ซื้อ iPhone 13 หรือรอ iPhone 14 ดี ?

ล่าสุดก็เปิดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วสำหรับ iPhone 13 Series (ไอโฟน 13) ทั้ง 4 รุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ไอโฟนรุ่นท็อปประจำปี 2021 ซึ่งก็มาพร้อมกับคำถามคลาสสิกของใครหลายคนอย่าง น่าซื้อหรือไม่ มีอะไรใหม่บ้าง ดีกว่าเดิมอย่างไร ในวันนี้ทางทีมงานจึงมาสรุปข้อมูลที่น่าสนใจให้ว่า ควรซื้อ iPhone 13 หรือรอ iPhone 14 ดี ? หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ

iPhone 13 มีอะไรใหม่บ้าง ?

ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อก็ต้องมาดูกันก่อนว่า iPhone 13 Series นั้นมีอะไรใหม่บ้าง และดีขึ้นจากรุ่นก่อนอย่างไรบ้าง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1.iPhone 13 Series มีขนาดรอยบาก (Notch) เล็กลงกว่าเดิม ส่งผลให้มีพื้นที่การแสดงผลของหน้าจอเพิ่มขึ้น

2.หน้าจอมีฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง ProMotion ที่รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz ซึ่งช่วยให้การใช้งานลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยจะปรับค่าการแสดงผลให้เหมาะสมกับคอนเทนต์แบบอัตโนมัติระหว่าง 10-120Hz

3.ชิปเซ็ต Apple A15 Bionic รุ่นใหม่ล่าสุด บนเทคโนโลยีระดับ 5nm ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นราว 20% พร้อม CPU แบบ 6-แกน จับคู่ GPU แบบ 4-แกน ซึ่งทาง Apple ระบุว่าเป็นชิปเซ็ตมือถือที่มีกราฟิกแรงที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในตอนนี้

4.iPhone 13 Series ทุกรุ่นมาพร้อมกล้องกันสั่น ด้วยเทคโนโลยี Sensor-shift หลังจากนำมาใช้บน iPhone 12 Pro Max เป็นรุ่นแรก ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยเป็นไปอย่างสว่างคมชัด รวมถึงการถ่ายวิดีโอก็จะนิ่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมโหมดถ่ายวิดีโอ Cinematic Mode ที่ช่วยให้สร้างคอนเทนต์ได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น

5.iPhone 13 Series ทุกรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์การถ่ายรุป Portrait แบบใหม่ในชื่อ Photographic Style ที่สามารถตั้งค่าต่างๆ ก่อนการถ่ายได้อย่างครบครัน ไม่วาจะเป็น การปรับสีผิว, การปรับคอนทราสต์ หรือการปรับอุณหภูมิสี

6.iPhone 13 Seris ขยับความจุภายในขึ้นมาเริ่มต้นที่ 128GB และมีรุ่นความจุมากสุดที่ 1TB เป็นครั้งแรก

7.ตัวเครื่องสีใหม่ โดย iPhone 13 | 13 mini มีตัวเลือกสีชมพูมาเพิ่ม ส่วน iPhone 13 Pro | 13 Pro Max ก็มีสีฟ้าเชียร์ร่าบลูมาใหม่

iPhone 13 | 13 mini

iPhone 13 Pro | 13 Pro Max

iPhone 13 น่าซื้อหรือไม่ ?

สำหรับคำว่า “น่าซื้อ” นั้นแน่นอนว่าแตกต่างกันไปตามความชอบของแต่ละคน ซึ่งทางทีมงานจะยกข้อมูลด้านสเปกมาเป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณาในครั้งนี้ โดยสำหรับผู้ที่ใช้รุ่น iPhone 11 Series และ iPhone 12 Series อาจจะยังไม่ต้องอัปเกรดมาเป็น iPhone 13 Series เนื่องจากการดีไซน์ตัวเครื่องโดยรวมยังคล้ายกัน และมีฟีเจอร์ส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนไปมาก นอกจากตัวชิปเซ็ต และขนาดแบตเตอรี่ ซึ่งสำหรับ iPhone 11 ที่ใช้ชิปเซ็ต A13 Bionic ก็ยังคงมีประสิทธิภาพสูงเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน แต่หากต้องการใช้งาน 5G ด้วยก็แนะนำให้อัปเกรดมาเป็น iPhone 13 หรือหากมีงบประมาณที่จำกัดกว่านั้น iPhone 12 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

iPhone 13 Series น่าซื้อสำหรับท่านที่ใช้งานไอโฟนรุ่นก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 รุ่น ซึ่งก็คือรุ่น iPhone X Series ลงไป เพราะมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหลังใหม่ รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น ไปจนถึงระยะเวลาในการอัปเกรดซอฟต์แวร์ ที่ปกติแล้วทาง Apple จะปล่อยอัปเดต iOS เวอร์ชันใหม่ให้นานประมา 5-6 ปี ดังนั้นหากท่านใช้งานรุ่น iPhone X Series ที่เปิดตัวในปี 2017 ก็จะได้อัปเกรดอีกเพียงประมาณ 1 ครั้งเท่านั้น ก็พอจะกล่าวได้ว่า iPhone 13 Series เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ซื้อ iPhone 13 หรือรอ iPhone 14 ดี ?

ภาพคอนเซ็ปต์ iPhone 14 Pro

อีกหนึ่งคำถามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ในปี 2021 อย่าง iPhone 13 Series มา ซึ่งตำคอบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งมือถือที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้ ไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน รวมถึงงบประมาณ ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า iPhone 13 น่าซื้อหากท่านใช้ไอโฟนรุ่น iPhone X Series ลงไป แต่สำหรับท่านที่ใช้ iPhone 11 Series หรือ iPhone 12 Series การรอไปอัปเกรดเป็น iPhone 14 Series อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เนื่องจาก iPhone 13 Series เองก็อัปเกรดไปจากเดิมไม่กี่ด้านเท่านั้น อีกทั้งยังมีการดีไซน์เดียวกัน ต่างจาก iPhone 14 Series ที่มีเบาะแสหนาหูมาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่ รวมถึงการอัปเกรดกล้องถ่ายภาพ, การกลับมาของ TouchID, ชิปเซ็ต Apple A16 Bionic ที่คาดว่าผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 3nm ไปจนถึงการปรับรุ่นในซีรีส์ใหม่ โดยมีรุ่น Max มาแทนที่ mini 

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่ามีไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ชื่นชอบในรุ่นไหนมากที่สุด และมีงบประมาณเท่าใด ซึ่งทางทีมงานเพียงนำเสนอข้อมูลในส่วนนึงเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจเท่านั้น เพราะหากซื้อไปแล้วรู้สึกชอบ และเหมาะกับการใช้งานของตน ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่เงินที่เสียไปแล้วค่ะ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 8/10/2564