เทียบสเปก Redmi Note 7 และ Redmi Note 6 Pro อัปเกรดขึ้นจากเดิมอย่างไร มีฟีเจอร์จัดเต็มเพียงไหน มาดูกัน!

ล่าสุดนี้ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับ Reami Note 7 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi กับคุณสมบัติตัวเครื่องที่จัดเต็ม สวนทางกับราคาที่ย่อมเยา 

สำหรับ Redmi Note 7 ถือว่าเป็นการต่อยอดมาจาก Xiaomi Redmi Note 6 Pro ที่เปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด และอัปเกรดฟีเจอร์ขึ้นจากเดิมในหลายด้าน ทางทีมงานจึงนำ Redmi Note 7 และ Redmi Note 6 Pro มาทำการเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ
 

เปรียบเทียบดีไซน์ และรูปลักษณ์ภายนอก

Xiaomi Redmi Note 6 Pro

Redmi Note 7

เริ่มที่ดีไซน์จะเห็นได้ว่า Redmi Note 7 ปรับโฉมจากเดิมใหม่หมดจด ด้วยหน้าจอไร้ขอบแบบหยดน้ำ Water Drop Full Screen ที่มีรอยบากเล็กกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ในอัตราส่วนใหม่ที่ 19.5:9 และครอบทับที่ด้านหลังตัวเครื่องด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D พร้อมการไล่เฉดสีที่กำลังได้รับความนิยม ณ ขณะนี้

เปรียบเทียบคุณสมบัติ และฟีเจอร์ภายใน

จากตารางการเปรียบเทียบข้างต้นกล่าวได้ว่า Redmi Note 7 อัปเกรดจากรุ่นก่อนพอสมควรเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ขนาดหน้าจอที่ปรับขึ้นมาเป็น 6.3 นิ้วในอัตราส่วนใหม่ที่ 19.5:9 พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 660 AIE จับคู่กับ RAM สูงสุดที่ 6GB โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie เวอร์ชันใหม่ล่าสุดแบบแกะกล่อง รวมถึงรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Quick Charge 4.0 และรองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ค่อนข้างยากบนสมาร์ทโฟนช่วงราคาใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังอัปเกรดมาใช้งานกล้องคู่ (Dual Camera) ที่กล้องตัวหลักคมชัดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล อีกด้วย

สำหรับ Redmi Note 7 วางจำหน่ายในประเทศไทยแยกออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 3GB+32GB ราคา 4,999 บาท, รุ่น 4GB+64GB ราคา 6,599 บาท (วางจำหน่ายแบบ Exclusive ผ่านทาง AIS เท่านั้น) และรุ่น 4GB+128GB ราคา 6,799 บาท ซึ่งถือว่าเปิดราคามาใกล้เคียงกับ Redmi Note 6 Pro ที่ 6,990 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาลดลงมาอยู่ที่ 6,499 บาท

ท่านที่สนใจ Redmi Note 7 เตรียมเงินไว้ให้พร้อมค่ะ เพราะทุกเวอร์ชันจะเริ่มวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกพร้อมกันผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ Lazada และ AIS Online Store ในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 27 มีนาคมนี้ และเริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางออฟไล์ที่ร้าน AIS Shop, AIS Partner และ Mi Store ในวันที่ 30 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 21/03/2562