รีวิว (Review) dtac Phone T3
สมาร์ทโฟน 4G VoLTE สุดคุ้มใหม่ล่าสุด ด้วยจอ IPS HD 2.5D ขนาด 5.3 นิ้ว, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลชหน้าหลัง, ชิปเซ็ต MediaTek MT6737, RAM 2GB และ ROM 16GB บน Android 7.0 ที่สดใหม่ ในราคาเพียง 3,990 บาท!
Review
Date (22-พฤษภาคม-2560)

สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นที่น่าสนใจโดยทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นนั้นในตลาดบ้านเรามีวางจำหน่ายอยู่หลายรุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีความสามารถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกม, การชมวิดีโอความละเอียดสูง, การใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และกล้องดิจิทัลที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด เรียกได้ว่า สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน อีกทั้งยังมีราคาที่สบายกระเป๋า และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือสักหนึ่งเครื่องไว้ใช้งานขั้นพื้นฐาน ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีสมาร์ทโฟนที่จัดอยู่ในกลุ่มของสมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุด มาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกันนั่นคือ dtac Phone T3 โดย dtac Phone T3 รุ่นนี้มีสเปกที่ครบเครื่องรอบด้าน และวางจำหน่ายในราคาเพียง 3,990 บาท เท่านั้น!
สำหรับจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass ขนาด 5.3 นิ้ว, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL, ไฟแฟลชแบบ Triple-LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และไฟแฟลช LED, รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE), รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G (ไม่สามารถใช้งาน Internet พร้อมกันทั้ง 2 SIM ได้ ถ้า SIM นึงเป็น 4G/3G อีก SIM จะเป็น 2G) และแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 2600 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติพื้นฐานก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานระดับเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ซึ่งถือเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ที่สุด ณ ปัจจุบัน
ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า dtac Phone T3 นั้นมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ, คุณสมบัติตัวเครื่องที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานระดับเริ่มต้นได้ทุกรูปแบบ ในราคาสบายกระเป๋า ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องดิจิทัลสามารถถ่ายภาพได้คมชัดเพียงใด และมีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว dtac Phone T3 พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

dtac Phone T3 มาในแพ็กเกจสีขาวดีไซน์เรียบๆ ดูสะอาดตา

โดยด้านหน้าส่วนบนของกล่องยังได้ติดสติ๊กเกอร์โปรโมชั่นเอาไว้ คือ ดู Youtube ฟรี 4 GB ต่อเดือนนาน 12 เดือน เพียงกดรับสิทธิ์ตามหมายเลขที่ระบุเอาไว้

และด้านข้างทางขวายังได้ระบุสเปกเครื่องแบบคร่าวๆ เอาไว้ด้วยเช่นกัน


นอกจากนี้ภายในกล่องก็มีอุปกรณ์ไว้ให้ใช้งานอย่างครบครัน เริ่มตั้งแต่ เคสใส, คู่มือการใช้งาน, สายเชื่อมต่อแบบ microUSB, หูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร (ในกล่องมี Earbud สำรองให้อีก 1 คู่) และอะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่

สำหรับ dtac Phone T3 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.35 มิลลิเมตร จึงสามารถพกพาไปใช้งานได้อย่างคล่องตัว

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED, ลำโพงสำหรับการฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ อีกด้วย

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก และไมโครโฟน

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 และไฟแฟลชถึง 3 ดวง (Triple-LED)

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2, ช่องสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่ โดยซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ miniSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 1 และแบบ microSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 2

ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 2600 mAh
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
สำหรับ dtac Phone T3 นั้นขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และสามารถรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สามารถรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) ได้
 
มาพร้อมหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และหน่วยความจำขนาด 2 GB
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือน พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ GPS
 
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ หรือการนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน
 
ในส่วนของบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานอย่างครบครันบน dtac Phone T3
 
และแน่นอนว่าทาง dtac ก็ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันบริการดีๆ เอาไว้ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน เช่น แอปพลิเคชัน Music Infinite ซึ่งลูกค้า dtac ก็สามารถเลือกรับสิทธิพิเศษได้หลายอย่าง เช่น รับสิทธิ์ฟังเพลงได้แบบฟรีๆ ผ่านแอปพลิเคชัน DEEZER หรือ JOOX Music
 
สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสามารถเข้าดูบันทีกการโทร หรือรายชื่อโทรศัพท์ทั้งหมดได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ dtac Phone T3 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MiraVision ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถสลับตำแหน่งปุ่มการสั่งงานได้
 
สำหรับเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตบน dtac Phone T3 ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ลื่นไหล และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ
 
dtac Phone T3 สามารถเปิดอ่านไฟล์เอกสารได้ทั้ง Word, Excel หรือ Power Point ผ่านแอปพลิเคชัน OfficeSuite
 
ทางด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน dtac Phone T3 ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้
 
และมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ในภายหลังได้

dtac Phone T3 สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
 
สำหรับ dtac Phone T3 นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat

ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องจะจัดอยู่ในระดับเริ่มต้น แต่ dtac Phone T3 ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมแบบสามมิติได้ดี ลื่นไหล อีกทั้งยังแสดงรายละเอียดต่างๆ ภายในเกมได้ชัดเจน ครบถ้วน
 
และเมื่อนำ dtac Phone T3 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 29374 คะแนน ส่วนทางด้านการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 565 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 1534 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

สำหรับการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 2181 คะแนน

โดย dtac Phone T3 สามารถรองรับการสัมผัสที่หน้าจอได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด
 
และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ
 
สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน dtac Phone T3 นั้นมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้ใช้งานได้ทันที และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายอย่าง ได้แก่ โหมดถ่ายภาพ HDR หรือโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า
 
สามารถเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปได้หลากหลาย เช่น งานเลี้ยง หรือชายทะเล, สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์, สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุด 1600 และยังสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช LED ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช LED ได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การเปิดแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสง ซึ่งสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3
 
มีเอฟเฟกต์สีให้ใช้งานหลายแบบ ได้แก่ ไม่มี, โมโน, ซีเปีย, เนกาทีฟ, โพสเตอไรซ์, เอคว่า, แบล็คบอร์ด และไวท์บอร์ด, สามารถปรับคุณภาพของภาพถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น ความชัด, สี, ความอิ่มตัว, ความสว่าง และความเข้ม
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันป้องกันการกระพริบได้สูงสุดที่ 60 Hz, สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันประเมิณอายุ
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ระบบกันสั่น, ระบบตรวจจับใบหน้า, เสียงชัตเตอร์, เสียงการโฟกัสภาพ, การถ่ายภาพต่อเนื่อง หรือการตรวจสอบภาพถ่ายอัตโนมัติได้
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าโหมดถ่ายภาพวิดีโอได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD (720p) พร้อมทั้งสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน และมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพ HDR และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) พร้อมทั้งมีกรอบเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นมาบริเวณใต้กล้องด้านหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่กำลังถ่ายภาพ Selfie นั้นเสมือนมองกล้องได้โดยอัตโนมัติด้วยการมองจอภาพดังกล่าว และจะลดปัญหาดวงตาไม่มองกล้องขณะถ่ายภาพได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช LED ได้อีกด้วย
 
สามารถเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปได้หลากหลาย เช่น งานเลี้ยง หรือชายทะเล, สามารถปรับค่าไวท์บาลานซ์, สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุด 1600 และยังสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช LED ได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การเปิดแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสง ซึ่งสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่ -3 ไปจนถึง +3 พร้อมทั้งสามารถปรับคุณภาพของภาพถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น ความชัด, สี, ความอิ่มตัว, ความสว่าง และความเข้ม
 
สามารถเปิดฟังก์ชันป้องกันการกระพริบได้สูงสุดที่ 60 Hz, สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันประเมิณอายุ
 
สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ระบบตรวจจับใบหน้า, เสียงชัตเตอร์, เสียงการโฟกัสภาพ, การถ่ายภาพต่อเนื่อง และการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าโหมดถ่ายภาพวิดีโอได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเปิดใช้งานระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization), ไมโครโฟน, สามารถตั้งเวลาได้นานสูงสุด 10 วินาที และสามารถเลือกคุณภาพของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ VGA
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ dtac Phone T3

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ dtac Phone T3
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับกลาง
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับสูงสุด
สรุปผลการทดสอบของ dtac Phone T3

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 4G VoLTE น้องใหม่ล่าสุด ในราคาสบายกระเป๋าอย่าง dtac Phone T3 ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกเลยว่า dtac Phone T3 นั้นมีการออกแบบดีไซน์สวยงามลงตัวไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งตัวเครื่องยังเป็นพื้นผิวแบบด้าน และมีความบางเพียง 8.35 มิลลิเมตร จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับ หรือถือใช้งานได้ถนัดมือ พร้อมทั้งสามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว
สำหรับกล้องถ่ายภาพนั้นถือได้ว่าเป็นจุดขายสำคัญของ dtac Phone T3 เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และไฟแฟลช LED ซึ่งสามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างน่าประทับใจ และภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด อีกทั้งสีสันบนภาพถ่ายก็ยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL และไฟแฟลชถึง 3 ดวงแบบ Triple-LED ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน พร้อมทั้งสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ บนภาพถ่ายได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูปได้หลายแบบ ซึ่งช่วยให้ผู้สามารถสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ของ dtac Phone T3 ก็นับว่าครบเครื่อง และคุ้มค่ากับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass ขนาด 5.3 นิ้ว, รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE), รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G (ไม่สามารถใช้งาน Internet พร้อมกันทั้ง 2 SIM ได้ ถ้า SIM นึงเป็น 4G/3G อีก SIM จะเป็น 2G) และแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 2600 mAh
ในส่วนของคุณสมบัติพื้นฐานก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานในระดับเริ่มต้น ซึ่งสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง Android 7.0 Nougat ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ ก็พบว่า dtac Phone T3 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีกว่าที่คาด อีกทั้งยังมีความไหลลื่น และไม่พบการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย
และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า dtac Phone T3 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพสวยคมชัดทั้งด้านหน้าด้านหลัง, รองรับการโทรผ่านระบบ VoLTE, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และต้องมีราคาไม่เกิน 4,000 บาท ซึ่ง dtac Phone T3 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถหาซื้อ dtac Phone T3 ได้แล้ววันนี้ที่ dtac Shop ทุกสาขา ในราคาเพียง 3,990 บาท และราคาพิเศษ 2,990 บาท สำหรับลูกค้าแบบรายเดือนเปิดเบอร์ใหม่ หรือเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน เมื่อสมัคร หรือมีแพ็กเกจเริ่มต้นเพียง 499 บาท พร้อมเน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด โทรฟรีเบอร์ดีแทคไม่อั้น และพิเศษมากขึ้น สำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมรับส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง dtac ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง dtac Phone T3 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ dtac Phone T3
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5.3 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- ครอบทับด้วยกระจกหน้าจอขอบนูนแบบ 2.5D Glass
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6737 ความเร็วในการประมวลผล 1.25 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash)
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL, ไฟแฟลชแบบ Triple-LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD (720p)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, รองรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย, ไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ VGA
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- รองรับการโทรผ่านระบบ VoLTE (Voice over LTE)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 2600 mAh
- มีวิทยุ FM ในตัว
- มี 2 สีมาตรฐานให้เลือกคือ Metallic Black และ Metallic Gold
- ราคาเพียง 3,990 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ dtac Phone T3
- ไม่สามารถใช้งาน Internet พร้อมกันทั้ง 2 SIM ได้ ถ้า SIM นึงเป็น 4G/3G อีก SIM จะเป็น 2G
- ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดเพียงแค่ระดับ HD 720p
- ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|