หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 14/7/2563

5 จุดเด่นของมือถือ 5G ที่ทำให้ HUAWEI nova 7 Series 5G น่าสนใจ กับราคาเริ่มต้น 11,990 บาท ใน nova 7 SE พร้อมทุกการใช้งานด้วยกล้องหลัง 64 ล้านพลัง AI, ชาร์จไว 40W และ ชิปตัวใหม่ Kirin 985 ใน nova 7

 

หากพูดถึงกระแสที่กำลังมาแรงในวงการสมาร์ทโฟนก็คงหนีไม่พ้น 5G เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายรูปแบบใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันในอนาคต รวมทั้งยังเป็นการพลิกโฉมการใช้งานสมาร์ทโฟนในยุคใหม่อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันสมาร์ทโฟน 5G ก็มีการวางจำหน่ายกันอยู่หลายรุ่น แต่หากพูดถึงสมาร์ทโฟน 5G ที่มีราคาเข้าถึงง่ายที่สุดในไทย ณ ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น HUAWEI nova 7 Series 5G ที่เปิดราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นในประเทศไทยเพียง 11,990 บาทเท่านั้น  แต่เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า มือถือ 5G นั้นจะช่วยเปลี่ยนแปลงการใช้งาน หรือเข้ามามีบทบาทสำคัญกับสมาร์ทโฟน HUAWEI nova7 Series 5G อย่างไรบ้าง ไปหาคำตอบกันดีกว่าครับ

 

1.ถ่ายรูป แชร์ภาพบนโซเชียลมีเดีย ได้ง่าย และสวยงามกว่าที่เคย

5G มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วดาวน์โหลด และอัปโหลดที่สูงขึ้น ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นโซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดี เพราะจะช่วยให้สามารถอัปโหลดภาพ หรือส่งรูปหากันได้รวดเร็วกว่าที่เคย ซึ่งนอกจากความเร็วในการแชร์รูปบนโซเชียลมีเดียแล้ว HUAWEI nova 7 Series ยังตอบโจทย์การถ่ายภาพด้วย กล้องหลังพลัง AI ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้แบบคมชัด, การถ่ายภาพ Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอ รวมถึงการเก็บภาพวิวทิวทัศน์แบบไม่ตกเฟรมด้วยกล้องเลนส์มุมกว้าง 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซลในรุ่น nova 7 5G และ 16 ล้านพิกเซลในรุ่น nova 7 SE 5G พร้อมเทคโนโลยี AI สำหรับช่วยทำเอฟเฟ็กต์ Bokeh ช่วยละลายฉากหลังได้อย่างเนียนตา เสริมความโดดเด่นให้กับตัวแบบ รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี Super Night Selfie เวอร์ชัน 2.0 บนรุ่น nova 7 SE 5G สำหรับช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยเป็นเรื่องง่าย และสวยงาม ส่วนในรุ่น nova 7 5G ก็มาพร้อมกับ Super Night Selfie 3.0 ที่ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี BM3D Noise Reduction ช่วยลดจุดรบกวนบนภาพถ่าย และทำให้ภาพมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น

 

2.เล่าเรื่องผ่านวิดีโอแบบคมชัด

กล้องถ่ายภาพของ HUAWEI nova 7 Series 5G ช่วยให้ผู้ใช้สามารถผลิตคอนเทนต์คุณภาพแบบ Vlogger มืออาชีพได้อย่างง่ายๆ ด้วยคุณสมบัติในการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K ที่มีเทคโนโลยีลด Noise บนภาพถ่าย ช่วยให้การถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมาพร้อมกับโหมดการถ่ายวิดีโอแบบ Dual-View Video Mode ซึ่งจะเป็นการถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์มุมกว้าง กับเลนส์ Telephoto ไปพร้อมๆ กัน หรือจะถ่ายด้วยกล้องหลังพร้อมกับกล้องหน้าก็ทำได้เช่นกัน ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปตัดต่อในแอปพลิเคชันอื่นๆ ให้ยุ่งยาก และด้วย 5G ที่มีแบนด์วิธใหญ่ ก็ทำให้การอัปโหลดวิดีโอความละเอียดสูงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ

 

3.เล่นเกมได้ลื่นไหลด้วยชิปเซ็ตทรงพลัง

HUAWEI nova 7 Series 5G มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Kirin 985 และ Kirin 820 ตามลำดับ ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่มีการฝังชิปโมเด็ม 5G มาในตัว ครอบคลุมการเชื่อมต่อ 5G แบบ 8 ย่านความถี่ ช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 5G เป็นไปอย่างลื่นไหล และยังส่งผลต่อการเล่นเกมออนไลน์บนมือถือที่จำเป็นต้องมีค่า Latency ที่ต่ำเพื่อช่วยลดอาการหน่วงของการเชื่อมต่อ และยังช่วยลดปัญหาอาการ “ปิง” ที่หลายคนมักจะพบเจอได้อีกด้วย 

 

4.รองรับการใช้งานร่วมกับ Ecosystem ได้เต็มระบบ

ด้วยการที่ 5G มีค่า Latency ที่ต่ำ ทำให้การเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อัจฉริยะหลายๆ ชิ้นของ Huawei เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ (seamless) ซึ่งใน HUAWEI nova 7 Series 5G ก็สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ Huawei ได้เช่นเดียวกันโดยใช้เพียง HUAWEI ID เท่านั้น รวมทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี HUAWEI Share ที่จะช่วยให้ส่งไฟล์จากสมาร์ทโฟนไปยังอุปกรณ์อื่นได้แบบง่ายๆ เพียงแค่นำอุปกรณ์ไปแตะกัน และในอนาคตสมาร์ทโฟนก็จะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ดีขึ้นไปอีกขั้น เพราะในตอนนี้ทาง Huawei ได้วางกลยุทธ์ใหม่อย่าง 1+8+N ที่จะใช้สมาร์ทโฟนเป็น 1 ศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ 8 สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ เพื่อโอนถ่ายข้อมูลระหว่างกันได้อย่างไร้รอยต่อ ส่วน N หมายถึงอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ที่จะใช้ 5G ในการช่วยอำนวยความสะดวกด้านการใช้งานในชีวิตประจำวันขึ้นไปอีกขั้น

 

5.ระบบปฏิบัติการที่ช่วยยกระดับการสื่อสารผ่าน 5G ไปอีกขั้น

HUAWEI nova 7 Series 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ที่อัปเกรดความอัจฉริยะด้านการเชื่อมต่อขึ้นไปอีกขั้น โดยครั้งนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า HUAWEI MeeTime ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิดีโอคอลกับเพื่อนฝูง และครอบครัวผ่านเครือข่าย 5G ได้อย่างคมชัด และลื่นไหลไม่มีสะดุด โดยในรุ่น HUAWEI nova 7 SE 5G รองรับการวิดีโอคอลผ่าน HUAWEI MeeTime ได้ที่ความละเอียดสูงสุด 720p ขณะที่ HUAWEI nova 7 5G รองรับการวิดีโอคอลได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p

 

นอกจาก 5 จุดเด่นของมือถือ 5G ที่กล่าวไปด้านต้นแล้ว HUAWEI nova 7 Series 5G ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ HUAWEI Punch Display ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ Full HD+ ช่วยให้การรับชมคอนเทนต์เป็นไปอย่างเต็มตาเต็มอารมณ์, แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ในรุ่น nova 7 SE 5G ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W SuperCharge รวมถึงแพลตฟอร์ม HUAWEI AppGallery ที่ร่วมมือกับนักพัฒนาแอปพลิเคชันทั่วโลก ในการผลิตแอปพลิเคชันยอดนิยม ทั้ง แอปฯ ด้านการท่องเที่ยว, การทำงาน, การศึกษา รวมถึงเกมต่างๆ รวมทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Petal Search ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยค้นหาแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Facebook Messenger หรือ Instagram

สำหรับใครที่เฝ้ารอ HUAWEI nova 7 5G อยู่ เตรียมเป็นเจ้าของได้ในเร็วๆ นี้ เพราะจะมีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/phones/  และสามารถติดตามโปรโมชันใหม่ๆ ได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/phones/

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

[บทความนี้เป็น Advertorial]


วันที่ : 14/7/2563

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy