สรุปฟีเจอร์เด่นของ Vivo V9 มือถือจอไร้ขอบพร้อมกล้องเซลฟี่ 24 ล้าน ในราคา 10,999 บาท มีฟังก์ชันน่าใช้งานเพียงใด ไปดูกัน!
ในปีนี้ทาง Vivo ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ให้เห็นกันหลายต่อหลายรุ่น แต่หนึ่งในรุ่นที่มีความน่าสนใจ และมีการนำเข้ามาวางขายในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยนั่นก็คือ Vivo V9 ที่เปิดราคาขายในบ้านเราเอาไว้ที่ 10,999 บาท แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า Vivo V9 มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีจุดเด่นอย่างไรบ้าง ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้ทำการสรุปคุณสมบัติ และฟีเจอร์เด่นของ Vivo V9 เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่าน สามารถติดตามรับชมได้พร้อมกันเลยครับ
จอ FullView ไร้ขอบไซส์ใหญ่ กับดีไซน์จับถนัดมือ
Vivo V9 ได้มีการอัปเกรดดีไซน์หน้าจอเต็มพื้นที่แบบ FullView Display ที่เคยใช้บนรุ่น V7 และ V7+ ด้วยการลดพื้นที่ขอบให้มีความบางมากยิ่งกว่าเดิมด้วยความบางเพียง 1.75 มิลลิเมตรเท่านั้น พร้อมขยายพื้นที่จอส่วนบนให้ชิดกับขอบมากยิ่งขึ้นจนแทบไร้ขอบ ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงผลเมื่อเทียบกับตัวเครื่องสูงถึง 90% เลยทีเดียว
ส่วนตัวหน้าจอมาพร้อมกับขนาดใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19:9 ทำให้รับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างกว้างเต็มตามากยิ่งขึ้น และยังมีประโยชน์ในเรื่องของการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอทำงาน หรือ Multi-Windows เพราะตัวหน้าต่างจะไม่เล็กจนเกินไป รวมไปถึงการอ่านคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ที่จะสามารถแสดงรายละเอียดได้มากกว่าหน้าจอแบบ 16:9 ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป
แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดที่ใหญ่ แต่ทาง Vivo ได้ออกแบบตัวเครื่องให้มีขนาดเท่ากับสมาร์ทโฟนจอ 5.5 นิ้วเพราะขนาดหน้าจอที่เพิ่มมานั้น เป็นผลมาจากการลดพื้นที่ขอบทั้งสี่ด้านให้เหลือน้อยลงนั่นเอง ส่วนด้านหลังก็มาพร้อมกับดีไซน์แบบ 3D Curved ซึ่งตัวบอดี้จะมีความโค้ง โอบรับเข้ากับอุ้งมือของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
เซลฟี่คมชัดด้วยกล้องหน้า 24 ล้าน พร้อม AI Face Beauty ปรับหน้าสวยเนียนทุกช็อต
Vivo เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความโดดเด่นด้านกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง ซึ่งในรุ่น V9 ก็ยังคงจัดเต็มด้วยกล้องหน้าความละเอียดถึง 24 ล้านพิกเซล ซึ่งมีจุดเด่นด้านความสว่างของภาพ สีสันที่สดใส และ Dynamic Rage ที่กว้าง ทำให้เหมาะกับการถ่ายภาพเซลฟี่ในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ชูโรงอย่าง AI Face Beauty ที่จะเป็นการใช้ซอฟท์แวร์มาช่วยวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ สีผิว รวมไปถึงสภาพของแสงโดยรอบ เพื่อนำมาปรับแต่งใบหน้าให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ รวมทั้งตัวซอฟท์แวร์ยังสามารถเรียนรู้ และจดจำได้ด้วยว่า ผู้ใช้ชอบปรับแต่งภาพเซลฟี่ไปในโทนใด ทำให้การถ่ายเซลฟี่ในครั้งหน้าผู้ใช้จะได้ภาพที่สวยตรงใจนั่นเอง
นอกจากนี้ กล้องหน้าเซลฟี่ของ Vivo V9 ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจอย่าง AR Stickers ที่เป็นเอฟเฟ็กต์สติ๊กเกอร์สำหรับตกแต่งภาพเซลฟี่ ทำให้ดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงฟังก์ชัน AI Selfie Lighting ซึ่งเป็นการปรับแต่งการจัดแสงให้เหมาะสมกับตัวแบบคล้ายกับการจัดแสงไฟในสตูดิโอ
ถ่ายหน้าชัดหลังละลายง่ายๆ ได้ด้วยกล้องหลังคู่
นอกจากความโดดเด่นด้านกล้องหน้าเซลฟี่แล้ว Vivo V9 ยังชูโรงด้านการถ่ายภาพทั่วไปด้วยระบบกล้องหลังแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็นกล้องตัวหลัก ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องตัวรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องคู่ของ Vivo V9 ก็รองรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอด้วยีเจอร์ AI Bokeh โดยจะเป็นการนำซอฟท์แวร์ที่ได้ผ่านการเรียนรู้มาจากฐานข้อมูลเป็นจำนวนมาก มาช่วยในการประมวลผลด้านการเบลอฉากหลัง และการสร้างโบเก้ ให้คล้ายกับการถ่ายด้วยกล้องระดับโปร
ปลดล็อกด้วยใบหน้า AI Face Access
Vivo V9 ไม่ได้มีวิธีการยืนยันสิทธิเข้าใช้งานเพียงแค่การสแกนลายนิ้วมือผ่านปุ่มเซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ด้านหลังตัวเครื่องเท่านั้น เพราะที่กล้องหน้าได้มีการเพิ่มเทคโนโลยี AI Face Access สำหรับวิเคราะห์ลักษณะใบหน้าของผู้ใช้งานเพื่อปลดล็อกเข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบสแกนใบหน้าของ Vivo V9 นั้น ยังมีระบบป้องกันการนำรูปภาพ หรือวิดีโอของเจ้าของมาสแกนปลดล็อก ด้วยการตรวจจับแสงที่ตกกระทบบนใบหน้า รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของใบหน้าผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ Vivo V9 ยังมีฟังก์ชัน Attention Sensing ที่จะคอยลดเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียงข้อความ, นาฬิกาปลุก หรือเสียงเรียกเข้า ให้เบาลง หากตรวจจับได้ว่าผู้ใช้กำลังมองหน้าจออยู่ เพื่อเป็นการรบกวนผู้ใช้งานให้น้อยลงกว่าเดิมนั่นเอง
Game Mode ลดการแจ้งเตือนกวนใจขณะเล่นเกม
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นที่ออกแบบมาเพื่อคอเกมเลยก็ว่าได้ สำหรับ Game Mode ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่จะปิดการแจ้งเตือน หรือสายเรียกเข้าต่างๆ ขณะที่ผู้ใช้กำลังเล่นเกมอยู่ได้ เพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้ใช้งาน แต่สำหรับใครที่กังวลว่าจะพลาดสายสำคัญ ก็ยังสามารถตั้งรายชื่อผู้ติดต่อที่ต้องการให้โทรเข้าขณะใช้งาน Game Mode ได้ โดยสายเรียกเข้าจะขึ้นเป็น Pop Up เล็กๆ ที่ด้านบน ซึ่งผู้ใช้จะเลือกรับหรือไม่รับสายได้
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นสำหรับการเล่นเกมนั่นก็คือ Gaming Keyboard ที่จะย่อแป้นคีย์บอร์ดให้มีขนาดที่เล็กลง ทำให้ไม่ไปบดบังหน้าจอขณะเล่นเกม ต่างจากแป้นคีย์บอร์ดทั่วๆ ไป ที่เป็นแบบเต็มหน้าจอ ทำให้อาจพลาดจังหวะสำคัญในการเล่นเกมไปได้
อย่างไรก็ดี นี่เป็นฟีเจอร์บางส่วนเท่านั้น เพราะ Vivo V9 ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ตประมวลผลที่อัปเกรดเป็นตัวใหม่อย่าง Snapdragon 626 ที่ทำงานควบคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB, ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่อย่าง Android 8.1 ที่ครอบทับด้วย UI ที่ทาง Vivo พัฒนาขึ้นมาอย่าง FuntouchOS 4.0 รวมไปถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่มีความเงางามสะท้อนแสงราวกับกระจก ซึ่งสำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปทดลองใช้งานเบื้องต้นได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Vivo V9
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 10/4/2561