เปิดตัว Samsung Galaxy S20+ 5G Olympic Edition เรือธง 5G รุ่นพิเศษกับสีทอง Matte Gold สุดพรีเมียม ในราคา 34,000 บาท
แม้ว่ามหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิก 2020 จะถูกยกเลิก และเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดจากการระบาดของไวรัว COVID-19 แต่ทาง Samsung ประเทศญี่ปุ่น ก็ยังทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นพิเศษอย่าง Samsung Galaxy S20+ 5G Olympic Edition เพิ่มเติม
Samsung Galaxy S20+ 5G Olympic Edition มากับตัวเครื่องสีทอง Matte Gold สุดพรีเมียม พร้อมประทับตราโอลิมปิก 2020 ไว้ที่ด้านหลังตัวเครื่องอย่างชัดเจน รวมถึงมีกล้องแพ็กเกจที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะรุ่นนี้โดยเฉพาะอีกด้วย โดยเปิดราคาที่ 114,840 เยน หรือประมาณ 34,000 บาท สำหรับคุณสมบัติตัวเครื่องของ S20+ 5G Olympic Edition เหมือนกับรุ่นปกติอย่าง Galaxy S20+ 5G ในทุกประการ ดังนี้
- ตัวเครื่องมีขนาด 161.9x73.7x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 188 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K QHD+ (1440x3200 พิกเซล : 524 ppi) โดยมี Refresh Rate ระดับ 120Hz และมาตรฐาน HDR10+
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 865 ที่มีความเร็ว 2.84GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 650
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 ขนาด 12GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ในรุ่น LTE ขนาด 128GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวที่หนึ่งเลนส์ Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/1.8 เก็บภาพมุมกว้างสุด 79 องศา รองรับ Super Speed Dual Pixel AF และ OIS
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.2 เก็บภาพมุมกว้างสุด 120 องศา
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.0 เก็บภาพมุมกว้างสุด 76 องศา รองรับ PDAF และ OIS
- กล้องตัวที่สี่ DepthVision
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.2 รองรับ DUal Pixel AF และเก็บภาพมุมกว้าง 80 องศา
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Ultrasonic Fingerprint
- รองรับเครือข่าย 5G
Samsung Galaxy S20+ 5G Olympic Edition เปิดให้สั่งจองเป็นที่เรียบร้อยแล้วในประเทศญี่ปุ่น ผ่านผู้ให้บริการสัญญาโทรศัทพ์มือถือรายใหญ่อย่าง NTT Docomo ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มการวางจำหน่ายจริงในเดือนมิถุนายน
วันที่ : 21/3/2563
