Samsung Galaxy S20 FE 5G ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2021 ?
ผ่านไปแล้วครึ่งทางสำหรับปี 2021 ซึ่งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาก็มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวออกมามากมาย แต่ท่ามกลางคลื่นมือถือรุ่นใหม่ที่ซัดเข้าตีตลาดกันทุกเดือน หลายคนอาจกำลังสนใจสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าอย่าง Samsung Galaxy S20 FE 5G ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ด้วยความที่เป็นมือถือรุ่นเก่า อาจทำให้รู้สึกลังเลว่าควรจะซื้อมาใช้ในตอนนี้หรือไม่ ซึ่งในวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ
ก่อนอื่นเรามาดูสเปกของ Samsung Galaxy S20 5G กันก่อน ซึ่งมีดังนี้ :
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Infinity-O Display ขนาด 6.5 นิ้ว ขอบแบน ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), 407ppi, HDR10+, อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz
- ชิปเซ็ต Snapdragon 865
- RAM 8GB (LPDDR5)
- ROM 128GB / 256GB รองรับหน่วยความจำเสริม microSD สูงสุด 1TB
- กล้องหน้า 32MP f/2.2
- กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 12MP f/1.8, Dual Pixel AF, OIS
- กล้อง Ultra Wide 16MP มุมมองกว้าง 123 องศา, f/2.2
- กล้อง Telephoto 8MP f/2.4, รองรับ Optical Zoom ไกลสุด 3x และ Super Resolution Zoom ไกลสุด 30x, OIS, Tracking AF
- ลำโพงเสียง 3D stereo และ Dirac Audio พร้อม Audio to Vibration (A2V) ให้มิติเสียงสมจริงตามทิศทางการปะทะ
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง (Optical)
- แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับระบบชาร์จไว Fast Wireless Charging 2.0, USB PD 3.0 (PPS)
- รองรับเครือข่าย [5G] 5G Non-Standalone (NSA), Sub6 / mmWave
- Enhanced 4x4 MIMO, Up to 5CA, LTE D/L Cat.19 (1.6Gbps), LTE U/L Cat.18 (211Mbps)
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax 2.4G+5GHz, HE80, MIMO, 1024-QAM, Up to 1.2Gbps Download / Up to 1.2Gbps Upload
- Bluetooth® v 5.0, USB type-C, NFC, Location (GPS, Galileo, Glonass, BeiDou)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.5
- กันน้ำ-กันฝุ่น IP68
- มี 6 สี ให้เลือก ได้แก่ Cloud Navy, Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Red, Cloud Orange, Cloud White
จากสเปกข้างต้นจะเห็นว่า Samsung Galaxy S20 FE 5G มีคุณสมบัติทุกอย่างที่สมาร์ทโฟนไฮเอนด์ยุคใหม่ควรมี ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G, จอ AMOLED 120Hz, กล้องที่ดีไม่แพ้เรือธง ไปจนถึงฟังก์ชันจิปาถะต่างๆ เช่นการชาร์จไร้สาย, Wi-Fi 6 หรือ NFC ทั้งหมดนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G, การดูหนังแบบ HD ผ่านแอปต่างๆ, การเล่นเกม, การถ่ายรูป และอื่นๆ เท่าที่จะคิดได้ หากไม่ได้มองรุ่นอื่นเอาไว้ด้วย Samsung Galaxy S20 FE 5G ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในตอนนี้
แต่ถ้าเทียบดับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันด้วย ปัจจุบัน Samsung Galaxy S20 FE 5G มีราคาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 20,900 บาท แต่ราคาของร้านตัวแทนจำหน่ายจะอยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท บางร้านลงไปถึง 15,000 ก็มี
สำหรับสมาร์ทโฟนราคา 17,000 - 20,000 บาทรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2021 ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับกลางบน และใช้ชิปเซ็ต Dimensity 1000+, Snapdragon 870 หรือใกล้เคียง ซึ่งจริงๆ แล้ว ชิปเซ็ตทั้งสองรุ่นข้างต้นมีประสิทธิภาพที่ไม่ต่างจาก Snapdragon 865 เท่าไรนัก และแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การใช้งานทั่วไปเลย
นอกจากนี้ Galaxy S20 FE ยังมากับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 และ ROM แบบ UFS 3.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม และมีความเร็วในการอ่าน - เขียนข้อมูลสูงมาก ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่นในปัจจุบันยังใช้หน่วยความจำ RAM LPDDR4x / ROM UFS 2.1 กันอยู่ แม้ในการใช้งานจริงเราจะไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างมากนัก แต่มันก็ดีกว่าแน่นอน
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ Galaxy S20 FE 5G น่าสนใจกว่ามือถือรุ่นใหม่ๆ คือสามารถกันน้ำได้ในระดับ IP68 ซึ่งในปัจจุบันหากไม่ใช่ตระกูลเรือธง มีน้อยมากที่จะกล้าเคลมว่ากันน้ำได้ในระดับนี้
อย่างไรก็ดี จุดหนึ่งที่ Galaxy S20 FE 5G เสียเปรียบสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ คือระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงที่รองรับกำลังไฟแค่ 25W ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะเริ่มที่ 33W ขึ้นไป ดังนั้นใครที่ซีเรียสกับความเร็วในการชาร์จอาจต้องพิจารณาในจุดนี้ด้วย
สรุปแล้วยังน่าซื้ออยู่ไหม?
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นว่า Samsung Galaxy S20 FE 5G มีสเปกที่ยังไม่เก่า สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ปัจจุบันมีการปรับราคาลงมาเหลือเริ่มต้นราวๆ 17,000 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีราคาใกล้เคียงกันแล้ว ก็ยังคงมีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพโดยรวมที่ใกล้เคียง ดังนั้น Samsung Galaxy S20 FE 5G จึงยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าซื้ออยู่ แม้จะเข้าสู่กลางปี 2021 แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ Samsung Galaxy S20 FE มีรุ่น 4G LTE และรุ่น 5G ซึ่งเดิมทีแล้วรุ่น 4G LTE จะใช้ชิปเซ็ต Exynos 990 ส่วนรุ่น 5G จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 แต่ในตอนนี้ Samsung ได้เปลี่ยนไปใช้ชิป Snapdragon 865 กับรุ่น 4G ด้วย และได้หยุดการจำหน่ายรุ่น 4G ที่ใช้ชิป Exynos 990 ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อาจยังมีเครื่องที่ใช้ Exynos 990 ตกค้างอยู่ในสต็อกของร้านตัวแทนจำหน่าย ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรเลือกซื้อรุ่นที่รองรับ 5G เท่านั้น เพราะมีราคาต่างจากรุ่น 4G LTE เพียงเล็กน้อย และเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 จริงๆ ครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 15/6/2564
