ทดสอบระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0 เวอร์ชันใหม่บน OPPO F11 Pro เร็วขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน มาดูกัน

สมาร์ทโฟนแบรนด์ OPPO นอกเหนือไปจากการดีไซน์ ระบบปฏิบัติการ ColorOS และกล้องถ่ายภาพแล้ว ยังมีระบบการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ VOOC Flash Charge ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ด้วยเช่นกัน ที่พัฒนาขึ้นเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนให้สั้นลง โดยรองรับการจ่ายกระแสไฟสูงสุดระดับ 5V/4A ในสโลแกนที่ว่า ชาร์จแบตเตอรี่เพียง 5 นาที ก็สามารถสนทนาได้นานถึง 2 ชั่วโมง รวมทั้งยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-75% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที นอกจากนี้ยังมีการรับรองความปลอดภัยถึง 5 ขั้น เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้ และเป็นการยืนยันว่าสมาร์ทโฟนจะมีความปลอดภัยขณะชาร์จแบตเตอรี่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ขั้นที่ 1 : วงจรความปลอดภัยในตัวอแดปเตอร์ ที่คอยควบคุมไม่ให้จ่ายไฟออกมามากเกินไป (Overload) และจะตัดไฟทันทีเมื่อมีการจ่ายไฟเกิดกำหนด
ขั้นที่ 2 : ชิป MCU ในอแดปเตอร์ ช่วยควบคุมการจ่ายไฟระหว่างการชาร์จ ถ้ามีระบบใดที่ไม่พร้อมหรือได้รับความเสียหาย การชาร์จไฟแบบรวดเร็วจะไม่ทำงาน
ขั้นที่ 3 : ขั้วควบคุมไฟ 7 PIN ในสาย USB ที่จะช่วยให้สามารถส่งกำลังไฟได้เร็วขึ้น แต่ยังสามารถลดกำลังไฟลงได้เมื่อมีไฟเกิน
ขั้นที่ 4 : ชิปควบคุมกำลังไฟในแบตเตอรี่เมื่อมีไฟเกินจะมีการตัดไฟทันที
ขั้นที่ 5 : ฟิวซ์ในตัวโทรศัพท์ หากมีความผิดปกติเมื่อไหร่ ก็จะตัดการชาร์จไฟในทันที

สำหรับ OPPO F11 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดใหม่ล่าสุดก็รองรับระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ VOOC Flash Cahrge ด้วยเช่นกัน กับเวอร์ชัน 3.0 ที่พัฒนาขึ้นจากเวอร์ชันดั้งเดิมไปอีกขั้น ที่ทาง OPPO ระบุว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นกว่าเวอร์ชันก่อนถึง 20% โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ที่ความจุ 4000 mAh ได้เต็ม 100% ภายในเวลา 80 นาที

ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ OPPO F11 Pro ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมระบบ VOOC Flash Charge 3.0 เวอร์ชันใหม่ มาทดสอบความเร็วในการชาร์จเทียบกับ OPPO F9 รุ่นก่อนที่มีแบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh พร้อมรองรับระบบ VOOC Flash Chage เวอร์ชันปกติ ว่าจะเร็วขึ้นมากเพียงไหน ด้วยการบันทึกวิดีโอการชาร์จแบตเตอรี่ของทั้งสองรุ่นตั้งแต่ที่ระดับ 0% จนเต็ม 100% ซึ่งจะมีผลทดสอบเป็นอย่างไรนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันเลยค่ะ

ก่อนอื่นเรามาพิจารณากราฟเทียบการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงในรูปแบบต่างๆ ต่อแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ภายในงานเปิดตัว OPPO F11 Pro โดยเส้นสีฟ้าคือ VOOC 3.0, เส้นสีเขียวคือ VOOC เวอร์ชันปกติ, เส้นสีส้มคือการชาร์จแบบ 9V/2A และเส้นสีแดงคือการชาร์จแบบ 5V/2A จะเห็นได้ว่าระหว่าง VOOC 3.0 และ VOOC เวอร์ชันปกติ มีความเร็วในการชาร์จใกล้เคียงกัน จนถึงเวลา 45 นาทีที่ระบบ VOOC เวอร์ชันปกติเริ่มช้าลง และจะมีความเร็วต่างกันอย่างเห็นได้ชัดช่วง 55 นาทีเป็นต้นไป ซึ่ง VOOC 3.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ได้เต็ม 100% ในเวลา 80 นาที ส่วนระบบ VOOC เวอร์ชันปกติจะชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ได้เต็มในเวลา 105 นาที

จากคลิปวิดีโอข้างต้นจะเห็นได้ว่า ในเวลา 10 นาทีแรก OPPO F11 Pro (VOOC 3.0) อยู่ที่ระดับ 13% คิดเป็นความจุ 520 mAh ส่วน OPPO F9 (VOOC) อยู่ที่ระดับ 14% คิดเป็นความจุ 490 mAh หากเทียบจากเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่แล้วอาจกล่าวได้ว่าใกล้เคียงกัน แต่หากเทียบความจุที่ได้นั้นถือว่าต่างกันพอสมควร

และที่เวลา 60 นาที OPPO F11 Pro มีระดับแบตเตอรี่ 86% ซึ่งคิดเป็น 3440 mAh ทางด้านของ OPPO F9 มีระดับแบตเตอรี่ 90% คิดเป็นความจุ 3150 mAh จะเห็นได้ว่า OPPO F11 Pro ที่ใช้ระบบ VOOC 3.0 ชาร์จแบตเตอรีได้เร็วกว่ามากพอสมควร หรือเทียบกับการชาร์จ OPPO F9 ได้เต็มเลยทีเดียว

สุดท้าย OPPO F11 Pro ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม 100% (ความจุ 4000 mAh) ด้วยเวลา 80 นาทีพอดี ในขณะที่ OPPO F9 ใช้เวลานานกว่า 4 นาที รวมเป็นเวลาทั้งหมด 84 นาทีสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ 100% (ความจุ 3500 mAh) จะเห็นได้ว่าระบบ VOOC 3.0 ช่วยให้ OPPO F11 Pro สามารถชาร์จแบตเตอรีได้เต็มเร็วกว่าแม้มีความจุแบตเตอรีมากกว่า OPPO F9

ตารางสรุปการเปรียบเทียบความเร็ว VOOC และ VOOC 3.0

เรียกได้ว่า VOOC Flash Charge เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยช่วยย่นระยะเวลาการชาร์จแบตให้เร็วยิ่งขึ้น และไม่ต้องรอนานเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ซึ่งก็ถือว่าระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0 นี้ๆได้ถูกพัฒนาให้สามารถชาร์จแบตเตอรีได้เร็วขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับระบบ VOOC เดิม นอกจากนี้ทาง OPPO ยังมีเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ SuperVOOC Flash Charge ที่ใช้บนสมาร์ทโฟนระดับเรือธงอย่าง OPPO Find X อีกด้วย กับความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh จาก 0% จนเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 35 นาที

สำหรับ OPPO F11 Pro เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ 10,990 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ที่ร้าน OPPO Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ