สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบทีมงาน Thaimobilecenter กับนานาสาระน่ารู้ และข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนกันอีกครั้งนะครับ หากจะกล่าวถึงสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่เรียกได้ว่ากำลังได้รับความสนใจจากผู้ใช้ทั่วโลกมากที่สุด รวมถึงในประเทศไทยเองด้วย นั่นก็คือ Nokia 6 สมาร์ทโฟน Android OS รุ่นแรกที่เปิดตัวต้อนรับการกลับมาของ Nokia อย่างเป็นทางการ หลังจากหมดสัญญากับ Microsoft เมื่อปลายปี 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งการกลับมาของ Nokia ในครั้งนี้ได้สร้างความตื่นเต้น และเขย่าวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้ง เพราะ Nokia เคยเป็นถึงอดีตผู้ที่ยืนอยุ่บนจุดสูงสุดของวงการมือถือ ดังนั้นการหวนกลับเข้าสู่ธุรกิจที่ตนเองถนัดในครั้งนี้ ก็ทำให้ Nokia ถูกจับตามองว่าจะมีไม้เด็ดอะไรซุกซ่อนไว้หรือไม่

จากที่คาดการณ์กันว่า Nokia จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงระดับไฮเอนด์เพื่อเรียกความสนใจนั้น กลับกลายเป็นว่า Nokia ได้เปิดตัว Nokia 6 ในฐานะของสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีคุณสมบัติตัวเครื่องครบครัน และครอบคลุมทุกการใช้งาน แต่ที่สำคัญก็คือ ราคาวางจำหน่ายที่ค่อนข้างเข้าถึงได้ง่าย เพราะ Nokia 6 มีราคาวางจำหน่ายเพียง 1,699 หยวน หรือประมาณ 8,900 บาท เท่านั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า Nokia 6 วางจำหน่ายเฉพาะที่ประเทศจีน ทำให้บรรดาแฟนๆ Nokia ต่างก็เสียดายไปตามๆ กัน

แต่ล่าสุดร้านค้ารายหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง (MBK) ก็ได้นำ Nokia 6 เข้ามาวางจำหน่ายในรูปแบบของเครื่องหิ้วแล้ว โดยมีราคาขายอยู่ที่ 12,000 บาท แตกต่างกับราคาในจีนอยู่ประมาณ 3-4 พันบาท เลยทีเดียว หากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ Nokia และชื่นชอบจริงๆ ก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่มสักเล็กน้อย และทีมงาน Thaimobilecenter ก็ไม่รีรอที่จะไปจับจอง Nokia 6 มาไว้ในครอบครอง เพื่อนำมาทดสอบพรีวิว (Preview) ในเบื้องต้นให้ทุกท่านได้รับชมกันว่า สมาร์ทโฟนสุดฮอตรุ่นนี้มีการออกแบบดีไซน์อย่างไร, ประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องดีหรือไม่ และกล้องถ่ายภาพสวยงามเพียงใด ถ้าหากพร้อมแล้วขอเชิญทุกท่านติดตามพรีวิว (Preview) Nokia 6 ไปพร้อมกันได้เลยครับ

 

แกะกล่องพร้อมชมรูปลักษณ์ตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

 

ด้านหน้ากล่องของ Nokia 6 นั้นจะเป็นรูปคนจับมือกัน ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกับโลโก้ของ Nokia ในสมัยก่อนที่เป็นรูปมือของผู้ใหญ่ และเด็กยื่นเข้าหากัน พร้อมสโลแกน Connecting People ซึ่งสื่อถึงการเชื่อมต่อมนุษย์เข้าหากันด้วยเทคโนโลยีของมือถือนั่นเอง

 

เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง Nokia 6, หูฟัง, สาย microUSB, อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จพลังงาน, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 

มาดูตัวเครื่อง Nokia 6 กันบ้าง สำหรับ Nokia 6 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD Full HD 1080p ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 403 ppi พร้อมกระจกหน้าจอแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน โดยมีขนาดตัวเครื่องที่ 154x75.8x8.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 167 กรัม

 

ด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วย : Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม, ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ Gyro Sensor, ไฟแสดงสถานะ, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา พร้อมทั้งเป็นลำโพงที่สองของตัวเครื่อง และกล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p

 

 

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย : ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮมแบบ Taptic Engine (แบบเดียวกับ iPhone 7) พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sacanner) และปุ่ม Recent Apps

 

ด้านซ้ายประกอบด้วย : ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual-SIM (Dual-Standby) ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ nanoSIM และช่องซิมที่ 2 สามารถใช้งานร่วมกับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้

 

ด้านขวาประกอบด้วย : ปุ่ม เปิด-ปิด ตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และ ปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับเสียง

 

ด้านบนประกอบด้วย : ช่องเชื่อมต่อหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านล่างประกอบด้วย : ไมโครโฟนหลักของตัวเครื่อง, ช่องเชื่อมต่อ microUSB และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

 

ด้านหลังประกอบด้วย : ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวน และกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน (ไมโครเมตร), ขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0, ไฟแฟลชในตัว (Dual-LED : Dual-Tone) และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps)

 

สำหรับตัวเครื่องของ Nokia 6 ใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody (กรอบตัวเครื่องอะลูมิเนียมอัลลอยถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน) พร้อมทั้งใช้วัสดุโลหะแบบ 6000 Series Aluminum Alloy ที่มีความแข็งแกร่ง และความทนทานสูงอีกด้วย

 

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ ในเบื้องต้น

*หมายเหตุ - แอปพลิเคชันแบบ Third-Party ในพรีวิวฉบับนี้ ทางทีมงานได้ติดตั้งด้วยไฟลื APK เพราะ Nokia 6 ไม่รองรับ Google Play Store และ Google Services

 

เมื่อเปิดเครื่องใช้งานเราก็จะพบกับหน้าจอ Home Screen ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันตามลักษณะของสมาร์ทโฟน Android โดย Nokia 6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของ Google ในขณะนี้

 

ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอ Home Screen และจัดการหน้าเมนูต่างๆ ได้อย่างอิสระตามแบบฉบับของ Android

 

หากปัดนิ้วจากด้านบนของหน้าจอลงมาด้านล่าง จะพบกับแถบการแจ้งเตือน (Notification) และทางลัดในการ เปิด-ปิด ฟังก์ชันต่างๆ

 

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยยของ Nokia 6 จะใช้งาน เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ติดตั้งอยู่บนปุ่มโฮม

 

Nokia 6 จะไม่รองรับการบริการของ Google Play Store และ Google Services ทุกประเภท แต่จะมี Application Store ของประเทศจีนไว้รองรับแทน

 

สำหรับการใช้งานร่วมกับเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย (AIS, dtac และ TrueMove H) ก็พบว่า Nokia 6 สามารถใช้ได้งานแบบไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
 

สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือนั้น Nokia 6 ก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล แต่มีข้อจำกัดเล็กน้อยว่าสัญลักษณ์อินเทอร์เน็ตของ Nokia 6 ที่ใช้ซิมการ์ดในประเทศไทยยังขึ้นสัญลักษณ์ 3G เท่านั้น แต่ไม่ขึ้นสัญลักษณ์ 4G ซึ่งทางทีมงานจะหาวิธีทดสอบอย่างละเอียดอีกครั้งในรีวิวฉบับเต็มว่า Nokia 6 สามารถใช้งานบนคลื่น 4G ในประเทศไทยได้หรือไม่

 

มาดูกันต่อที่คุณสมบัติตัวเครื่องกันบ้าง โดย Nokia 6 มาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm MSM8937 Snapdragon 430 ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB, หน่วยความจำภายในขนาด 64GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat

 

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark (ไฟล์ APK) ได้ผลคะแนน 44,961 คะแนน และทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 4 (ไฟล์ APK) ได้ผลคะแนนแบบ Single-Core ที่ 641 คะแนน ส่วนแบบ Multi-Core ได้ 2,666 คะแนน

 

เปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพความละเอียด 16 ล้านพิกเซลในเบื้องต้น

 

สำหรับกล้องถ่ายภาพของ Nokia 6 จะมีเมนูการใช้งานที่ค่อนข้างง่าย ไม่มีฟังก์ชันเสริมเยอะจนเกินไป แต่โหมดถ่ายภาพมีน้อยไปสักเล็กน้อย โดย Nokia 6 มีโหมดถ่ายภาพของกล้องด้านหลังให้เลือก 3 โหมด คือ ภาพถ่าย, ทัชอัพ และพาโนรามา พร้อมการตั้งค่าพื้นฐานต่างๆ เกี่ยวกับการถ่ายภาพอย่างครบถ้วน

 

ส่วนกล้องถ่ายภาพด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ Nokia 6 มีโหมดถ่ายภาพให้เลือก 2 โหมด คือ ภาพถ่าย และทัชอัพ พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ HD 720p

 

ภาพถ่ายเบื้องต้นจาก กล้องด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และ กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ Nokia 6
 

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดธรรมดา

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าในโหมดทัชอัพโดยปรับระดับที่ 0, 10 และ 20 ตามลำดับ

 

สรุปการใช้งานในเบื้องต้นของ Nokia 6

หลังจากที่ทีมงานทดลองใช้ Nokia 6 มาได้ประมาณครึ่งวันก็พบว่า สัมผัสแรกที่ได้จับตัวเครื่องของ Nokia 6 นั้นให้ความรู้สึกที่พรีเมียมหรูหราอยู่ไม่น้อยด้วยตัวเครื่องที่ผลิตจากวัสดุโลหะแบบ 6000 Series Aluminum Alloy ส่วนรูปทรงตัวเครื่องจะค่อนข้างเหลี่ยม ไม่โค้งมน สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การใช้งานแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาในเครื่อง, การเข้าเว็บไซต์ต่างๆ หรือการใช้งานกล้องถ่ายภาพ มีความลื่นไหลไม่สะดุด แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างรู้สึกแปลกบ้างก็คือ Nokia 6 นั้นเป็นสมาร์ทโฟน Android ที่ไม่รองรับ Google Play Store ทำให้การจะใช้งานแอปพลิเคชันใดๆ ก็ตาม ผู้ใช้ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันในรูปแบบของไฟล์ APK เท่านั้น ซึ่งมีความเสี่ยงในการติดมัลแวร์ หรือเกิดอันตรายได้ง่ายกว่าการดาวน์โหลดผ่านทาง Google Play Store แต่ถ้าหากผู้ใช้ท่านใดที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้งานในระดับหนึ่งก็น่าจะใช้งานได้อย่างไม่ยากเย็นจนเกินไป

สำหรับ Nokia 6 ที่มีวางจำหน่ายในขณะนี้เป็นเครื่องหิ้วที่สั่งนำเข้ามาจากประเทศจีน  ดังนั้น การลงไฟล์ APK ใดๆ ที่ต้องการเข้าถึงบริการ Google Services ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ หากท่านใดที่สนใจ ทางทีมงานก็ขอให้ทุกท่านตัดสินใจให้รอบคอบ และถี่ถ้วนก่อนซื้อนะครับ

ส่วนราคาวางจำหน่ายของ Nokia 6 ในตอนนี้อยู่ที่ 12,000 บาท ซึ่งเป็นราคา ณ ปัจจุบัน ของร้านค้าแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง (MBK) ถ้าหากท่านใดที่สนใจจริงๆ ก็สามารถไปเลือกซื้อได้ทันที แต่ต้องขอบอกสักเล็กน้อยว่าไม่มีตัวเครื่องให้ทดลองเล่นก่อน หากจะซื้อต้องชำระเงิน และเปิดกล่องในทันทีนะครับ ส่วนรีวิว (Review) Nokia 6 ฉบับเต็มจะตามมาในเร็วๆ นี้แน่นอน สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องโดยละเอียดของ Nokia 6

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 17/2/2560