iPhone X และ iPhone 8 กันน้ำได้ขนาดไหน? รู้จักกับเทคโนโลยี IP67 กับการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐานระดับโลก ไอโฟนรุ่นใหม่โดนน้ำได้แค่ไหน ใช้งานใต้น้ำได้หรือไม่ มาดูกัน!
เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สามไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่นำทัพโดย iPhone X ไอโฟนรุ่นพิเศษเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปี ผลิตภัณฑ์ไอโฟน และมาพร้อมกับหน้าจอ OLED แบบไร้ขอบ, ชิปเซ็ต Apple A11 Bionic สุดเร็วแรง, กล้องคู่ (Dual-Camera) กับระบบ AR หรือระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Face ID และฟีเจอร์สุดล้ำอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่ iPhone 8 Series แม้จะเป็นรุ่นรองลงมา แต่ก็ได้รับการพัฒนาคุณสมบัติตัวเครื่องให้เร็วแรง และมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิมไม่แพ้กันด้วย
แต่นอกจากฟีเจอร์ทั้งหมดข้างต้นแล้ว หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น (water-dust resistant) โดย iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ยังคงมาพร้อมกับมาตรฐานการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นที่ระดับ IP67 เช่นเดียวกับ iPhone 7 รุ่นก่อนหน้า ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบกันว่ามาตรฐาน IPxx มีการวัดค่ากันอย่างไร และตัวเลขแต่ละระดับมีการป้องกันแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับมาตรฐาน IPxx กันครับ
IPxx คืออะไร?
มาตรฐานการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นในระดับ IPxx คือคำย่อจาก International Protection Marking หรือ Ingress Protection Marking ซึ่งเป็นมาตรฐานในระดับสากลที่ถูกกำหนดขึ้นโดย IEC (International Electrotechnical Commission) หรือคณะกรรมาธิการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ ว่าสามารถป้องกันของเหลว และของแข็งได้ในระดับใด
สำหรับโค้ดของ IP จะตามหลังด้วยตัวเลข 2 หลัก โดยหลักแรกเป็นมาตรฐานของการป้องกันของแข็ง และฝุ่น ส่วนตัวเลขหลักที่สองเป็นมาตรฐานการป้องกันของเหลว เช่น IP54 ก็คือ ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้สามารถป้องกันของแข็งได้ในระดับ 5 และป้องกันของเหลวได้ในระดับ 4 เป็นต้น
ตัวเลขการป้องกันของแข็งในแต่ละระดับ
0 - ไม่สามารถป้องกันได้
1- สามารถป้องกันของแข็งที่มีขนาดไม่เกิน 50 มิลลิเมตร
2 - สามรถป้องกันของแข็งที่มีขนาดไม่เกิน 12 มิลลิเมตร
3 - สามรถป้องกันของแข็งที่มีขนาดตั้งแต่ 2.5 มิลลิเมตรขึ้นไป
4 - สามรถป้องกันของแข็งที่มีขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตรขึ้นไป
5 - สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ฝุ่นสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เล็กน้อย
6 - สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์
ตัวเลขการป้องกันของเหลวในแต่ละระดับ
0 - ไม่สามารถป้องกันได้
1 - สามารถป้องกันน้ำหยด
2 - สามารถป้องกันละอองน้ำที่เข้ามาในมุมไม่เกิน 15 องศาในแนวตั้ง
3 - สามารถป้องกันละอองน้ำที่เข้ามาในมุมไม่เกิน 60 องศาในแนวตั้ง
4 - สามารถป้องกันละอองน้ำได้ในทุกองศา
5 - สามารถป้องกันน้ำจากการฉีด
6 - สามารถป้องกันน้ำจากการฉีดด้วยแรงที่มากกว่าระดับที่ 5 ซึ่งน้ำยังสามารถเข้าไปในอุปกรณ์ได้เล็กน้อย
7 - สามารถป้องกันอุปกรณ์จากการจมน้ำได้ลึกระดับไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
8 - สามารถป้องกันอุปกรณ์จากการจมน้ำได้ลึกมากกว่า 1 เมตร และไม่เกิน 3 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ซึ่งสามารถนำอุปกรณ์ลงไปใช้งานใต้น้ำได้ แต่ต้องทำการปิดจุดสำหรับการเชื่อมต่อภายนอกทั้งหมดก่อน
iPhone X และ iPhone 8 Series มาพร้อม IP67
เราได้ทราบมาตรฐานการวัดระดับ และความหมายของตัวเลขทั้งสองหลักกันไปแล้วจากหัวข้อข้างต้น คราวนี้เรามาดูกันต่อที่ iPhone X และ iPhone 8 Series ที่มาพร้อมกับมาตรฐานการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นในระดับ IP67 ซึ่งหมายความว่า iPhone X และ iPhone 8 Series สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างเต็มรูปแบบ และสามารถกันน้ำกระเซ็น และสามารถกันน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นระยะเวลาต่อเนื่องไม่เกิน 30 นาที ซึ่งทาง Apple ยังระบุข้อความในหน้าเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 รุ่น ด้วยว่า
"iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น ซึ่งผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่นจะไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งความสามารถดังกล่าวอาจลดลงจากการใช้งานตามปกติ ห้ามชาร์จ iPhone ในขณะที่เครื่องยังเปียกอยู่ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาด และการทำให้แห้งในคู่มือผู้ใช้ การรับประกันไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากของเหลว"
แต่แม้ว่า iPhone X และ iPhone 8 Series จะมีฟีเจอร์ป้องกันน้ำ แต่การป้องกันเหล่านี้จะครอบคลุมจะเฉพาะน้ำสะอาดเท่านั้น ผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำประเภทอื่นๆ เช่น น้ำทะเล, น้ำเกลือ, น้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด, น้ำสกปรก หรือน้ำที่มีสารเคมีเจือปน
สรุปราคาเบื้องต้นของ iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
Apple ได้ประกาศราคาวางจำหน่ายของไอโฟนทั้ง 3 รุ่นในประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้วภายในงานเปิดตัว แต่สำหรับกลุ่มประเทศอื่นราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ซึ่งประเทศไทยเองมักจะมีราคาวางจำหน่ายที่ใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ และล่าสุดทาง Apple (สิงคโปร์) ก็ได้ประกาศราคาวางจำหน่ายของ iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
*สาเหตุที่ต้องเทียบราคาวางจำหน่ายกับประเทศสิงคโปร์เพราะว่า ราคา iPhone ในไทยจะใกล้เคียงกับสิงคโปร์มากที่สุด
สรุปราคา iPhone 8 และราคา iPhone 8 Plus
สำหรับราคา iPhone 8 ในสิงคโปร์ มีรายละเอียด ดังนี้
- iPhone 8 รุ่น 64GB ราคา 1,148 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 28,200 บาท (ราคาไทย +-ไม่เกิน 1,000 บาท)
- iPhone 8 รุ่น 256GB ราคา 1,388 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 34,000 บาท (ราคาไทย +-ไม่เกิน 1,000 บาท)
ส่วน iPhone 8 Plus มีราคา ดังนี้
- iPhone 8 Plus รุ่น 64GB ราคา 1,308 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 32,100 บาท (ราคาไทย+-ไม่เกิน 1,000 บาท)
- iPhone 8 Plus รุ่น 256GB ราคา 1,548 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 38,000 บาท (ราคาไทย +-ไม่เกิน 1,000 บาท)
สรุปราคา iPhone X
Apple (สิงคโปร์) ประกาศราคา iPhone X อย่างเป็นทางการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- iPhone X รุ่น 64GB มีราคาวางจำหน่ายที่ 1,648 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 40,500 บาท (ราคาไทย +-ไม่เกิน 1,000 บาท)
- iPhone X รุ่น 256GB มีราคาวางจำหน่ายที่ 1,888 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 46,500 บาท (ราคาไทย +-ไม่เกิน 1,000 บาท)
เปิดตัว iPhone 8 และ iPhone X เรือธงรุ่นท็อปประจำปีจาก Apple
สรุปข้อมูล สเปก ฟีเจอร์ และราคา ของ iPhone X
ที่มา : Apple
วันที่ : 14/9/2560