รีวิว Hi-Shield 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus กระจกกันรอยที่แข็งแกร่ง 2 เท่า ทนทานเกินคาด พร้อมนวัตกรรมที่อัดแน่นเต็มแผ่น!
สวัสดีครับ เชื่อว่าคงมีหลายๆ ท่านที่กำลังวางแผนจะจับจองเป็นเจ้าของ iPhone 8 หรือ iPhone 8 Plus ที่กำลังจะเริ่มวางจำหน่ายในบ้านเราวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้อยู่ใช่ไหมครับ และแน่นอนว่าหลายๆ ท่านก็คงกำลังจะมองหากระจกกันรอยดีๆ มาช่วยปกป้องหน้าจอสวยๆ งามๆ ของ iPhone 8 ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้เราจึงนำเอากระจกกันรอยรุ่นพรีเมียมที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง Hi-Shield 3D Super Strong Max มาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ โดยกระจกกันรอยรุ่นนี้นั้นมีความแข็งแกร่งกว่ากระจกกันรอยปกติถึง 2 เท่า พร้อมนวัตกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่กระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นนี้จะผ่านด่านทดสอบสุดโหดของเราได้หรือไม่ ไปติตตามกันได้เลยครับ
วิดีโอรีวิว Hi-Shield 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus กระจกกันรอยที่แข็งแกร่ง 2 เท่า ทนทานเกินคาด พร้อมนวัตกรรมที่อัดแน่นเต็มแผ่น!
ก่อนซื้อให้สังเกตที่ด้านหน้ากล่อง จะต้องมีสติ๊กเกอร์ 3D Super Strong Max แบบนี้ติดเอาไว้อย่างชัดเจน
และมีสติ๊กเกอร์ระบุสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับเอาไว้ที่มุมบนขวา ซึ่งที่เรานำมารีวิวในวันนี้เป็นกระจกกันรอยสำหรับ iPhone 8 Plus นั่นเองครับ
นอกจากจะแกร่งขึ้น 2 เท่า ด้วยเทคโนโลยี Hydrofluoric ที่ผ่านการอบกว่า 6 ชั่วโมง แล้ว กระจกกันรอย 3D Super Strong Max ก็ยังมีคุณสมบัติของความแข็งระดับ 9H, ความบางเฉียบเพียง 0.33 มิลลิเมตร, ผลิตด้วยกระจก Gorilla Glass จากสหรัฐอเมริกา, เทคโนโลยี Nano Plating Coating ที่ช่วยลดรอยนิ้วมือ, พื้นผิวที่ป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างดีเยี่ยม, เทคโนโลยี Oleophobic กับ Hydrophobic Coating ที่ช่วยแยกน้ำมันออกจากผิวกระจก ทำให้ผิวสัมผัสลื่นไม่สกปรก และสุดท้ายคือสามารถแสดงผลได้คมชัดสีสันสดใส
กระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus นั้นมีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีขาว และสีดำ โดยกระจกสีขาวก็จะเหมาะกับเครื่อง iPhone 8 Plus สีเงิน กับสีทอง ส่วนกระจกสีดำก็จะเหมาะกับเครื่อง iPhone 8 Plus สีเทา และเมื่อพลิกมาดูแผ่นปิดที่ด้านหลัง ก็จะเห็นว่ามีสติ๊กเกอร์ของรุ่น 3D Super Strong Max ติดเอาไว้อย่างชัดเจน
โดยแผ่นกระจกกันรอยนั้นมีขอบที่บางเฉียบเพียง 0.33 มิลลิเมตร
นอกจากนี้ภายในกล่องก็ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ครบครัน ทั้งฟิล์มกันรอยสำหรับติดที่ด้านหลังตัวเครื่อง
สติ๊กเกอร์เก็บฝุ่น และสติ๊กเกอร์สำหรับช่วยยึดติดฟิล์ม
ผ้าชุบแอลกอฮอล์ สำหรับเช็ดคราบมัน หรือคราบเปื้อน
ผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างดี สำหรับใช้เช็ดทำความสะอาด
และที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คือใบรับประกัน ซึ่งทาง Hi-Shield รับประกันกระจกแตกให้นานถึง 6 เดือน ซึ่งหากเกิดแตกขึ้นมาก็สามารถเปลี่ยนเป็นกระจกใหม่ได้ฟรี 1 ครั้ง
ส่วนวิธีการติดตั้งก็ง่ายมากๆ เหมือนกับกระจกกันรอยของ Hi-Shield รุ่นอื่นๆ ครับ เริ่มที่การนำผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดคราบมัน หรือคราบเปื้อนต่างๆ ออกไปก่อน
จากนั้นก็เช็ดตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
เก็บเศษฝุ่นเล็กๆ ที่อาจยังเหลืออยู่ด้วยสติ๊กเกอร์เก็บฝุ่น
เมื่อแน่ใจว่าพื้นผิวหน้าจอสะอาดไร้ฝุ่นแล้ว ก็ให้แกะตัวกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max ออกมา
จากนั้นก็ให้นำตัวกระจกกันรอยไปทาบกับหน้าจอ iPhone 8 Plus ให้ตรงตำแหน่งอย่างช้าๆ
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าตำแหน่งของการวางทุกจุดถูกต้องแม่นยำดีแล้ว ก็ให้ใช้นิ้วกดลงไปที่บริเวณส่วนกลางของแผ่นกระจก ตัวกระจกก็จะทำการดูดติดกับหน้าจอของ iPhone 8 Plus โดยอัตโนมัติดังที่เห็นนี้ครับ
หลังจากตัวกระจกดูดติดกับหน้าจอแล้ว ก็จะพบว่าแทบไม่มีฟองอากาศหลงเหลืออยู่ หรือหากมีก็น้อยมากๆ ซึ่งการแก้ไขก็ไม่ยาก เราเพียงแค่ใช้นิ้ว หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ช่วยกด หรือถูลงไปอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนการติดตั้งฟิล์มกันรอยที่ด้านหลังก็มีขั้นตอนที่คล้ายๆ กันครับ และด้วยการที่พื้นผิวด้านหลังของ iPhone 8 Plus เป็นกระจก ก็ยิ่งช่วยให้การติดตั้งนั้นง่าย, สวยงาม และแทบไม่ต้องไล่ฟองอากาศเลยครับ
เพียงเท่านี้การติดตั้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งถือว่าง่ายมากๆ และไม่ว่าใครก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน อีกทั้งตัวกระจกยังดูกลมกลืนกับหน้าจอ และตัวเครื่องเดิมๆ ของ iPhone 8 Plus เป็นอย่างดี
และด้วยขอบด้านข้างที่บางเฉียบเพียง 0.33 มิลลิเมตร จึงดูมีความสวยงามแนบเนียนไปกับตัวเครื่องของ iPhone 8 Plus ราวกับเป็นชิ้นงานเดียวกัน
การทดสอบแรกของเราก็ขอเริ่มด้วยการทดสอบแบบหนักๆ กันก่อนเลยครับ โดยเราจะทำการปล่อยลูกเหล็กตันน้ำหนัก 64 กรัมลูกนี้ ให้ตกลงมากระแทกกับกระจก Hi-Shield 3D Super Strong Max ในระดับความสูงต่างๆ ไปจนถึงระดับความสูง 140 เซนติเมตร ตามที่ทาง Hi-Shield ได้เคลมไว้นั่นเองครับ
มาเริ่มกันที่ระดับต่ำสุดซึ่งก็คือ 40 เซนติเมตรกันก่อนครับ ซึ่งแน่นอนว่าความสูงเพียงเท่านี้นั้นไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max ได้เลยแม้แต่น้อย
มาต่อกันที่ระดับความสูง 60 เซนติเมตรครับ ซึ่งก็ไม่เกิดความเสียหายใดๆ เช่นเดียวกัน
ต่อกันที่ระดับความสูง 1 เมตร หรือ 100 เซนติเมตร ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับความสูงที่ไม่น้อยแล้วครับ แต่ลูกเหล็กก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายกับกระจกได้
เพิ่มความสูงขึ้นอีกนิดเป็นที่ระดับ 120 เซนติเมตร ซึ่งตอนแรกเราเองก็ยังไม่มั่นใจว่ากระจกจะทนได้หรือไม่ แต่เมื่อทดสอบแล้วก็ปรากฏว่ายังสามารถทนได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ
แล้วก็มาถึงระดับสูงสุดที่ทาง Hi-Shield ได้เคลมไว้ นั่นก็คือ 140 เซนติเมตร หรือสูงเท่าไหล่ของผู้ใหญ่คนนึงเลยทีเดียว ซึ่งก่อนปล่อยลูกเหล็กก็ต้องลุ้นกันอยู่พอสมควร แต่ผลทดสอบก็ปรากฏว่ากระจก 3D Super Strong Max นี้สามารถทนได้จริงๆ และไม่มีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยครับ
ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ทีมงานก็ขอทดสอบในระดับสูงกว่าที่เคลมไว้เสียเลยครับ นั่นคือการปล่อยลูกเหล็กที่ระดับความสูงประมาณ 160 เซนติเมตร ซึ่งก่อนทดสอบก็คาดเดากันไว้ว่ากระจกน่าจะแตกร้าวบ้างไม่มากก็น้อย แต่ผลปรากฏว่ากระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max นั้นยังคงสามารถทนได้อย่างเหลือเชื่อครับ
เมื่อลองมาสำรวจความเสียหายกันใกล้ๆ ก็พบว่าไม่มีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นแต่อย่างใดครับ อย่างมากเราก็อาจจะเห็นฟองอากาศเล็กๆ เกิดขึ้นบ้างตามจุดที่ตกกระทบแรงๆ แต่ก็ยังสามารถใช้งานต่อได้ตามปกติครับ
นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติของความแข็งระดับ 9H จึงมีความทนทานต่อการขีดข่วนในรูปแบบต่างๆ ได้ดีมากเป็นพิเศษครับ ตั้งแต่คัตเตอร์ที่คมกริบ, แปรงทองเหลือง หรือแม้แต่แปรงที่แข็ง และคมมากๆ อย่างแปรงสแตนเลส
ด้วยเทคโนโลยี Nano Plating Coating จึงช่วยลดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังช่วยให้มีผิวสัมผัสที่เรียบลื่นอีกด้วยครับ
และด้วยเทคโนโลยี Oleophobic กับ Hydrophobic Coating จึงช่วยให้สามารถแยกน้ำ หรือน้ำมันออกจากผิวกระจกได้อย่างหมดจด เช่นเมื่อเราหยดน้ำลงไปก็จะเกิดเป็นทรงกลมชัดเจน และเพียงเอียงเครื่อง น้ำก็จะกลิ้งออกไปเองโดยไม่เหลือคราบน้ำอยู่เลยแม้แต่น้อย ซึ่งประโยชน์ก็คือหน้าจอจะไม่สกปรก และมีผิวสัมผัสที่เรียบลื่นเป็นพิเศษ
ส่วนการแสดงผลนั้นก็ยังคงมีความสว่างคมชัด และมีสีสันที่สดใส แทบไม่ต่างไปจากหน้าจอเดิมๆ ของ iPhone 8 Plus
ประสิทธิภาพของระบบสัมผัสก็นับว่ายังคงยอดเยี่ยม สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วแม่นยำเช่นเดิม
เมื่อทดสอบใส่เคสหลังจากที่ได้ติดตั้งกระจกกันรอย 3D Super Strong Max แล้วก็พบว่ายังสามารถใส่กับเคสทั่วไปได้ตามปกติโดยไม่มีการดันกับขอบกระจกแต่อย่างใด
และนอกจากรุ่น 3D Super Strong Max รุ่นนี้แล้ว กระจกกันรอยรุ่นยอดนิยมรุ่นเดิมอย่าง Hi-Shield 3D Strong Max ก็มีวางจำหน่ายด้วยเช่นกันนะครับ โดยมีให้เลือกทั้ง iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ซึ่งรุ่นนี้จะมีราคาที่ย่อมเยากว่า แต่คุณสมบัติโดยรวมยังคงยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เพียงแต่จะรับแรงกระแทกได้น้อยกว่า และไม่มีประกันกระจกแตกให้นั่นเองครับ
สรุปส่งท้ายสำหรับกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
สรุปแล้ว Hi-Shield 3D Super Strong Max ก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งกว่ากระจกกันรอยทั่วไปมากจริงๆ ครับ เพราะสามารถผ่านทุกด่านทดสอบของเราได้แบบสบายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่สามารถทนแรงกระแทกจากลูกเหล็กหนัก 64 กรัม ที่ปล่อยจากความสูงถึง 140 เซนติเมตรนั้น นับว่าสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับทีมงานของเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นในการใช้งานจริงจึงปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอน อีกทั้งทาง Hi-Shield ยังรับประกันกระจกแตกให้นานถึง 6 เดือนอีกด้วยครับ หากท่านใดสนใจ Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นนี้ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศในราคาเริ่มต้นที่ 1,390 บาท สำหรับ iPhone 8 หรือ 1,490 บาท สำหรับ iPhone 8 Plus กับ iPhone X สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
สรุปราคาของกระจกกันรอย Hi-Shield สำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
- กระจกกันรอยรุ่น 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 ราคา 1,390 บาท
- กระจกกันรอยรุ่น 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus ราคา 1,490 บาท
- กระจกกันรอยรุ่น 3D Strong Max สำหรับ iPhone 8 ราคา 1,190 บาท
- กระจกกันรอยรุ่น 3D Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus ราคา 1,290 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : Hi-Shield
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 31/10/2560