มือถือชิป Snapdragon Series แบ่งรุ่นอย่างไร ? รุ่นไหนแรง ? เหมาะกับใครบ้าง ?
หากพูดถึงชิปเซ็ตที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดมือถือ จะต้งอมีชื่อของ Snapdragon ชิปเซ็ตของค่ายของ Qualcomm ติดโผอยู่อย่างแน่นอน ด้วยความแรงที่มักจะทำคะแนนติดหัวตารางบนแพลตฟอร์มทดสอบประสิทธิภาพมาโดยตลอด แต่เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า Snapdragon มีการแบ่งซีรีส์อย่างไร? รุ่นไหนเหมาะแก่การใช้งานแบบใด? ดูตรงไหนว่าแรง? วันนี้เราไปคลายข้อสงสัยกันดีกว่าครับ
Snapdragon แบ่งซีรีส์อย่างไร
โดยหลักๆ แล้ว Snapdragon จะแบ่งซีรีส์ชิปเซ็ตของตัวเองออกเป็น 4 กลุ่มย่อยๆ ได้แก่ ชิปเซ็ตระดับเริ่มต้น, ชิปเซ็ตระดับกลาง, ชิปเซ็ตระดับรองท็อป และชิปเซ็ตระดับเรือธง โดยชิปเซ็ตแต่ละกลุ่มจะใช้ตัวเลขเป็นตัวกำกับ เพื่อบ่งบอกให้ทราบถึงระดับชิปเซ็ตให้ทราบแบบง่ายๆ รายละเอียดดังนี้
- ชิปเซ็ตระดับเริ่มต้น - Snapdragon 4 Series
- ชิปเซ็ตระดับกลาง - Snapdragon 6 Series
- ชิปเซ็ตระดับรองท็อป - Snapdragon 7 Series
- ชิปเซ็ตระดับท็อป - Snapdragon 8 Series
แต่อย่างไรก็ตาม ชิปเซ็ตแต่ละซีรีส์ ก็จะมีการแบ่งระดับที่แตกต่างกันไปอีกเช่นกันโดยใช้เลขท้ายสองตัวหลัง ซึ่งหากเป็นตัวเลขที่มากกว่า ก็หมายถึงประสิทธิภาพของชิปเซ็ตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูปีที่เปิดตัวของชิปเซ็ตแต่ระรุ่นด้วย เนื่องจากปัจจุบัน Qualcomm มีการเปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่มีตัวเลขสองตัวท้ายน้อยกว่ารุ่นเก่า แต่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น Snapdragon 750G ที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2020 ซึ่งมีประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่าชิปเซ็ต Snapdragon 765G ที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2019
ดูอย่างไรว่าชิปเซ็ต Snapdragon รุ่นไหนแรง?
อย่างที่เรากล่าวไปว่า ชิปเซ็ต Snapdragon ในแต่ละซีรีส์ รุ่นที่มีตัวเลขสองตัวหลังเยอะกว่า ยิ่งแรงกว่าเมื่อเทียบกับชิปเซ็ตในคลาสเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น Snapdragon 765G ที่ทำคะแนนทดสอบบน AnTuTu ได้ที่ราว 323,704 คะแนน เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต Snapdragon 720G ที่ทำคะแนนทดสอบได้ราว 278,886 คะแนน เป็นต้น
และในทางกลับกัน ชิปเซ็ต Snapdragon ที่มีเลขตัวหน้าเยอะกว่า ก็จะแรงกว่าตามไปด้วยแม้ว่าเลขสองตัวหลังจะน้อยกว่าชิปเซ็ตซีรีส์อื่นๆ ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น Mi 9 ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 855 สามารถทำคะแนนบน AnTuTu ได้ราว 448,869 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่มากกว่า Snapdragon 765G ที่ทำได้ เป็นต้น
ชิปเซ็ต Snapdragon รุ่นไหนเหมาะกับใคร
อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านน่าจะเข้าใจถึงคอนเซ็ปท์การแบ่งรุ่น แบ่งระดับของชิปเซ็ต Snapdragon กันบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าชิปเซ็ตแต่ละซีรีส์ก็จะถูกนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนที่มีราคาแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหากท่านเป็นผู้ที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนในระดับพื้นฐาน ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Series ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว เนื่องจากสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซ็ตซีรีส์ดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 - 4,000 บาท
ส่วนใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพในระดับกลาง เล่นเกมเล็กน้อย เน้นใช้งานโซเชียลเป็นหลัก ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Series ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ด้วยราคาวางจำหน่ายอยู่ในช่วง 4,000 - 10,000 บาท
ใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่เล่นเกมหนักขึ้นมาหน่อย และต้องการความลื่นไหลด้านการใช้งาน ในราคาจับต้องได้ ก็อาจลองมองดูสมาร์ทโฟน Snapdragon 7 Series เนื่องจากจะมีราคาวางจำหน่ายเริ่มที่หมื่นต้นๆ ส่วนใครที่ต้องการจัดเต็มทุกฟีเจอร์การใช้งานแบบไม่มีสะดุด และเน้นใช้ระยะยาว ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Series จะสามารถตอบโจทย์ได้ดีสุด โดยจะมีราคาวางจำหน่ายค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลัก 40,000 บาท
อย่างไรก็ดี สมาร์ทโฟนรุ่นไหนจะดีกว่ากันนั้นทางทีมงานคงไม่สามารถตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลด้วย หากทดลองใช้งานแล้วถูกใจ ก็ถือว่ามือถือรุ่นนั้นๆ น่าจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 25/2/2564