ทำไมคนถึงสนใจ Samsung Galaxy S20 FE มือถือ 5G ชิปเซ็ต Snapdragon 865 รุ่นใหม่?

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Samsung Galaxy S20 FE สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นเล็กที่มาพร้อมกับสเปกแบบจัดเต็ม ในราคาวางจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 20,990 บาทสำหรับรุ่น 4G LTE และ 23,900 บาทสำหรับรุ่น 5G ซึ่งหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Gaaxy S20 FE ก็เป็นที่สนใจสำหรับแฟนๆ Samsung รวมถึงผู้ใช้ Android หลายๆ คนพอสมควร แต่เพราะเหตุใด Galaxy S20 FE  ถึงน่าสนใจ เราไปหาคำตอบกันดีกว่าครับ

สเปกแรงระดับเรือธง

Galaxy S20 FE รุ่น 5G ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย เลือกใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 865 ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ชิปเซ็ตตัวท็อปสุดในปีนี้อย่าง Snapdragon 865+ แต่สำหรับประสิทธิภาพการทำงานแล้ว ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับหัวตาราง ส่งผลให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกแรงสำหรับเล่นเกม หรือการใช้งานรอบด้านในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Galaxy S20 FE ยังเลือกใช้หน่วยความจำแบบ UFS 3.1 ที่จะช่วยให้การอ่านเขียนข้อมูลภายในตัวเครื่องรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการโหลดรูปจำนวนมาก หรือการเปิดแอปพลิเคชัน รวดเร็วมากขึ้นตามไปด้วย

รองรับ 5G!

อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดที่ทำให้ Galaxy S20 FE น่าสนใจไม่แพ้รุน่เรือธงนั่นก็คือ การรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G (เฉพาะรุ่นที่รองรับ 5G) ซึ่งโดยปกติแล้ว ฟีเจอร์ 5G จะมีอยู่ในเฉพาะ Samsung รุ่นท็อป หรือสมาร์ทโฟน A-Series ตัวท็อปเท่านั้น 

หน้าจอ 120Hz!

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมกับค่า Refresh Rate การแสดงผลระดับ 120Hz แบบเดียวกับที่ใช้บน Galaxy S20 Series และ Galaxy Note20 Series ซึ่งหมายความว่าใน 1 วินาที หน้าจอจะมีการ Refresh ทั้งหมด 120 ครั้ง ซึ่งจะช่วยให้อนิเมชันการแสดงผลเป็นไปอย่างลื่นไหลเนียนตา

กล้องระดับเรือธง

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับชุดกล้องหลัง 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่มีระบบกันสั่น OIS ในตัว พร้อมกลอง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล องศาในการรับภาพกว้าง 123 องศา และกล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการซูมภาพ Optical Zoom 3 เท่า และการซูมภาพระยะไกลสุด 30 เท่าแบบ Space Zoom นอกจากนี้ ยังมีการยกฟีเจอร์การถ่ายภาพจากรุ่นใหญ่มาให้ใช้งานแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Single Take หรือ Night Mode เป็นต้น

แบตอึดกว่ารุ่นเรือธง

Galaxy S20 FE มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh ซึ่งถือว่าเยอะกว่า Galaxy S20 รุ่นเริ่มต้นที่ให้แบตเตอรี่มาขนาด 4000mAh ซึ่งเมื่อใช้งานร่วมกับหน้าจอความละเอียด Full HD+ ของ Galaxy S20 FE แล้ว ก็น่าจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า รวมทั้ง Galaxy S20 FE ยังรองรับระบบชาร์จเร็ว และระบบการชาร์จไร้สาย รวมถึง Wireless PowerShare สำหรับแบ่งแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้แบบไร้สาย

กันน้ำกันฝุ่น

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นเรือธงด้วยก็คือ มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นระยะเวลานานสุด 30 นาที ซึ่งเป็นฟีเจอร์เดียวกันกับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปในตระกูล S Series และ Note Series นั่นเอง

อัปเกรดใหญ่จาก S10 Lite ในราคาที่เพิ่มจากเดิมไม่มาก

หากลองนำสเปกทั้งหมดของ Galaxy S20 FE ไปเปรียบเทียบกับเรือธงรุ่นเล็กที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้อย่าง S10 Lite จะเห็นได้ว่ามีการอัปเกรดครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอที่มีค่า Refresh Rate สูงขึ้น, ชิปเซ็ตที่แรงขึ้น, รองรับการเชื่อมต่อ 5G, กล้องหลังที่หยิบยกเทคโนโลยีมาจากรุ่นเรือธง รวมไปถึงบอดี้กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ซึ่งหากพิจารณาจากราคาวางจำหน่ายที่เพิ่มมาจาก Galaxy S10 Lite ตอนเปิดตัวที่ราวๆ 2,000 บาทแล้ว ก็ยิ่งทำให้ Galaxy S20 FE น่าสนใจมากยิ่งขึ้น รวททั้งในตอนนี้ Samsung ได้จัดโปรโมชันรับสิทธิอัปเกรด Galaxy S20 FE จากรุ่น 4G LTE เป็นรุ่น 5G (ความจุ 128GB) ฟรีเฉพาะช่วงพรีออเดอร์ ก็เท่ากับว่าเราสามารถเป็นเจ้าของ Galaxy S20 FE 5G รุ่น Snapdragon 865 ได้ในราคา 20,900 บาทเท่านั้น

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 24/9/2563