เจาะลึกชิปเซ็ตตัวท็อป Snapdragon 888 มีทีเด็ดอย่างไร มีอะไรใหม่ มาดู!
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา Qualcomm ได้เปิดตัวชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ Snapdragon 888 อย่างเป็นทางการ ซึ่งผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 nm พร้อมพลังการประมวลผลที่ได้รับการอัปเกรดแบบรอบด้าน ตั้งแต่ CPU, GPU, AI Engine ไปจนถึงการเชื่อมต่อ 5G เพียงแค่คืนเดียวชิปเซ็ตรุ่นนี้ก็เป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั้งวงการ ชิปเซ็ตรุ่นนี้มีดีอะไร เจ๋งกว่าเดิมอย่างไร เราไปรู้จักชิปเซ็ตรุ่นนี้กันให้มากขึ้นดีกว่าครับ
CPU
หน่วยประมวลผล Kryo 680 CPU ของ Snapdragon 888 ประกอบด้วยแกนประมวลผล 8 แกน นำโดย Cortex-X1 ความเร็ว 2.84 GHz ที่มีพลังการประมวลผลสูงกว่า Cortex-A78 ถึง 33% ตามมาด้วยแกนประมวลผล Cortex-A78 ความเร็ว 2.4 GHz 3 แกน และ Cortex-A55 ความเร็ว 1.8GHz อีก 4 แกน โดยรวมแล้วมีประสิทธิภาพสูงกว่า Snapdragon 865 อยู่ประมาณ 25% แถมยังใช้พลังงานน้อยลง 25% อีกด้วย
GPU
Snapdragon 888 มากับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660 GPU ซึ่งมีประสิทธิภาพการเรนเดอร์สูงกว่ารุ่นก่อน 35% และประหยัดพลังงานกว่า 20% ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ยุคใหม่ที่ต้องการ Frame Rate สูง - Latency ต่ำ โดยสามารถดัน fps ได้สูงสุดถึง 144Hz สำหรับเกมที่รองรับ พร้อมเทคโนโลยีเสริมศักยภาพด้านกราฟิกอื่นๆ เช่น :
- Variable Rate Shadeing (VRS) : เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้กันในการ์ดจอเกรด PC ของ Nvidia และเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ใช้เทคโนโลยีนี้บนสมาร์ทโฟน เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเรนเดอร์ จุดไหนที่อยู่ในระยะสายตาและมีความสำคัญ ก็จะเลือกใช้พลังการประมวลผลเต็มที่เพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุด ส่วนจุดที่ไม่สำคัญ เช่นวัตถุที่ถูกเบลอด้วยความเร็ว หรืออยู่ไกล ก็จะเลือกใช้พลังการประมวลผลในระดับที่ต่ำลงมา ส่งผลให้ GPU มีภาระการประมวลผลน้อยลง และใช้พลังงานน้อยลงไปด้วย
- Game Quick Touch : เทคโนโลยีที่ช่วยลดความหน่วงของการทัชได้มากสุด 20% สามารถทำงานได้ที่อัตราเฟรมเรตสูงสุด 120 fps แต่จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพกว่าที่เฟรมเรตมาตรฐาน 60 fps หมายความว่าทุกเกมบนแพล็ตฟอร์มสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรองรับอัตราเฟรมเรตสูงๆ ครับ
นอกจากนี้ Adreno 660 GPU ยังรองรับมาตรฐาน HDR 10, เทคนิคลดรอยหยักแบบ subpixel rendering และยังสามารถลดความไม่สม่ำเสมอของสี/ความสว่าง ซึ่งเป็นจุดอ่อนของหน้าจอ OLED ได้ด้วย
การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
ชุดประมวลผลภาพ Spectra 580 บน Snapdragon 888 มีหน่วยประมวลผลภาพ (ISP) ถึง 3 ตัว ทำให้สามารถใช้กล้อง 3 ตัวจับภาพนิ่งหรือวิดีโอได้พร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่างด้วยกัน เช่น ช่วยให้สลับการใช้งานระหว่างโหมดปกติ, Ultra Wide และ Telephoto ได้โดยไม่เสียจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่ง หรืออัดวิดีโอ และช่วยให้ซูมได้สมูทยิ่งขึ้นทุกระยะ นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการประมวลผลภาพ HDR เนื่องจากสามารถถ่ายภาพที่ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ-กลาง-สูงได้พร้อมกัน
Snapdragon 888 สามารถบันทึกและเล่นวิดีโอความละเอียด 4K@120fps ได้ ส่วนภาพนิ่งสามารถถ่ายภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซลได้ 120 ภาพต่อวินาที และบันทึกรูปถ่าย HDR 10 เป็นฟอร์แมต HEIF ได้ด้วย
การเชื่อมต่อ
Snapdragon 888 เป็นชิปเซ็ตรุ่นแรกของวงการที่ได้ใช้โมเด็ม Snapdragon X60 5G โดยฝังเป็นหนึ่งเดียวกับตัวชิป รองรับทั้งคลื่นความถี่ sub-6 และ mmWave ความเร็วดาวน์ลิงค์สูงสุด 7.5 Gbps และอัพลิงค์สูงสุด 3 Gbps โดยรองรับ Wi-Fi ความถี่ 6GHz ทำความเร็วสูงสุดได้ 3.6 Gbps เร็วที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ส่วนมาตรฐาน Wi-Fi 6E ก็เป็นมาตรฐานใหม่ที่มีอัตราการหน่วง (latency) ต่ำ เหมาะกับการสตรีมเกมจาก PC หรือ cloud มาเล่นบนสมาร์ทโฟน ขณะเดียวกัน ยังรองรับ Bluetooth 5.2 และเทคโนโลยี aptX ที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงสำหรับหูฟังไร้สายให้ชัดเจน และทรงพลัง
การประมวลผล AI
AI Engine รุ่นที่ 6 พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล Hexagon 780 บน Snapdragon 888 ทำให้ AI ทำงานร่วมกับกล้อง, ผู้ช่วยอัจฉริยะ, เกม การเชื่อมต่อ และการทำงานด้านอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถประมวลผลคำสั่งที่ความเร็ว 26 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที (TOPS) โดยใช้พลังงานน้อยลงอย่างมาก นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นไปอีกด้วย Sensing Hub รุ่นที่ 2 ที่ใช้หน่วยประมวลผล AI พลังงานต่ำในการจัดการงานทั่วไป เช่น การเปิดหน้าจออัตโนมัติ, ตรวจจับกิจกรรมต่างๆ เช่นการยกตัวเครื่อง หรือตรวจจับคำสั่งเสียง เป็นต้น โดยไม่ต้องเป็นภาระของหน่วยประมวลผลหลักเลย
การรักษาความปลอดภัย
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย Snapdragon 888 มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิเช่น Qualcomm Wireless Edge Service ที่ช่วยให้ตัวชิปสามารถตรวจสอบความปลอดภัยของแอปพลิเคชันหรือบริการต่างๆ ได้แบบ real-time ผ่านระบบ cloud, ระบบ Type-1 Hypervisor ที่ทำให้อุปกรณ์รันได้หลายระบบปฏิบัติการในเครื่องเดียว และเลือกใช้งานแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการที่ต่างกันได้ และการเข้ารหัสรูปถ่ายโดยอัตโนมัติ ไม่ให้มีการแก้ไขข้อมูล metadata ในรูป เพื่อป้องกันการปลอมแปลง หรือนำไปใช้ในทางที่ผิด ตามมาตรฐานความปลอดภัย Content Authenticity Initiative ของ Adobe เป็นต้น
เทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูง
สำหรับระบบการชาร์จ Snapdragon 888 รองรับ QuickCharge 5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด รองรับการจ่ายกำลังไฟสูงสุด 100W+ และควบคุมความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังรองรับมาตรฐานการชาร์จแบบ USB Power Delivery และยังรองรับ QuickCharge เวอร์ชั่นเก่าๆ จนถึง QuickCharge 2.0 ด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฟีเจอร์เด่นๆ ส่วนหนึ่งของชิปเซ็ต Snapdragon 888 เท่านั้น ยังมีข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ อีกมากมายซึ่งคงไม่อาจอธิบายได้ทั้งหมดในบทความเดียวแน่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไรเราจะได้สัมผัสพลังของ Snapdragon 888 จริงๆ อย่างแน่นอนในช่วงต้นปีหน้า กับสารพัดมือถือเรือธงที่จ่อคิวรอเปิดตัวกันอยู่ ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้างนั้น สามารถดูได้ที่บทความ : รวมเรือธงชิป Snapdragon 888 ใหม่ล่าสุด เตรียมเปิดตัวปี 2021 ได้เลยครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 3/12/2563