รีวิว Hi-Shield UV Glue กระจกกันรอย UV ตัวท็อป สำหรับ Note10 | 10+ ติดสวยแกร่งแน่นทั่วแผ่น สแกนนิ้ว Ultrasonic ได้ และรับประกันให้ 180 วัน
สวัสดีครับ สำหรับจุดขายอันดับต้นๆ ของ Samsung Galaxy Note10 และ Note10+ ก็คือสุดยอดหน้าจอใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Dynamic AMOLED Cinematic Infinity-O ซึ่งหน้าจอไฮเอนด์ระดับนี้ ก็ควรที่จะต้องมีอะไรมาปกป้อง และในวันนี้เราก็มีมาแนะนำกันครับ นั่นคือ Hi-Shield UV Glue กระจกกันรอยรุ่นพรีเมียม ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์เช่นเดียวกัน และที่สำคัญคือมีรับประกันกระจกแตกให้ถึง 180 วัน ส่วนจะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ
แกะกล่อง พร้อมสำรวจอุปกรณ์ด้านใน
กล่องของกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue แม้จะมีดีไซน์โดยรวมที่เหมือนกับกล่องของกระจกกันรอย Hi-Shield รุ่นอื่นๆ แต่ก็จะมีสติกเกอร์ระบุรุ่น UV Glue ติดเอาไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์สำหรับการติดตั้งที่ครบครัน ผู้ซื้อจึงสามารถนำไปติดตั้งได้เองที่บ้าน
เริ่มตั้งแต่แผ่นกระจกกันรอย UV Glue ที่ผ่านการอบด้วยความร้อนกว่า 6 ชั่วโมง จึงแข็งแรงกว่าแผ่นกระจก UV ทั่วไปถึง 3 เท่า อีกทั้งไม่มีจุด, ไม่มีขอบดำ และไม่มีรู
หลอดกาว UV จำนวน 1 หลอด
ผ้าชุบแอลกอฮอล์ 2 ซอง
ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อดีจำนวน 3 ผืน ที่เอาไว้เช็ดทำความสะอาด และเผื่อไว้สำหรับเช็ดคราบกาว
สติกเกอร์เก็บฝุ่น กับสติกเกอร์ป้องกันกาวไหลเข้าลำโพง หรือชิ้นส่วนอื่นๆ
คู่มือการติดตั้ง ซึ่งก่อนติดตั้งเราก็ควรอ่านให้ละเอียดครบถ้วนเสียก่อน
ใบรับประกัน ซึ่งรับประกันกระจกแตกเพิ่มจากเดิม 90 วัน ให้เป็น 180 วัน
และสุดท้ายคือเครื่องฉายแสง UV
โดยเครื่องฉายแสง UV นี้จะมาพร้อมกับชุดจำหน่ายเซ็ตใหญ่ราคา 1,590 บาท
วิธีการติดตั้งกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue
สำหรับขั้นตอนของการเตรียมพื้นผิวนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ต่างไปจากกระจกกันรอยรุ่นอื่นๆ ของ Hi-Shield เองครับ เริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดด้วยการนำผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดคราบเปื้อน หรือคราบมัน ออกไปจากผิวกระจก
ต่อด้วยการนำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดคราบแอลกอฮอล์ออกไป
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ ก็จะเป็นขั้นตอนเฉพาะสำหรับรุ่น UV Glue แล้วครับ เริ่มตั้งแต่การนำเอาสติกเกอร์แผ่นเรียวยาว มาแปะไว้ที่ลำโพงด้านบน หรือพอร์ตต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กาวส่วนเกินไหลเข้าไป
แล้วนำสติกเกอร์เก็บฝุ่นมาไล่เก็บเศษฝุ่นที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่บนพื้นผิว ซึ่งระหว่างการติดตั้ง ขอแนะนำให้ทำในสถานที่ ที่ไม่มีลมพัดผ่านจะดีที่สุด เพื่อลดโอกาสที่ฝุ่นจะลอยมาติดบนหน้าจอนั่นเอง
จากนั้นก็ให้นำเอาหลอดกาว UV มาเตรียมไว้เพื่อใช้หยดลงไปบนหน้าจอ
แต่ก่อนที่เราจะนำกาว UV มาหยดลงไป ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าพื้นโต๊ะที่เราใช้ติดตั้งนั้นไม่มีการลาดเอียง เพราะไม่เช่นนั้น กาว UV อาจจะไหลออกไปจากหน้าจอจนทำให้การติดตั้งเสียหายได้
วิธีการหยดกาว UV ลงบนหน้าจอ ให้เราแบ่งหยดในปริมาณเท่าๆ กัน 3 ส่วนคือ ส่วนบน, ส่วนกลาง และส่วนล่าง โดยให้หยดจนหมดหลอด
แต่หากเราเห็นว่ามีฟองอากาศเกิดขึ้น ก็ให้เรานำไม้จิ้มฟัน หรือไม้ปลายแหลมขนาดเล็กมาช่วยเกลี่ยฟองออกไป และสังเกตได้ว่ากลิ่นกาวจะไม่เหม็นมากอย่างที่คิด
จากนั้นให้ค่อยๆ นำเอาแผ่นกระจกกันรอยวางลงไปบนกาวอย่างช้าๆ แล้วกาวก็จะกระจายตัวไปทั่วทั้งหน้าจอเองโดยอัตโนมัติ
ซึ่งกาวจะวิ่งไปทั่วแผ่นได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ โดยหากเราเห็นว่าตำแหน่งของกระจกยังไม่ตรงดี เราก็ยังสามารถขยับให้ตรงได้
หรือหากเห็นว่ายังมีฟองอากาศหลงเหลืออยู่ ก็สามารถใช้นิ้วกดเบาๆ แล้วค่อยๆ ไล่ออกมาตามขอบได้
แต่ต้องคอยระวังคราบกาวส่วนเกินที่ไหลออกมาตามขอบกระจก ซึ่งหากเห็นก็ให้เรารีบนำเอาผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดออกให้สะอาดทันที
และหากมีกาวเปื้อนที่มือ ก็ให้รีบล้างออกให้สะอาดด้วยเช่นกัน เพราะสำหรับบางคนหากทิ้งไว้อาจเกิดอาการแพ้ได้
เมื่อแน่ใจว่าเช็ดคราบกาวส่วนเกินออกแล้ว และจัดตำแหน่งได้ตรงดีแล้ว ก็ให้นำเครื่องฉายแสง UV มาวางคร่อมไว้ที่ด้านบนของหน้าจอ แล้วทำการฉายแสง UV โดยแบ่งเป็น 3 รอบเวลาดังนี้คือ รอบที่หนึ่งใช้เวลา 10 วินาที, รอบที่สองใช้เวลา 40 วินาที และรอบที่สามใช้เวลา 40 วินาที
ด้วยขั้นตอนการฉายแสง UV นี้จะทำให้กาวที่เหลว ค่อยๆ เกิดการแข็งตัวแล้วยึดติดกับหน้าจออย่างแน่นหนา
ทดสอบใช้งานกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue
หลังจากติดตั้งกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue แล้ว ก็จะเห็นว่ามีความสวยงามพรีเมียมเข้ากับหน้าจอเดิมๆ ของ Galaxy Note10+ เป็นอย่างยิ่ง
รวมทั้งไม่มีขอบดำ, ไม่มีจุด, ไม่มีรุ้ง และบริเวณขอบไม่มีอาการเด้งให้เห็น เนื่องจากกระจกแนบสนิทกับหน้าจอโดยสมบูรณ์
ที่สำคัญคือยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ Ultrasonic ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมีการเว้นรูที่แผ่นกระจก
เมื่อติดตั้งกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue แล้ว ก็ยังสามารถใส่กับเคสทั่วไปได้ตามปกติ ตั้งแต่เคสขอบบาง ไปจนถึงเคสที่มีขอบหนา
ระบบนิ้วสัมผัส กับปากกา S Pen ยังคงมีความลื่นไหล, แม่นยำ และตอบสนองได้ดี แทบไม่ต่างไปจากหน้าจอเดิมๆ อีกทั้งยังให้สัมผัสที่ดีกว่ากระจกกันรอยแบบอื่นๆ ด้วยกาวที่ติดแน่นแนบสนิทกับหน้าจออย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ Nano Plating Coating จึงช่วยลดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี
และด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ Oleophobic และ Hydrophobic Coating จึงช่วยลดคราบมัน, คราบเปื้อน หรือคราบสกปรกต่างๆ ได้ดีเป็นพิเศษ
อีกทั้งยังสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
แผ่นกระจกไม่ไปบัง หรือรบกวนการทำงานของกล้องหน้า หรือเซ็นเซอร์ จึงยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
กระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue นั้นเลือกใช้กระจก Asahi Glass จากญี่ปุ่น ซึ่งมีความแข็งแกร่งระดับ 9H ดังนั้นจึงสามารถป้องกันการขีดข่วนจากของมีคมได้แทบทุกรูปแบบ และผ่านการอบด้วยความร้อนเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ดังนั้นจึงมีความทนทาน ไม่เปราะแตกง่าย
ด้วยความใสเคลียร์ของกระจกในระดับสูง ดังนั้นการแสดงผลจึงยังมีความละเอียดคมชัด และมีสีสันที่สดใส แทบไม่ต่างไปจากหน้าจอเดิมๆ
สำหรับกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue นอกจากจะมีแบบใสอย่างที่เรารีวิวให้ชมกันไป ก็ยังมีแบบด้านด้วยนะครับ ซึ่งมีจุดเด่นตรงผิวสัมผัสที่ลื่นเป็นพิเศษ จึงเหมาะกับบรรดาเกมเมอร์นั่นเอง หากท่านใดสนใจก็สามารถแวะไปดูของจริงได้ที่เพจของ Hi-Shield
สรุปส่งท้ายกับกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue สำหรับ Samsung Galaxy Note10 | 10+
ก็นับว่าเป็นกระจกกันรอยรุ่นพรีเมียมที่เหมาะกับหน้าจอของ Galaxy Note10 และ Note10+ จริงๆ ครับ สำหรับ Hi-Shield UV Glue รุ่นนี้ ด้วยคุณสมบัติระดับสูงซึ่งตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยมทุกด้าน ทั้งความแน่นหนา, การแสดงผล, ความแข็งแกร่ง, ความสวยงาม, ระบบสัมผัส และยังสแกนนิ้วบนหน้าจอได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มการรับประกันกระจกแตกให้เป็น 180 วัน จนถูกเลือกให้นำไปวางจำหน่ายใน iStudio กับ Samsung Shop เลยทีเดียว หากท่านใดสนใจก็สามารถซื้อได้ในราคา 1,590 บาท ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องฉายแสง UV แต่หากท่านแจ้งว่ามาจาก Thaimobilecenter ก็จะซื้อได้ในราคาพิเศษเหลือเพียง 1,290 บาทเท่านั้นครับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
ช่องการการสั่งซื้อกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue และผลิตภัณฑ์ Hi-Shield รุ่นอื่นๆ
สำหรับท่านใดที่สนใจซื้อกระจกกันรอย Hi-Shield UV Glue สำหรับ Samsung Galaxy Note10 | 10+ รุ่นนี้มาใช้งาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นๆ ของ Hi-Shield นอกจากจะสามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศแล้ว ก็ยังสามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์ได้จาก 2 ช่องทางหลักดังนี้
Inbox Facebook : https://goo.gl/VZmxrK
LINE@ : https://goo.gl/moNSKn
Shopee : https://shopee.co.th/hishieldofficialshop
JD Central : https://goo.gl/toiuin
Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/hishield-officialshop
และอย่าลืมแจ้งว่ามาจากเว็บไซต์ Thaimobilecenter เพื่อรับส่วนลดด้วยนะครับ ^_^
นำเสนอรีวิวโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 27/9/2562
