พรีวิว (Video Preview) Samsung Galaxy Camera :: วิดีโอรีวิว ทดสอบ มือถือ

เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (17 ตุลาคม 2555) ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ ก็ได้รับเกียรติอีกครั้ง จากทาง ซัมซุง ให้เข้าร่วมงานเวิร์คช็อปของผลิตภัณฑ์ประเภท สมาร์ทคาเมร่า (Smart Camera) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ใกล้จะเปิดตัว และวางจำหน่ายราวๆ สัปดาห์ที่สอง ของเดือนพฤศจิกายน หรืออีกไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้ ซึ่งก็คือ Samsung Galaxy Camera นั่นเอง โดยราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยนั้นยังไม่เปิดเผย แต่ทาง ซัมซุง ได้ให้ข้อมูลคร่าวๆ ว่า ราคาของ Samsung Galaxy Camera นั้นจะไม่เกิน 18,000 บาท อย่างแน่นอน และอีกประเด็นที่หลายๆ ท่านอยากทราบก็คือในชุดขายมาตรฐานของ Samsung Galaxy Camera นั้นจะมีแบตเตอรี่มาให้กี่ก้อน เนื่องจากฟีเจอร์มากมายขนาดนี้ หากใช้งานกันเต็มที่ ก็คงกินพลังงานไม่น้อย ซึ่งทาง ซัมซุง ก็ได้ให้ข้อมูลว่า จะมีแบตเตอรี่มาให้ 1 ก้อน เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ ดังนั้นหากใครใช้งานหนักๆ ก็อาจจะต้องซื้อแบตเตอรี่สำรอง หรือแบตเตอรี่พกพาติดตัวเอาไว้ก็น่าจะดีไม่น้อย ซึ่งเราก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่า ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy Camera นั้นจะโดนใจผู้ซื้ออย่างเราๆ มากน้อยขนาดไหน

(ล่าสุด ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 ทาง ซัมซุง ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Camera ออกมาที่ 16,900 บาท และพร้อมจำหน่ายในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2555)

สำหรับ Samsung Galaxy Camera นั้น ก็ถือว่าเป็น ผลิตภัณฑ์แนวใหม่ ที่ทีมงานขอเรียกว่าเป็น สมาร์ทคาเมร่า (Smart Camera) โดยสาเหตุที่ต้องให้คำจำกัดความของ Samsung Galaxy Camera ไว้ว่าเป็น สมาร์ทคาเมร่า ก็เนื่องจาก Samsung Galaxy Camera นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานระหว่าง กล้องดิจิตอลคอมแพค กับระบบปฏิบัติการยอดนิยมบน สมาร์ทโฟน อย่างระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 4.1 หรือที่เรียกกันว่า Jelly Bean นั่นเอง ดังนั้น Samsung Galaxy Camera ก็คงจะเรียกว่าเป็น กล้องดิจิตอลคอมแพค เหมือนกับ กล้องดิจิตอลคอมแพค ทั่วๆ ไปไม่ได้ เพราะด้วยประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นในการใช้งานของระบบปฏิบัติการ Android 4.1 เอง ก็ช่วยให้ Samsung Galaxy Camera นี้มีความชาญฉลาดมากกว่า และใช้งานได้หลากหลายมากกว่า เรียกได้ว่า สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ทำได้อย่างไร Samsung Galaxy Camera นั้นก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน แถมยังพ่วงด้วยความสามารถของ กล้องดิจิตอลคอมแพค แบบแท้ๆ อีกต่างหาก โดยก่อนที่เราจะไปชม วิดีโอพรีวิว (Video Preview) ของ Samsung Galaxy Camera เราก็จะมาดูกันก่อนว่า Samsung Galaxy Camera นั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างไรบ้าง

คุณสมบัติเด่นๆ ที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy Camera นั้นก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

- กล้องดิจิตอลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมการซูมด้วยเลนส์ (Optical Zoom) ได้สูงสุดถึง 21 เท่า
- เซ็นเซอร์รับภาพแบบ BSI CMOS ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อย พร้อมขนาดเซ็นเซอร์รับภาพ 1/2.3 นิ้ว
- ไฟแฟลชแบบซีนอน (Xenon Flash) พร้อมกลไกการทำงานแบบ Pop-Up Flash
- เลนส์มุมกว้าง 23 มิลลิเมตร
- ปุ่มชัตเตอร์แบบ 2 จังหวะ (โฟกัสภาพ และถ่ายภาพ)
- วงแหวนสำหรับการซูมภาพโดยเฉพาะที่บริเวณรอบนอกของปุ่มชัตเตอร์
- ค่ารูรับแสง (Aperture) F/2.8-5.9
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ระบบป้องกันการสั่นไหวของรูปภาพด้วยเลนส์ (Optical Image Stabilization)
- ปรับค่าความไวแสงได้สูงสุดที่ ISO 3200
- โหมดการถ่ายภาพแบบ Auto, Casual, Smart Pro และ Expert
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps)
- ถ่ายภาพวิดีโอแบบสโลว์โมชั่น (WVGA : 720x480 Pixels : 120 fps : Slow Motion)
- โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ (Photo Wizard) พร้อมฟังก์ชันสำหรับการตกแต่งแก้ไขรูปภาพกกว่า 35 ฟังก์ชัน
- โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Movie Wizard)
- ประมวลผลการทำงานด้วย Quad-Core Cortex-A9 (ชิปเซ็ต Exynos 4412 Quad) ความเร็วในการประมวลผล 1.4 GHz
- ระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 4.1 (Jelly Bean)
- จอแสดงผลแบบ Super Clear LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels (HD 720p : กว้าง 4.8 นิ้ว : 306 ppi) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิค (GPU) โดยเฉพาะแบบ Mali-400MP
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 2
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ HSPA+ และ WiFi โดยรองรับ 3G ได้ทุกคลื่นความถี่ในตัวเดียวกัน
- ใช้งานฟรีบริการ Cloud Storage ของ Dropbox ได้สูงสุด 50 GB
- รองรับการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกผ่านทางสาย HDMI
- โปรแกรม Smart Content Manager
- รองรับการแชร์ไฟล์รูปภาพผ่านทางระบบ Wi-Fi Direct ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใกล้เคียงได้พร้อมกัน 8 เครื่อง พร้อมฟังก์ชัน AllShare Play
- ระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติบน Cloud Storage (Auto Cloud Backup)
- ค้นหา และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้มากมายมหาศาลผ่านทาง Google Play Store

ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Camera จะมี 2 สีมาตรฐานให้เลือกคือสีขาว และสีดำ

วิดีโอพรีวิว Samsung Galaxy Camera Video Preview & Focus

วิดีโอพรีวิว (Video Preview) Samsung Galaxy Camera

คำอธิบาย วิดีโอพรีวิว (Video Preview) Samsung Galaxy Camera

หน้าตาของ User Interface บนหน้า Home Screen ของ Samsung Galaxy Camera ก็จะเหมือนกันกับ User Interface ที่เห็นบน สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ ทั่วไป เพียงแต่ในกรณีนี้จะจัดวางในแนวนอนเป็นหลัก

หน้าเมนูหลักด้านใน จะแบ่งออกเป็น แอพพลิเคชั่น, วิดเจ็ต และแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลด

มีวิดเจ็ตให้เลือกใช้มากมาย ตามสไตล์ของ Jelly Bean

นาทีที่ 00:19 (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)
การออกแบบดีไซน์, รูปลักษณ์ภายนอก และองค์ประกอบของตัวเครื่อง Samsung Galaxy Camera

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่มเปิด-ปิดไฟแฟลชแบบ Pop-Up Xenon Flash และลำโพงเสียงภายนอก

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องก็จะเหมือน กล้องดิจิตอลคอมแพค ทั่วไป โดยเลนส์ของ Samsung Galaxy Camera นั้นจะเป็นเลนส์กว้าง โดยกว้างสูงสุดที่ 23 มิลลิเมตร เลยทีเดียว ส่วนค่ารูรับแสงจะอยู่ระหว่าง F/2.8-5.9

ส่วนที่ใช้สำหรับจับถือกล้องด้วยมือขวานั้นมีลักษณะที่นูนใหญ่ขึ้นมา มีพื้นผิวที่ไม่มันลื่นจนเกินไป ช่วยให้สามารถจับถือได้อย่างถนัดมือ และมั่นคงมากขึ้น ในลักษณะของกล้องดิจิตอลแท้ๆ

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB และรูร้อยสายคล้อง

โดยช่อง microUSB นี้ ก็จะเอาไว้ใช้สำหรับการโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่นั่นเอง

ที่ด้านบนของตัวเครื่อง จะมีไฟแฟลชแบบ Pop-Up Xenon Flash, ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, ปุ่มชัตเตอร์แบบสองจังหวะขนาดใหญ่ และวงแหวนสำหรับการซูม ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกันกับกล้องดิจิตอลแท้ๆ นั่นเอง

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูสำหรับการติดตั้งกับขาตั้งกล้อง และช่องสำหรับการเชื่อมต่อ และใส่อุปกรณ์เพิ่มเติม

เมื่อเปิดช่องออกมาก็จะพบกับ ช่องใส่แบตเตอรี่ Li-ion ขนาดความจุ 1,650 mAh, ช่อง HDMI เพื่อการเชื่อมต่อแสดงผลออกจอภาพภายนอก, ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ microSIM

น้ำหนักตัวของ Samsung Galaxy Camera นั้นจะอยู่ที่ 305 กรัม ซึ่งก็ถือว่าหนักพอสมควร หากให้นึกภาพออก ก็จะเทียบเท่ากับการถือ สมาร์ทโฟน จอสัมผัสทั่วๆ ไปรวมกัน 2 เครื่องนั่นเอง แต่สำหรับการเป็น กล้องดิจิตอลคอมแพค น้ำหนักเท่านี้ก็ถือว่าไม่หนักผิดปกติแต่อย่างใด

หน้า User Interface หลัก เมื่อเข้าไปยังโหมดของการถ่ายภาพ

กล้องของ Samsung Galaxy Camera จะมีอยู่ 4 โหมดหลักก็คือ Auto, Casual, Smart Pro และ Expert

โหมด Auto หรือโหมดอัตโนมัติ ก็จะเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่เน้นกดถ่ายอย่างเดียว

โหมดต่อมาก็คือ โหมด Casual ซึ่งรวมเอาฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบพิเศษๆ เอาไว้มากมาย เช่น Best Face, Burst Shot, Blue Sky หรือ Best Photo เป็นต้น

โหมด Smart Pro ก็จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพสวยๆ แบบโปรกล้อง ได้แบบง่ายๆ ด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูปที่หลากหลาย เช่นการถ่ายภาพน้ำตก, การถ่ายภาพสโลว์โมชั่น หรือการถ่ายภาพแสงไฟ เป็นต้น

และสุดท้าย ก็คือโหมด Expert ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชำนาญด้านการถ่ายภาพ เพราะในโหมดนี้จะสามารถปรับค่าแบบ Manual ได้เองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าความไวแสง (ISO), ค่าชดเชยแสง, ค่ารูรับแสง หรือค่าความไวชัตเตอร์

สามารถซูมภาพด้วยเลนส์ได้แบบสุดๆ ที่ 21 เท่า ซึ่งก็ถือว่าซูมได้ไกลมากๆ

ความละเอียดสูงสุดของรูปภาพจะอยู่ที่ 4608x2592 พิกเซล ในอัตราส่วนภาพแบบ 16:9

ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าได้ 2, 5 และ 10 วินาที

มีตัวเลือกสำหรับการแชร์รูปภาพทั้งแบบ Share Shot, Buddy Photo Share และ ChatON Photo Share

มีการตั้งค่าเสียงการโฟกัส, เสียงชัตเตอร์, เสียงการทำงาน, คำอธิบาย, ไกด์ไลน์, ความสว่างของหน้าจอ

การดูแบบรวดเร็ว, การแนบวันที่และเวลา, การแนบพิกัด, การสั่งงานด้วยเสียง

ไฟช่วยโฟกัสภาพ และการเลือกโหมดถ่ายภาพเริ่มต้น เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรก

ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 20 ภาพ แต่เท่าที่ทดสอบดูคร่าวๆ ก็ดูเหมือนจะทำงานได้ไม่เร็วนัก ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะเครื่องทดสอบในขณะนี้ ซอฟต์แวร์ยังไม่สมบูรณ์ 100% นั่นเอง

นาทีที่ 03:04 (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)
ทดสอบความยาวของกระบอกเลนส์ ขณะที่ทำการซูมเข้า-ซูมออก

การซูมที่ระยะ 1x กระบอกเลนส์ก็จะสั้นที่สุดดังภาพ

ส่วนการซูมสูงสุดที่ระยะ 21x กระบอกเลนส์ก็จะยื่นออกมายาวที่สุดดังภาพ

ไฟแฟลชของ Samsung Galaxy Camera นั้นจะเป็นแบบ Pop-Up Xenon Flash ซึ่งมีปุ่มเปิดแฟลชที่ด้านข้างของตัวเครื่อง

Pop-Up Xenon Flash ก็เห็นกันได้ทั่วไปใน กล้องดิจิตอลคอมแพค ในท้องตลาดนั่นเอง

สรุปผลการทดสอบ (เบื้องต้น) ของ Samsung Galaxy Camera

ที่ผ่านไปข้างต้น ก็เป็นเพียงการทดสอบการใช้งานเบื้องต้น กับ ผลิตภัณฑ์ สมาร์ทคาเมร่า (Smart Camera) อย่าง Samsung Galaxy Camera เท่านั้น ด้วยเวลาในการทดสอบอันจำกัด และอีกประการหนึ่งที่ยังไม่ได้ทดสอบลงลึกมากนัก ก็เนื่องจากเฟิร์มแวร์ของ Samsung Galaxy Camera ของเครื่องทดสอบนี้ ยังไม่ใช่เฟิร์มแวร์ที่สมบูรณ์ 100% อย่างที่จะมีในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นก็คงต้องรอทาง ซัมซุง พัฒนาปรับปรุงเฟิร์มแวร์ของ Samsung Galaxy Camera ให้เสร็จสมบูรณ์เสียก่อน ทีมงานก็จะนำมารีวิวแบบเต็มๆ ให้ชมกันอีกครั้งหนึ่ง และสำหรับในการพรีวิวสัมผัสแรกในวันนี้ หากพบข้อบกพร่องใดๆ ในการทำงานของ Samsung Galaxy Camera ปัจจัยหนึ่ง นั่นก็คงเป็นเพราะเฟิร์มแวร์ยังไม่สมบูรณ์นั่นเอง

ส่วนจุดบกพร่องที่พบเห็นได้จากการสัมผัสแรกในวันนี้ ก็มีอยู่บ้าง เช่น แบตเตอรี่ที่ให้มาน้อยเกินไป (1650 mAh) ซึ่งอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันใช้งาน และมีกลไกทางฮาร์ดแวร์มากมายขนาดนี้ แบตเตอรี่ความจุ 1650 mAh ใช้งานได้ไม่ครบวันอย่างแน่นอน ดังนั้น หากใครที่ต้องการความมั่นใจว่าจะสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน หรือใครที่ใช้งานหนักๆ เห็นทีจะต้องหาซื้อแบตเตอรี่สำรองมาเผื่อเหลือเผื่อขาด หรือไม่ก็อาจจะหากซื้อแบตเตอรี่พกพามาติดตัวไว้ ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ในระดับหนึ่ง และะปัญหาอื่นๆ ก็มีบ้างเช่น เครื่องค่อนข้างร้อน, ไม่รองรับ NFC, หน่วยความจำภายในมีเพียง 8 GB (แต่ใส่ microSD Card เพิ่มได้) และจอภาพมีสีสันที่ไม่ค่อยสดใสมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาบางอย่างที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคด้านซอฟต์แวร์ ก็อาจจะหมดไป เมื่อเฟิร์มแวร์ตัวสมบูรณ์ถูกพัฒนาเสร็จเรียบร้อย ส่วนเรื่องการโทรออก หรือรับสายไม่ได้นั้น ไม่คิดว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะ Samsung Galaxy Camera นั้นไม่ได้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท สมาร์ทโฟน แต่ต้องเรียกว่าเป็น สมาร์ทดีไวซ์ เสียมากกว่า

สำหรับ Samsung Galaxy Camera นั้น ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะวางจำหน่ายราวๆ สัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน ในราคาไม่เกิน 18,000 บาท แต่จริงๆ แล้วราคาเปิดตัวจะเป็นเท่าไหร่ ขณะนี้ทาง ซัมซุง คงกำลังทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อเคาะราคาจำหน่าย หรือโปรโมชั่นให้โดนใจผู้ซื้อมากที่สุด หลังจาก 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ สมาร์ทโฟน รุ่นเรือธงประจำไตรมาสสุดท้ายของปี 2012 อย่าง Samsung Galaxy Note II (Samsung Galaxy Note 2) ได้ทำยอดขายแบบถล่มทลาย และมีทีท่าว่าจะขายดีไปจนถึงสิ้นปีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น หากมองในด้านของผู้ที่กำลังหาซื้อ สมาร์ทโฟน เครื่องใหม่ การเปิดราคา และโปรโมชั่นของของ Samsung Galaxy Camera ก็คงจะต้องโดนใจผู้ซื้อ สมาร์ทโฟน จริงๆ ไม่เช่นนั้น ก็อาจจะทำให้ผู้ซื้อเกิดความลังเลกับ สมาร์ทโฟน รุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดได้ เพราะแม้ว่า Samsung Galaxy Camera จะเป็นผลิตภัณฑ์คนละกลุ่มกัน และไม่สามารถโทรออกได้ ซึ่งแตกต่างกับ สมาร์ทโฟน แต่การที่ Samsung Galaxy Camera มีระบบปฏิบัติการ Android OS 4.1 อยู่ในตัว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทาง ซัมซุง นั้นก็คาดหวังกับกลุ่มผู้ใช้ สมาร์ทโฟน อยู่บ้างเหมือนกัน

แต่หากมองในด้านของผู้ซื้อ ที่กำลังมองหา กล้องดิจิตอลคอมแพค ตัวใหม่สักเครื่อง Samsung Galaxy Camera ก็น่าจะตอบโจทย์ผู้ซื้อกลุ่มนี้ได้ดีกว่า ด้วยการที่ Samsung Galaxy Camera นั้นมีคุณสมบัติ และความสามารถครบเครื่อง ในการเป็น กล้องดิจิตอลคอมแพค อยู่แล้ว แต่เมื่อถูกผนวกเข้ากับตัวระบบปฏิบัติการอันชาญฉลาดอย่าง Android OS 4.1 ก็ทำให้ Samsung Galaxy Camera สมบูรณ์แบบขึ้นมาอีกเท่าตัว เพราะนอกจากผู้ใช้จะสามารถถ่ายภาพได้คมชัด มีคุณภาพสูง ตามสไตล์ของ กล้องดิจิตอลคอมแพค แท้ๆ แล้ว ก็ยังมีทางเลือกในการใช้งานในด้านอื่นๆ ได้อีกอย่างไม่จำกัด ด้วยจำนวนแอพพลิเคชั่นอันมหาศาลของระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ นั่นเอง ดังนั้นด้วยราคาจำหน่ายที่ไม่เกิน 18,000 นี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหา กล้องดิจิตอลคอมแพค ที่มีดีมากกว่าการถ่ายภาพ ก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงครับ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่อีกครั้งในการรีวิวแบบเต็มๆ ของ Samsung Galaxy Camera ในเร็วๆ นี้ ขอบคุณครับ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Samsung Galaxy Camera ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้