Nokia Lumia 925 Smart Camera Review (Action Shot and Motion Focus)

หลังจากที่ได้ติดตามการ พรีวิว (Preview) Nokia Lumia 925 สมาร์ทโฟน Windows Phone ไฮเอนด์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก โนเกีย กันไปแล้ว ในวันนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมาเจาะลึกฟีเจอร์เด่นของ Nokia Lumia 925 กันบ้าง โดยฟีเจอร์เด่นอันดันต้นๆ ของ Nokia Lumia 925 ที่ต้องพูดถึงกันเป็นพิเศษก็คือ แอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันสำหรับการถ่ายภาพที่โดดเด่นถึง 5 ฟังก์ชันด้วยกัน ได้แก่ Best Shot, Action Shot, Motion Focus, Change Faces และ Remove Moving Object แต่ 2 ฟังก์ชันแรกที่เราเลือกที่จะนำมาทดสอบกันในวันนี้ก็คือฟังก์ชัน Actions Shot และ Motion Focus ซึ่งถือว่าเป็นฟังก์ชันสำหรับการถ่ายภาพที่น่าสนใจมากๆ โดยฟังก์ชัน Actions Shot นั้นจะทำงานด้วยการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงเป็นจำนวน 10 ภาพ แล้วนำแต่ละเฟรมมาต่อเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน ทำให้เราสามารถเห็นทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวในทุกจังหวะได้อย่างชัดเจน ส่วนฟังก์ชัน Motion Focus ก็มีทีเด็ดไม่แพ้กัน โดยจะทำให้วัตถุที่เคลื่อนไหวนั้นหยุดนิ่ง ส่วนวัตถุที่ไม่ได้เคลื่อนไหว ก็จะกลับกลายเป็นวัตถุที่เคลื่อนไหว ดังนั้นก็จะได้ภาพที่ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามกันต่อในคลิปวิดีโอได้ว่าฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus จะมีลูกเล่นที่น่าประทับใจมากน้อยขนาดไหน 

Nokia Lumia 925 Video Review & Focus (ทดสอบการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus)
 

เนื้อหาเพิ่มเติม วิดีโอรีวิว (Video Review) Nokia Lumia 925 (รีวิวทดสอบการใช้งาน Nokia Smart Camera ด้วยฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus)

แอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

แอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera นั้นเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับการถ่ายภาพตัวใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับ Nokia Lumia 925 ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 เวอร์ชันล่าสุด (GDR2) หรือ Nokia Lumia Amber Update โดยแอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera จะมีฟังก์ชันสำหรับการถ่ายภาพอยู่ทั้งหมด 5 ฟังก์ชัน ได้แก่ Best Shot ซึ่งรองรับการเลือกภาพที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 10 ภาพ, Action Shot ซึ่งรองรับการถ่ายภาพ 10 ภาพแล้วนำมาแต่ละเฟรมมาต่อกันอย่างแนบเนียน, Motion Focus ซึ่งรองรับการทำให้วัตถุที่เคลื่อนไหวหยุดนิ่ง และทำให้สิ่งที่หยุดนิ่งเกิดการเคลื่อนไหว, Change Faces ซึ่งรองรับการเปลี่ยนใบหน้าที่ดีที่สุด และ Remove Moving Object ซึ่งรองรับการลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกไปจากรูปภาพ โดยการทดสอบในวันนี้ จะเลือกเอา 2 ฟังก์ชันเด่นอย่าง Actions Shot และ Motion Focus มาให้ทุกท่านได้ติดตามกันก่อนดังรายละเอียดด้านล่างนี้

ตัวอย่างการใช้งาน และภาพที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

วิธีการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot ก็ไม่ยาก เพียงแค่เข้าไปที่แอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera จากนั้นให้เลือกมุมมองของภาพที่ต้องการ เมื่อเลือกมุมมองได้แล้ว ก็ให้เลือกจุดโฟกัส เมื่อเรียบร้อยแล้วก็กดถ่าย พร้อมจับตัวเครื่องให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้นเครื่องจะทำการจับภาพแบบต่อเนื่อง 10 ภาพอย่างรวดเร็ว

ฟังก์ชัน Fade On คือการทำแต่ละเฟรมให้มีลักษณะโปร่งแสง หรือเบลอ

ฟังก์ชัน Fade Off คือการทำให้ทุกเฟรมไม่มีความโปร่งแสง

สามารถเลือกซ่อนเฟรมที่ไม่ต้องการออกไปได้

การเลือกซ่อนเฟรมบางเฟรม ในบางสถานการณ์ก็จะช่วยให้ภาพที่ได้มีความสวยงามลงตัวมากยิ่งขึ้น

ในโหมด Fade On เราสามารถเลือกเฟรมใดเฟรมหนึ่งให้ชัดเจนกว่าเฟรมอื่นได้ โดยการกดไปที่ภาพโดยตรง

ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot

ตัวอย่างการใช้งาน และภาพที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

การเริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน Motion Focus ก็มีขั้นตอนเช่นเดียวกันกับการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot คือเครื่องจะถ่ายภาพต่อเนื่องไว้ 10 ภาพ และนำมาจัดการในภายหลัง

สามารถเลือกเฟรมที่ต้องการได้ตามใจชอบ โดยการสไลด์ไปด้านซ้าย หรือด้านขวา ที่บริเวณด้านล่างของหน้าจอแสดงผล

วัตถุที่เคลื่อนไหว ก็จะถูกทำให้หยุดนิ่ง ส่วนวัตถุที่หยุดนิ่ง ก็จะถูกทำให้เคลื่อนไหว

สามารถปรับระดับของการเคลื่อนไหวของฉากหลังได้ 2 ระดับคือ ระดับแรกคือเคลื่อนไหวเล็กน้อย (Low)

 ระดับที่สองคือเคลื่อนไหวมาก (Low) ทำให้วัตถุดูมีการเคลื่อนที่ๆ รวดเร็วเป็นพิเศษ

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากฟังก์ชัน Motion Focus

สรุปประสบการณ์จากการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus บน Nokia Lumia 925

ทดสอบการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus บน Nokia Lumia 925 (ดูวิดีโอประกอบเนื้อหา)

จากการทดสอบการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus ก็พบว่า โดยรวมแล้วสามารถสร้างความประทับใจให้กับทีมงานได้มากพอสมควร ตั้งแต่การใช้งานที่ง่ายดายไม่ซับซ้อน, ประมวลผลได้รวดเร็ว, สามารปรับแต่งได้อย่างอิสระหลากหลาย โดยเฉพาะผลลัพธ์ที่ได้ส่วนใหญ่นั้นถือว่ามีความสมบูรณ์เกือบจะ 100% เลยทีเดียว มีความสวยงามโดดเด่นแปลกตา ทั้งภาพที่ได้จากฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus แต่อย่างไรก็ดี รายละเอียดของภาพจากบางสถานการณ์อาจจะมีการตกหล่นขาดหายไปบ้าง เช่นหากต้องถ่ายภาพลูกบอลซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ก็เป็นไปได้ยากที่จะสามารถจับภาพลูกบอลให้หยุดนิ่งได้ รวมถึงหากถ่ายในสถานที่ๆ มีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือถ่ายในที่มืด ก็อาจจะถ่ายได้ยากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นข้อแนะนำจากทีมงานก็คือ หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการใช้งานฟังก์ชัน Action Shot และ Motion Focus ข้อแรกคือต้องพิจารณาสถานที่ๆ จะถ่ายภาพว่ามีแสงสว่างเพียงพอหรือไม่ ข้อที่สองคือต้องพิจารณาว่าวัตถุที่กำลังจะถ่ายนั้น มีการเคลื่อนที่ๆ เร็วเกินไปหรือไม่ ข้อที่สามคือวัตถุที่กำลังจะถ่ายนั้น หากต้องการภาพที่ต่อเนื่องสวยงาม วัตถุนั้นก็ควรจะมีการเคลื่อนที่ หรือเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา ข้อที่สี่คือฉากหลัง ควรจะมีรายละเอียด หรือสีสันที่แตกต่างจากวัตถุที่ต้องการจะถ่าย หากมีสีสันที่ตัดกันชัดเจนได้ก็จะยิ่งดี และข้อที่สี่ สำหรับการถ่ายภาพด้วยฟังก์ชัน Motion Focus ก็ต้องแน่ใจว่าวัตถุที่ต้องการให้หยุดนิ่งนั้น ก็ควรที่จะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เครื่องสามารถตรวจจับ และประมวลผลได้ถูกต้องแม่นยำขึ้นนั่นเอง

สรุปจุดเด่น ของ Nokia Lumia 925

- มีรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราภูมิฐานกว่าเดิม (เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้คือ Nokia Lumia 92) ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น กรอบตัวเครื่องที่ผลิตจากอลูมิเนียม, แผ่นด้านหลังที่ผลิตจากโพลีคาบอร์เนต
- ตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 8.5 มิลลิเมตร ซึ่งบางกว่า Nokia Lumia 920 ประมาณ 2 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 139 กรัม
- จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x768 Pixels (WXGA : กว้าง 4.5 นิ้ว : 332 ppi) พร้อมเทคโนโลยีหน้าจอแบบ PureMotion HD+ ClearBlack Display
- หน่วยประมวลผลภาพกราฟฟิคโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 225
- กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 2 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วน
- คุณสมบัติแบบ Super Sensitive Touch ช่วยให้สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ในขณะสวมถุงมือ หรือใช้เล็บมือ
- ประมวลผลการทำงานด้วย Dual-Core Krait Processor (ชิบเซ็ต Qualcomm MSM8960 Snapdragon S4 Plus) ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Phone 8 (Nokia Lumia Amber Update)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และ RAM ขนาด 1 GB พร้อมรองรับการเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Cloud Storage ด้วยบริการ SkyDrive (ฟรีพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 7 GB)
- กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8.7 ล้าน Pixels พร้อมเลนส์กล้องคุณภาพสูงจาก Carl Zeiss Optics, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ PureView, ไฟแฟลชในตัว (Dual-LED Flash), ปุ่มกล้องแบบ 2 จังหวะ
- แอพพลิเคชั่น Nokia Smart Camera ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชัน Best Shot, Action Shot, Motion Focus, Change Faces และ Remove Moving Object
- ถ่ายภาพวิดีโอ (Full HD : 1080p : 1920x1080 Pixels : 30 fps) พร้อมระบบการบันทึกเสียงแบบ Stereo
- กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 1.3 ล้าน Pixels พร้อมรองรับการถ่ายภาพวิดีโอ (HD 720p : 1280x720 Pixels : 30 fps)
- เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, LTE, HSPA+, EDGE หรือ GPRS พร้อมรองรับ 3G ได้ทุกคลื่นความถี่
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้แบบ NFC (Near Field Communication : การสื่อสารข้อมูลระยะใกล้ : อ่าน, เขียน, แชร์)
- รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging : ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม Nokia Wireless Charging Cover ที่ไม่ได้มาพร้อมกับชุดจำหน่ายมาตรฐาน)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมรองรับการใช้งานระบบ RDS (Radio Data System)

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Nokia Lumia 925

- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลมีขนาดเพียง 16 GB และไม่รองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำเสริม เช่น microSD Card
- แบตเตอรี่มีความจุเพียง 2000 mAh ดังนั้นหากมีการใช้งานแบบต่อเนื่อง อาจจะอยู่ได้ไม่ครบวัน และต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นระยะ
- หน้าจอแสดงผลยังคงมีความละเอียดเท่าเดิม คือ WXGA ยังไม่ใช่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p
- การชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ต้องอาศัยอุปกรณ์เสริม (Nokia Wireless Charging Cover) ซึ่งไม่ได้มาพร้อมกับชุดจำหน่ายปกติ

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia Lumia 925 ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

Nokia Lumia 925 Specification 

ข้อมูลเพิ่มเติม

พรีวิว (Preview) สัมผัสแรกกับ Nokia Lumia 925

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::