เปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold3 5G เรือธงจอพับได้ พร้อมกล้องใต้จอรุ่นแรกของค่าย ชูจอลื่น 120Hz Dynamic AMOLED ชิป Snapdragon 888 และรองรับปากกา S Pen บนบอดี้กันน้ำ ราคาไทยเริ่ม 57,900 บาท

วนมาถึงอีกรอบแล้วสำหรับงาน Galaxy Unpacked 2021 อีเวนท์ใหญ่ประจำปีของทาง Samsung ที่แม้ว่าปีนี้จะไม่มี Samsung Galaxy Note Series รุ่นใหม่เหมือนทุกปี แต่ก็มีรุ่นใหม่จาก Galaxy Z Series มาเป็นไฮไลท์มาแทน ความถึง Gadget รุ่นใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

สำหรับไฮไลท์ของงานนี้ก็คงไม่พ้น Samsung Galaxy Z Fold3 5G เรือธงรูปแบบฝาพับที่สามารถพับหน้าจอได้เป็นรุ่นที่ 3 ของค่าย โดยยังคงคอนเซ็ปต์การดีไซน์เดิมไว้ กับหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 7.6 นิ้วเมื่อกางออกแบบ Dynamic AMOLED 2X Infinity Flex Display ความละเอียดระดับ QHD+ QXGA+ (2208x1768 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรตแบบ Adaptive Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz ส่วนหน้าจอ Cover ที่ด้านนอกมีขนาด 6.2 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED 2X Display คมชัดระดับ HD+ (2268x832 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรตแบบ Adaptive Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hzเช่นเดียวกัน

ที่สำคัญ Galaxy Z Fold3 5G มาพร้อมเทคโนโลยีฝังกล้องหน้าไว้ใต้หน้าจอ (Under Display Camera) ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นรุ่นแรกของทาง Samsung ที่มาพร้อมฟีเจอร์นี้ โดยตัวเครื่องผลิตจากวัสดุประเภท Armor Aluminum ซึ่งเป็นอลูมิเนียมที่แข็งแรงที่สุดเท่าที่เคยนำมาใช้บนสมาร์ทโฟน รวมถึงครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ที่ช่วยปกป้องเครื่องจากรอยขีดข่วน และการตกหล่น อีกทั้งใช้ฟิล์มกันรอยแบบยืดชนิดใหม่ (Stretchable PET) และการปรับชั้นแผงหน้าจอหลัก ซึ่งส่งผลให้หน้าจอมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 80% และรองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำมาตรฐาน IPX8 อีกด้วย

การถ่ายภาพ Samsung Galaxy Z Fold3 5G มากับกล้องทั้งหมด 5 ตัว โดยแบ่งออกเป็น กล้องใต้จอที่หน้าจอด้านในความละเอียด 4 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าที่ Cover Screen ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก (Wide) 12MP เทคโนโลยี Dual Pixel รองรับ OIS + กล้อง Ultra-Wide 12MP + กล้อง Telephoto 12MP รองรับ OIS

Samsung Galaxy Z Fold3 5G ได้รับการถ่ายทอดฟีเจอนร์สำคัญมาจากตระกูล Note ซึ่งก็คือ การทำงานร่วมกับปากกา S Pen ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ S Pen Fold Edition กับ S Pen Pro ที่มาพร้อมรองรับฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวก รวดเร็วกว่าเดิม กับค่าความหน่วงต่ำ (low latency) จึงสามารถใช้งานได้เสมือนขีดเขียนด้วยปากกาจริง และมีลำโพงเสียง Stereo พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos รวมถึงการใช้งานแบบ Flex Mode ในการแบ่งใช้งาน 2 แอป 2 หน้าจอพร้อมกัน จึงสามารถ Vedio Call ในหน้าจอหนึ่ง พร้อมกับเช็กตารางการในอีกหน้าจอหนึ่งได้

ด้านสเปกภายใน Samsung Galaxy Z Fold3 5G มากับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 หรือ Exynos 2100 (ขึ้นอยู่กับประเทศที่วางจำหน่าย) ผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 5nm ทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 12GB + ROM มาตรฐาน UFS 3.1 ขนาดสูงสุด 512GB มีแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W SuperFast Charging พร้อมชาร์จไร้สายแบบ 10W และฟังก์ชัน Wireless PowerShare ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI

Samsung Galaxy Z Fold3 5G เปิดตัวมาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Phantom Black, Phantom Green และ Phantom Silver โดยวางจำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 256GB ราคา 57,900 บาท และรุ่น 512GB ราคา 61,900 บาท

โดยสามารถสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) โดยลงทะเบียนที่เว็บไซต์ www.samsung.com/th/unpacked เพื่อนำโค้ดมาซื้อผ่านทาง www.samsung.com/th/zfold3 หรือที่หน้าร้าน Samsung Experience Store ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนสั่งจองจะได้รับคูปองส่วนลด 9,000 บาท เพื่อใช้แลกซื้อสินค้า หรือส่วนลดทาง Samsung.com ในครั้งถัดไป และรับฟรีบริการ Samsung Care+ นาน 1 ปี มูลค่า 7,089 บาท โดยจะได้รับตัวเครื่องในวันที่ 2 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษอย่าง Samsung Galaxy Z Fold3 Thom Browne Edition 2021 ด้วยเช่นกัน กับการดีไซน์พรีเมียม และจะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในกลุ่มประเทศแรกวันที่ 11 สิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งยังไม่มีการประกาศราคาทางการในประเทศไทย