หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 17/2/2563

สรุปผลการประมูลคลื่น 5G ในไทย ประมูลจบในวันเดียว มูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท ด้าน AWN คว้าใบอนุญาตได้มากที่สุด

 

อย่างที่หลายท่านทราบว่า 5G เป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะมาในเร็วๆ นี้ ซึ่งในหลายประเทศต่างก็เริ่มให้บริการเครือข่าย 5G กันแล้ว รวมทั้งในปัจจุบันก็เริ่มมีสมาร์ทโฟน 5G เปิดตัวออกมาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในประเทศไทยบ้านเราก็มีการตื่นตัวกับเทคโนโลยี 5G เช่นกัน เพราะในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีการทดสอบสัญญาณ 5G มาโดยตลอด และล่าสุดก็เพิ่งจะมีการประมูลคลื่นความถี่ 5G ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีผู้ให้บริการเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในบ้านเราตบเท้าเข้าร่วมประมูลกันอย่างพร้อมหน้า 

 

สำหรับการประมูลครั้งนี้ เป็นการประมูลคลื่นความถี่จำนวน 3 ความถี่ด้วยกัน ได้แก่ ความถี่ย่าน 700MHz, ความถี่ย่าน 2600MHz และความถี่ย่าน 26GHz ใช้เวลาประมูลตั้งแต่เวลา 09.30 น. เสร็จสิ้นในเวลา 15.05 น. มูลค่าจากการประมูลรวมเป็นเงินแล้ว 100,521 ล้านบาท โดยในส่วนของคลื่นความถี่ 700MHz มีทั้งหมด 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 2x5MHz โดย CAT ประมูลได้ทั้งหมด 2 ใบอนุญาต ส่วน AWN (Advance Wireless Network) ประมูลได้ทั้งหมด 1 ใบอนุญาต รวมเป็นเงินประมูล 51,460 บาท 

ต่อมาในคลื่นความถี่ย่าน 2600MHz มีจำนวนทั้งหมด 19 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 10MHz โดย AWN ประมูลไปได้ทั้งหมด 10 ใบอนุญาต ส่วน TUC (Truemove H Universal Communication) ประมูลได้ทั้งหมด 9 ใบอนุญาต รวมเป็นเงินประมูล 33,434 ล้านบาท

ส่วนคลื่นความถี่ 26GHz มีจำนวน 26 ใบอนุญาต โดย AWN ประมูลได้ทั้งหมด 12 ใบอนุญาต ทางด้าน TUC ประมูลได้ทั้งหมด 8 ใบอนุญาต ส่วน TOT ประมูลได้ทั้งหมด 4 ใบอนุญาต ทางด้าน DTN (dtac TriNet) ประมูลได้ทั้งหมด 2 ใบอนุญาต รวมเป็นเงินประมูล 910 ล้านบาท

 

ประมูล 5G ครั้งนี้ ควรใช้ค่ายไหน?

หากสังเกตแล้วจะเห็นว่าการประมูลในครั้งนี้ AWN เป็นเจ้าเดียวที่ได้รับใบอนุญาต 5G ครบทุกคลื่นความถี่ที่เปิดประมูล ส่วนสาเหตุที่คลื่น 700MHz มีมูลค่าการประมูลที่สูงก็เนื่องมาจากเป็นคลื่นที่อยู่ในช่วงที่กระจายสัญญาณได้ไกลกว่าเมื่อเทียบกับคลื่น 2600MHz และ 26GHz ซึ่งหากดูแล้ว AIS ก็น่าจะเป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่น 5G ครอบคลุมที่สุด

ส่วน Truemove H หากดูจากใบอนุญาตที่ถือครองอยู่ ก็เป็นผู้บริการอีกหนึ่งรายที่น่าจะให้บริการ 5G แบบครอบคลุมในวงกว้างเช่นกันผู้ให้บริการรายอื่นที่ประมูลได้คลื่นความถี่สูง 26GHz คาดว่าอาจจะมีการเช่าเสาจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ เพิ่มเติม หรืออาจตั้งเสาเพื่อช่วยกระจายความถี่ให้มากขึ้น

โดยค่ายที่ค่อนข้างน่าจับตามองก็คือ dtac เพราะเป็นผู้ให้บริการหลักเพียงรายเดียวที่ไม่ได้ใบอนุญาตคลื่นความถี่ที่ส่งสัญญาณได้กว้าง ซึ่งคาดว่า dtac น่าจะเน้นวางเสาสัญญาณถี่มากขึ้น และเน้นให้บริการในเมืองเป็นหลัก 

ในส่วนของ TOT แม้ว่าจะได้ใบอนุญาตความถี่สูงมาเหมือนกับ dtac แต่ต้องไม่ลืมว่า ครม. พึ่งจะมีมติเห็นชอบควบรวม CAT และ TOT เป็นบริษัทเดียวกัน จึงทำให้ทั้งสองค่ายนี้ค่อนข้างจะมีคลื่นสัญญาณที่ครอบคลุมทั้งวงกว้าง และวงแคบ

แต่อย่างไรก็ดี กว่าที่ 5G จะเปิดให้ใช้บริการแบบเต็มรูปแบบคาดว่าจะต้องรอไปอีกสักระยะ เพราะทางผู้ให้บริการจะต้องมีการทดสอบคลื่นความถี่ที่ประมูลได้มาก่อน รวมทั้งอาจต้องมีการสร้าง Infrastructure เพิ่มเติมเพื่อเป็นรากฐานสำหรับเครือข่าย 5G ในอนาคต

 

เลือกซื้อมือถือ 5G อย่างไรดี

หากดูที่การประมูลคลื่นความถี่ 5G ในครั้งนี้ ก็พอจะสรุปได้ว่า ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน 5G เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายบ้านเราในอนาคต ก็ต้องดูที่สเปกของมือถือรุ่นนั้นๆ ว่า รองรับ 5G ในย่านความถี่ใด ซึ่งหากต้องการใช้งาน 5G ในไทย มือถือรุ่นนั้นต้องรองรับ 5G ย่านความถี่ 700MHz, 2600MHz และ 26GHz โดยในขณะนี้สมาร์ทโฟนที่ได้รับการยืนยันว่าใช้ 5G ในไทยได้แล้วแน่นอน (ในย่านความถี่ 2600MHz) นั่นก็คือ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G เพราะชิปโมเด็มรองรับความถี่ในช่วง Band N41 ซึ่งตรงกับย่านความถี่ 2496 - 2690 MHz ซึ่งหากดูจากสเปกแล้วก็หมายความว่า Samsung Galaxy S20 Ultra 5G จะรองรับ 5G แค่สองค่ายนั่นก็คือ AIS และ Truemove H เนื่องจากทั้งคู่มีใบอนุญาตในคลื่นความถี่ดังกล่าว (ดูรุ่นมือถือ 5G ที่เปิดตัวแล้ว และเตรียมเปิดตัวในเร็วๆ นี้ได้ที่นี่)

 

 

ที่า : กสทช.

 


วันที่ : 17/2/2563

Tags :
  



Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy