Apple กำไรลดจริงหรือ? หลังพบต้นทุน iPhone 12 สูงกว่า iPhone 11 ถึง 26%
ล่าสุดมีการรายงานจากทาง Counterpoint บริษัทวิเคราะห์ตลาด เกี่ยวกับข้อมูลต้นทุนของ iPhone 12 รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Apple ที่เพิ่มมาจากในรุ่นก่อนอย่าง iPhone 11 ถึง 26%
มีการรรายงานว่า iPhone 12 มีต้นทุนการผลิตต่อเครื่องสำหรับเวอร์ชันรองรับ mmWave รุ่นความจุ 128GB อยู่ที่ราว $431 (ประมาณ 13,000 บาท) ซึ่งสูงกว่า iPhone 11 ถึง 26% เลยทีเดียว แม้ iPhone 12 จะสามารถลดต้นทุนในด้านการออกแบบได้ราว $27 (ประมาณ 813 บาท) แล้วก็ตาม
และจากการวิเคราะห์รายการวัสดุ (BoM) ก็พบว่าชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ 5G คือตัวแปรสำคัญ และแม้จะเป็นตัวเครื่องเวอร์ชัน sub-6GHz ที่มีต้นทุนถูกกว่า ก็ยังสูงกว่า iPhone 11 ราว 18% อยู่ดีนอกจากนี้การใช้ชิปเซ็ต Apple A14 Bionic รุ่นใหม่ก็เพิ่มต้นทุนด้วยเช่นกัน จากการขยับมาใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 5nm รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ OLED แทนที่ LCD แต่ทั้งนี้ยังไม่รวมต้นทุนด้านการประกอบ รวมถึงการขนส่ง
และเมื่อพิจารณาจากยอดขาย iPhone 11 ช่วงเดือนกันยายนปี 2019 กับ iPhone 12 ช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2020 ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเห็นได้ว่า iPhone 11 มีสัดส่วนจำนวนยอดขายมากกว่า iPhone 12 จึงมีความเป็นไปได้ที่ Apple จะทำกำไรได้ลดลง
แต่หากพิจารณาถึง iPhone 11 ที่มีราคาเปิดตัว $699 (ราคาไทยอยู่ที่ 24,900 บาท) ขณะที่ iPhone 12 มีราคาเปิดตัวที่ $799 (ราคาไทยอยู่ที่ 29,900 บาท) ก็ถือว่ามีการปรับเพิ่มขึ้นมาพอสมควร เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ซึ่งยอดขาย iPhone 12 ที่ดูน้อยกว่า iPhone 11 เมื่อครั้งเปิดตัว ก็อาจทำกำไรได้เทียบเท่า หรือมากกว่า iPhone 11 ก็เป็นได้ ดังนั้นการจะกล่าวว่า Apple กำไรลดลง ก็อาจจะไม่จริงเสมอไป
นอกจากนี้ทาง Apple ยังยุติการแถมอะแดปเตอร์ และหูฟังให้ภายในกล่องแพ็กเกจ ซึ่งเป็นอีกทางในการลดต้นทุน รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้ซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นไปในตัวอีกด้วย ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ควันหลง iPhone 12 ไม่แถมหูฟัง และหัวชาร์จให้กับไอโฟน อาจทำให้ Apple มีแต่ได้กับได้?
ที่มา : macrumors, iclarified
วันที่ : 11/1/2564