Apple ปล่อย iOS 11 Public Beta 1 ให้ผู้สนใจทั่วไปได้ดาวน์โหลดและทดสอบแล้ว
หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว iOS 11 อย่างเป็นทางการในงาน WWDC 2017 เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมกับปล่อยเวอร์ชัน Developer Beta ให้นักพัฒนาได้ทดสอบกันไปแล้ว ล่าสุด Apple ได้ปล่อย iOS 11 Public Beta 1 ให้ผู้สนใจทั่วไปได้ทดสอบแล้วเช่นกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนักพัฒนา ก็สามารถร่วมทดสอบ iOS 11 Public Beta ได้
โดยผู้ที่สนใจอยากจะทดสอบ iOS 11 Public Beta แนะนำว่า อย่าติดตั้งบนอุปกรณ์ iOS ที่ใช้อยู่เป็นประจำ เนื่องจากยังคงเป็นเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งอาจจะมีฟังก์ชันบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ควรทำการดาวน์โหลดและติดตั้งบนเครื่องสำรองจะดีกว่า
สำหรับวิธีการดาวน์โหลด iOS 11 Public Beta 1 ให้เข้าไปลงทะเบียนได้ที่ https://beta.apple.com/ ด้วย Apple ID จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนที่ปรากฎ อย่าลืมว่า ก่อนที่จะทำการติดตั้ง ให้สำรองข้อมูลในตัวเครื่องก่อนทุกครั้ง
ที่มา : techcrunch.com
เปิดตัว iOS 11 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone, iPad และ iPod เวอร์ชันล่าสุด พร้อมสรุปข้อมูลทุกฟีเจอร์ ทุกรายละเอียด!
เริ่มต้นกันแล้วนะครับสำหรับงาน WWDC 2017 (Worldwide Developers Conference 2017) ของ Apple ที่จัดขึ้นเพื่อให้เหล่านักพัฒนาแอปพลิเคชัน และโปรแกรมต่างๆ ได้มาร่วมพูดคุยเพื่อค้นหาแนวทางสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายในงานนอกจากจะมีการจัดแสดง และสาธิตเทคโนโลยีต่างๆ แล้ว ก็ยังมีไฮไลต์สำคัญ คือ การเปิดตัว iOS 11 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่ Apple มักจะเปิดตัวเป็นประจำทุกปี โดยระบบปฏิบัติการ iOS จะเป็นระบบปฏิบัติการหลักของ iPhone, iPad และ iPod ซึ่งล่าสุด ณ เวลานี้ (7 มิ.ย. 60) Apple ก็ได้เปิดตัว iOS 11 อย่างเป็นทางการแล้ว โดย iOS 11 จะมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ หรือการพลิกโฉม UI แบบใดบ้างนั้น ติดตามชมรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยครับ
Messages
- ปรับดีไซน์ App Drawer แบบใหม่ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
- Messages in iCloud หากเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ หรือเปลี่ยน iPhone เครื่องใหม่ ข้อความทั้งหมดก็จะสามารถย้ายไปอยู่บนอุปกรณ์เครื่องใหม่ได้ทันที
Apple Pay
- สามารถใช้โอนเงินแบบเครื่องต่อเครื่องผ่านแอปพลิเคชัน Messages ได้ทันที
Siri
- มีการปรับ UI แบบใหม่ให้สวยงามยิ่งขึ้น
- สามารถแปลภาษาได้ทันที รองรับ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และสเปน (ยังเป็น Beta)
- มีระบบการประมวลผลรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ และเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ iDevice ทุกเครื่องในทันที
- สามารถจดจำคำเฉพาะ หรือชื่อเรียก และนำมาใช้ในระบบการเดาคำได้ทันที
Camera
- ใช้รูปแบบไฟล์วิดีโอ และรูปภาพแบบใหม่ที่ลดขนาดของไฟล์ให้ประหยัดพื้นที่มากยิ่งขึ้น
- Portrait Mode มีการปรับคุณภาพของซอฟต์แวร์ให้ถ่ายภาพได้สวยงามมากยิ่งขึ้น เช่น การถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือคุณภาพของภาพถ่าย
- สามารถตั้งค่าการถ่ายภาพบางอย่างได้ เช่น Long Exposure
- ระบบ AR (Augmented Reality) แบบใหม่ พร้อม AR Kit สำหรับนักพัฒนาแบบ Third-Party ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนบนโลกจริงได้ทันที
Photo
- Memories มีการประมวลผลรูปแบบของภาพถ่าย และจัดหมวดหมู่ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
- Live Photos สามารถเลือกบางจุดของคลิปวิดีโอให้เป็น Live Photos ได้
- สามารถเลือกรูปถ่ายที่ดีที่สุดจากภาพ Live Photos ได้ทันที
- เพิ่มฟีเจอร์ปรับแต่งภาพ Live Photos ให้มากขึ้น
- ระบบ Memories ปรับรูปแบบการเลือกภาพให้เข้ากับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
Control Center
- แถบควบคุมถูกปรับ UI แบบใหม่ ให้รวมเป็นหน้าเดียวกัน (Control Center + Apple Music)
- หน้าจอแสดงการแจ้งเตือนบนหน้า Lock Screenสามารถกดดูเพิ่มเติมได้ด้วยการปัดขึ้น
Maps
- มีรายละเอียดแผนที่ของชั้นต่างๆ ภายในอาคาร พร้อมทั้งร้านค้า และจุดบริการทั่วไป
- ระบบ Speed Limit สำหรับการควบคุมความเร็วขณะขับรถ
- ระบบ Lane Guide สำหรับป้องกันการสับสนในการเปลี่ยนเลน หรือทางเลี้ยวต่างๆ
Do not disturb while driving
- ระบบความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ โดยตัวเครื่องจะปิดการแจ้งเตือนทุกอย่าง เพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับรถ และมีการตอบกลับข้อความโดยอัตโนมัติ หากมีผู้ส่งข้อความเข้ามา
Home Kit
- ระบบ Multi-Room Audio สามารถเล่นเพลงจากลำโพงเครื่องใดก็ได้ภายในบ้านที่เชื่อมต่อกันอยู่
Apple Music
- สามารถประมวลผลได้ว่าเพื่อนๆ ของผู้ใช้ฟัง Playlist แบบใด พร้อมแชร์ให้กับผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ด้วย
- ระบบการเลือกเพลงที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
App Store
- ปรับโฉม UI และ Interface ของ App Store แบบใหม่ทั้งหมด
- ในหมวดหมู่ Games จะแสดงรายละเอียดของ In-App Purchased ทั้งหมด ในรายละเอียดของแอปพลิเคชันทันที
- หมวด Today จะแสดงแอปพลิเคชันใหม่ในแต่ละวัน มีการอัปเดตในทุกๆ วัน
- หมวด Today จะมีบทความ หรือเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับแอปพลิเคชันให้อ่านด้วย เช่น Tips การใช้งาน หรือความเป็นมาของแอปพลิเคชันนั้นๆ
อื่นๆ
- การประมวลผลกราฟิกแบบใหม่
- Vision API แบบใหม่
- Natural Language API
- ระบบ Deep Learning ของ AI รูปแบบใหม่
- การประมวลผลที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่า iOS 11 เปิดตัวมาพร้อมกับการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ อย่างมากมายเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าการพัฒนาระบบในครั้งนี้ถูกวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้ใช้งานร่วมกับ iPhone 8 ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย โดย iOS 11 เวอร์ชัน Official จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกดาวน์โหลดกันในเดือนกันยายนนี้ และน่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ iPhone 8 ออกวางจำหน่ายตามธรรมเนียมของ Apple นั่นเอง
ส่วนท่านใดที่ต้องการใช้ iOS 11 ก่อนก็สามารถลงทะเบียนเป็น Developer เพื่อทดลองใช้งานได้ แต่แนะนำให้ Backup ข้อมูลทั้งหมดไว้ก่อน เพราะ iOS 11 Beta Ver. อาจมีบั๊ก หรือการทำงานที่ไม่เสถียร และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายได้ ส่วนท่านใดที่ต้องการดาวน์โหลด iOS 11 เวอร์ชัน Official ก็อาจจะต้องอดใจรอกันอีกสักระยะนะครับ และถ้าหากมีรายละเอียดใดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iOS 11 ทางทีมงานจะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกท่านได้ทราบกันโดยเร็วที่สุดครับ
ที่มา : techradar
วันที่ : 27/6/2560