หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 24/10/2561

เทียบสเปก Huawei Y9 2019 และ Xiaomi Redmi Note 6 Pro สองรุ่นสุดคุ้มกับราคา 6,990 บาท ฟีเจอร์จัดเต็มอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร มาดูกัน!

 

เพิ่งเปิดตัวไปแบบสดๆ ร้อนๆ สำหรับ Huawei Y9 2019 สมาร์ทโฟน Entry Flagship น้องใหม่ของค่าย Huawei ที่มาพร้อมการอัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Y9 2018 ทั้งการดีไซน์หน้าจอไร้ขอบใหญ่ 6.5 นิ้ว บนบอดี้เงางามคล้ายกระจก และฟีเจอร์ภายในด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Kirin 710 ผสานเทคโนโลยี GPU Turbo รวมถึงระบบกล้อง AI Camera ถึง 4 ตัวในเครื่องเดียว และมีแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh โดยเปิดราคาวางจำหน่ายที่ 6,990 บาท ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับสเปกที่ได้

และหากกล่าวถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีความคุ้มค่าในราคาเท่ากันที่ 6,990 บาท Xiaomi Redmi Note 6 Pro ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยหน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ตามสมัยนิยม ผสานพลัง Snapdragon 636 และระบบกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่แบบคู่ (AI Dual Selfie Camera) ประกบกล้องหลักที่ด้านหลังแบบคู่ (AI Dual Camera) รวมเป็นกล้อง AI 4 ตัวในเครื่องเดียว นอกจากนี้ยังมีแบตความจุ 4000 mAh ด้วยเช่นกัน

ในวันนี้ทางทีมงานจึงได้นำ Huawei Y9 2019 และ Xiaomi Redmi Note 6 Pro มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นในด้านใด และรุ่นไหนเหมาะกับใคร หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ

 

เปรียบเทียบดีไซน์ และรูปลักษณ์ภายนอก

Huawei Y9 2019

Huawei Y9 2019 มาพร้อมการดีไซน์จอไร้ขอบแบบ FullView Display ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้วในอัตราส่วน 19.5:9 พร้อมรอยบาก (Notch) ที่มีกล้องหน้าคู่ AI และจะเห็นได้ว่าขอบหน้าจอมีความบางลง รวมถึงมุมขอบหน้าจอมีความโค้งรับกับขอบตัวเครื่องด้วยเช่นกัน สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องมีความเงางามคล้ายกระจกขอบโค้งแบบ 3D พร้อมกับตัวเลือกสีใหม่ล่าสุดอย่าง Sapphire Blue

 

Xiaomi Redmi Note 6 Pro

Xiaomi Redmi Note 6 Pro มีการดีไซน์หน้าจอไร้ขอบในอัตราส่วน 19:9 พร้อมกล้องหน้าแบบคู่ (Dual Selfie Camera) บนรอยบาก (Notch) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าในรุ่น Huawei Y9 2019 อยู่เล็กน้อย และมุมขอบหน้าจอมีความโค้งรับกับขอบตัวเครื่อง ส่วนที่ด้านหลังผลิตจากโลหะ

 

เปรียบเทียบคุณสมบัติ และฟีเจอร์ภายใน


เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับตารางเปรียบเทียบข้างต้น จะเห็นได้ว่าทั้งสองรุ่นมีฟีเจอร์เด่นที่ทัดเทียมกันในหลายด้าน แต่ก็มีจุดเด่น และจุดขายในด้านที่แตกต่างกันออกไป เริ่มกันที่ Huawei Y9 2019 กับหน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว บนความละเอียดระดับ Full HD+ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Kirin 710 ผสาน RAM 4GB และเทคโนโลยี GPU Turbo ที่ช่วยรีดเร้นประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกให้มากขึ้น โดยมีความจุ 64GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 400GB พร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ที่รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า

สำหรับด้านการถ่ายภาพของ Huawei Y9 2019 มาพร้อมกล้องถ่ายภาพ AI Camera ถึง 4 ตัว โดยแบ่งออกเป็นกล้องหน้าคู่ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI Scene Recognition, การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) และฟีเจอร์การจัดแสงแบบ 3 มิติ ส่วนกล้องหลังก็เป็นแบบคู่ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF และเทคโนโลยี AI Scene Recognition ที่สามารถวิเคราะห์ซีน และวัตถุต่างๆ ได้มากกว่า 500 ซีนจากทั้งหมด 22 หมวดหมู่ เพื่อนำไปปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความสวยงามแบบอัตโนมัติ

ส่วนทางด้าน Xiaomi Redmi Note 6 Pro ใช้งานหน้าจอไร้ขอบขนาด 6.26 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ Full HD+ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 636 ผสาน RAM 4GB โดยมีความจุภายใน 64GB ที่สามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 256GB และแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh บนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo ที่รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า

การถ่ายภาพบน Xiaomi Redmi Note 6 Pro ก็มาจากกล้อง AI Camera 4 ตัวในเครื่องเดียว โดยกล้องหน้าคู่ความละเอียด 20+2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Super Pixel, ฟีเจอร์ AI Portrait 2.0, AI Beautify 4.0 และเทคโนโลยี AI Scene Recognition สำหรับกล้องหลังแบบคู่ความละเอียดอยู่ที่ 12+5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Dual Pixel Autofocus, ฟีเจอร์ AI Portrait 2.0 และเทคโนโลยี AI Scene Recognition 

และจากการเปรียบเทียบทั้งหมดก็พอจะสรุปได้ว่า Huawei Y9 2019 เหมาะสำหรับท่านที่เน้นการเล่นเกม พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ บนดีไซน์ทันสมัย และแบตเตอรี่จุใจ ส่วน Xiaomi Redmi Note 6 Pro เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ พร้อมเน้นการใช้งานด้านถ่ายภาพ และใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องตลอดวัน

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละท่านค่ะ ซึ่งทางทีมงานขอแนะนำว่าควรไปทดลองจับถือตัวเครื่องจริง พร้อมทดสอบฟีเจอร์ในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่เงินที่เสียไปนั่นเองค่ะ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com


วันที่ : 24/10/2561

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy