วย

และเมื่อนำ Google Pixel 2 XL มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 166683 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 1888 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 6363 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน 3DMark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 3603 คะแนน

สำหรับ Google Pixel 2 XL นั้นสามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน Google Pixel 2 XL นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เช่น การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, ฟังก์ชัน HDR+, ฟังก์ชัน Motion, ตาราง 9 ช่อง และไวท์บาลานซ์

นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายอย่างด้วยกัน เช่น โหมดถ่ายภาพ Slow Motion, โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า, โหมดถ่ายภาพ Portrait และโหมดถ่ายภาพ AR Stickers

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ เอาไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันหน้าสวย, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ, ฟังก์ชัน HDR+, ฟังก์ชัน Motion, ตาราง 9 ช่อง, ไวท์บาลานซ์ และไฟแฟลช (ใช้แสงสว่างจากจอแสดงผล)

สามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 12.2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิด การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย, เสียงชัตเตอร์ และสามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ เช่น ชัตเตอร์ถ่ายภาพ หรือซูม

สามารถตั้งค่าความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้ โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังสามารถเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าสามารถความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p)

พร้อมทั้งสามารถเปิดฟังก์ชันป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโอได้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Dual Pixel ที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 12.2 ล้านพิกเซล ของ Google Pixel 2 XL

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติในสภาวะแสงน้อย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน AR Stickers

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน AR Stickers

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Google Pixel 2 XL

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชันหน้าชัดหลังเบลอ

สรุปผลการทดสอบของ Google Pixel 2 XL

ก็นับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อยอดใหม่ล่าสุดอย่าง Google Pixel 2 XL ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่มีความสวยงามลง พร้อมวัสดุแข็งแรงทนทาน, หน้าจอแสดงผลใหญ่ที่ช่วยให้รับชมคอนเทนท์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตามากขึ้น, กล้องดิจิทัลถ่ายภาพได้คมชัดทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง และคุณสมบัติด้านการประมวลผลระดับไฮเอนด์ที่สามารถตอบโจทย์การประมวลผลระดับสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง

ซึ่งจุดขายที่โดดเด่นที่สุดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็จะเป็นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.6 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel Phase Detection กับระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ LDAF (Laser Detection Autofocus), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), ระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS และไฟแฟลชแบบ Dual-LED Flash ที่ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งภาพถ่ายที่ได้ยังมีความคมชัด สีสันสมจริง พร้อมทั้งเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนแม้จะเป็นการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพ Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอเพื่อให้ตัวแบบมีความโดดเด่นได้ และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ มีโหมดถ่ายภาพ AR Sticker ให้ใช้งาน ซึ่งใช้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพรูปแบบใหม่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้นได้ โดยจากการทดสอบถ่ายภาพมาทั้งหมดก็พบว่ากล้องถ่ายภาพด้านหลังของ Google Pixel 2 XL นั้นถ่ายภาพได้ดีเป็นอย่างยิ่ง สมกับที่ได้รับการการันตีจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง DxOMark

ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.2 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4 และระบบโฟกัสภาพแบบ Fixed Focus ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน พร้อมทั้งทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอผ่านโหมดถ่ายภาพ Portrait ได้เช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลังอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับผู้ที่รักการถ่ายภาพเซลฟี่ อีกทั้งยังเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้กล้องถ่ายภาพแล้วทางด้านการออกแบบดีไซน์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยตัวเครื่องของ Google Pixel 2 XL นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะผสานกระจก 3D Corning Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้า และด้านหลัง จึงทำให้ตัวเครื่องของ Google Pixel 2 XL มีสวยงามพรีเมียมเป็นอย่างมาก อีกทั้งขอบตัวเครื่องยังมีความโค้งมน ซึ่งเข้ารูปกับอุ้งมือ ทำให้จับ หรือถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว และยังมีการเคลือบผิวแบบ Oleophobic Coating ช่วยให้เกิดรอยนิ้วมือ และคราบเปื้อนได้ยากอีกด้วย อีกหนึ่งความพิเศษบนตัวเครื่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือ รองรับคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำ และป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC Standard 60529 โดยสามารถป้องกันน้ำได้ลึกสุด 1 เมตร นานต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที เลยทีเดียว ซึ่งคุณสมบัติในการป้องกันละอองน้ำ และป้องกันฝุ่น นั้นก็ถือว่ามีประโยชน์มากๆ หากเกิดกรณีไม่คาดฝัน เช่น ตัวเครื่องตกน้ำ ผู้ใช้ก็ยังสามารถนำเครื่องขึ้นมาจากน้ำ และใช้งานต่อได้แบบสบายใจหายห่วง

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็เรียกได้ว่า จัดมาให้ในระดับไฮเอนด์ สามารถตอบโจทย์การใช้งานระดับสูงได้ครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ pOLED Fullscreen Display ความละเอียด 2880x1440 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว กับอัตราส่วน 18:9, รองรับโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า, รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชัน พร้อมๆ กันได้, รองรับฟังก์ชัน Active Edge สำหรับการสั่งงานด้วยการบีบตัวเครื่อง, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Pixel Imprint), รองรับระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และแบตเตอรี่ขนาด Li-Ion 3520 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charging : ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้ 7 ชั่วโมง)

สำหรับคุณสมบัติด้านการประมวลผล ก็จัดมาให้ในระดับไฮเอนด์อีกเช่นเดียว ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 ความเร็วในการประมวลผล 2.35 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 540, หน่วยความจำภายในขนาด 64 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ พร้อมปรับค่าการแสดงผลระดับสูงสุด ก็สามารถเล่นเกมแบบต่อเนื่องได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งยังสามารถแสดงผลภาพได้อย่างคมชัด สีสันสดใสสมจริง และไม่พบอาการหน่วง หรือการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจออีกด้วย

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านก็พอที่จะสรุปได้ว่า Google Pixel 2 XL น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม, ดีไซน์สวยงามลงตัวดูน่าใช้งาน, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และสเปกเครื่องระดับไฮเอนด์สำหรับตอบโจทย์การใช้งานในระดับสูงได้ครบทุกรูปแบบ ซึ่ง Google Pixel 2 XL ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ดี Google Pixel 2 XL ยังไม่มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย หากท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้เฉพาะเครื่องหิ้ว หรือเครื่องนอกเท่านั้น โดยล่าสุดมีราคาอยู่ที่ประมาณ 29,500 บาท สำหรับรุ่นความจุ 64 GB สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน พบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Google Pixel 2 XL

- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass ซึ่งกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะผสานกระจก 3D Corning Gorilla Glass 5 ที่ด้านหน้า และด้านหลัง
- มีการเคลือบผิวแบบ Oleophobic Coating ช่วยให้เกิดรอยนิ้วมือ และคราบเปื้อนได้
- ตัวเครื่องสามารถป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นได้ในระดับ IP67
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลไร้ขอบแบบ pOLED Fullscreen Display ความละเอียด 2880x1440 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว กับอัตราส่วน 18:9  พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 540
- รองรับฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- รองรับฟังก์ชันสำหรับแบ่งหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานได้พร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน
- รองรับฟังก์ชัน Active Edge สำหรับการสั่งงานด้วยการบีบตัวเครื่อง
- รองรับระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8998 Snapdragon 835 ความเร็วในการประมวลผล 2.35 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Pure Android OS เวอร์ชัน 8.1.0 Oreo
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64  GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.6 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ Dual Pixel Phase Detection กับระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ LDAF (Laser Detection Autofocus), ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS (Optical Image Stabilization), ระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไฟแฟลชแบบ Dual-LED Flash  และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/3.2 นิ้ว พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน, ขนาดของรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.4 และระบบโฟกัสภาพแบบ Fixed Focus, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย, รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และมีฟังก์ชัน Tap and Pay
- ลำโพงเสียงแบบคู่ (Dual Speakers) ที่ด้านบน และด้านล่างของหน้าจอ
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3520 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Charging : ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้ 7 ชั่วโมง)
- ราคาประมาณ 29,500 บาท (ราคาเครื่องหิ้ว หรือเครื่องนอก : ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา)

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Google Pixel 2 XL

- ขอบจอยังค่อนข้างหนา เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงจอไร้ขอบอีกหลายๆ รุ่น
- เนื่องจากเป็นดีไซน์แบบ Metal-Glass ที่ไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
- ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD หรือแบบอื่นๆ ได้
- ยังไม่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จึงหาซื้อได้เฉพาะเครื่องหิ้วเท่านั้น และไม่มีการรับประกัน
- ไม่รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด (Dual SIM)

ข้อมูลเพิ่มเติม

สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด และราคาล่าสุดของ Google Pixel 2 XL
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด และราคาล่าสุดของ Google Pixel 2
สรุปข้อมูล และอัปเดตข่าวสารล่าสุดของ Google Pixel 2

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::