สำหรับนวัตกรรมการชำระเงินล้ำยุคใหม่ล่าสุดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงนี้อย่าง Samsung Pay หากใครยังจำกันได้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางซัมซุงได้เปิดให้ลงทะเบียนทดลองใช้งานจริงกันไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ล่าสุดวันนี้ Samsung Pay นั้นได้เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการแล้วโดยไม่ต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยากอีกต่อไป พร้อมร้านค้า หรือพันธมิตรของ Samsung Pay ที่มากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงโปรโมชั่น หรือส่วนลดต่างๆ ที่มีให้เฉพาะการจ่ายผ่าน Samsung Pay เท่านั้น และแน่นอนว่าช่วงที่ผ่านมาทีมงานของเราก็มีโอกาสได้ลองชำระเงินค่าสินค้าต่างๆ ด้วย Samsung Pay แทนบัตรเครดิต หรือเงินสด ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็พบว่าในช่วงแรกๆ ของการเปิดให้บริการ Samsung Pay ในบ้านเรา ด้วยการที่ยังเป็นการชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่ผู้คน หรือร้านค้าส่วนใหญ่ในบ้านเรายังไม่คุ้นเคย ก็อาจจะมีอะไรติดขัดอยู่บ้าง ดังนั้นในฐานะที่ทีมงานได้มีโอกาสได้ลองใช้ Samsung Pay มาบ้างแล้ว จึงถือโอกาสนี้มาบอกเล่าประสบการณ์ที่พบเจอ และให้คำแนะนำบางอย่างแก่ทุกท่านที่กำลังสนใจจะมาร่วมใช้งาน Samsung Pay กันนะครับ
Samsung Pay คืออะไร?

แม้ว่าทางซัมซุง และสื่อต่างๆ จะพยายามประชาสัมพันธ์ Samsung Pay เพื่อให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีผู้บริโภคจำนวนมาก หรือแม้แต่พนักงานตามร้านค้ามากมายที่ยังไม่รู้จักกับ Samsung Pay ว่าคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะจริงๆ แล้ว Samsung Pay นั้นมีประโยชน์ และใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด สำหรับ Samsung Pay ว่ากันง่ายๆ ก็คือบริการชำระเงินผ่านทางสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานแทนบัตรเครดิตแบบเดิมๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องพกบัตรเครดิตให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป อีกทั้งมีความสะดวกง่ายดายกว่า และปลอดภัยมากกว่า โดย Samsung Pay นั้นดีตรงที่สามารถใช้งานกับเครื่องอ่านบัตรได้แทบทุกเครื่องในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหม่ หรือรุ่นเก่า เพราะรองรับทั้งเทคโนโลยี MST (Magnetic Secure Transmission) และ NFC (Near Field Communication) เรียกว่ามีความครอบคลุมเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการแตะเพื่อจ่ายแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้วิธีรูดเหมือนบัตรเครดิตพลาสติกแบบเดิมๆ คล้ายกับบริการ Visa payWave หรือ MasterCard Paypass ที่ใช้วิธีแตะแล้วจ่ายเช่นกัน (Contactless) และจะว่าไปแล้ว Samsung Pay ก็นับเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในบ้านเราที่ทำได้เต็มรูปแบบถึงระดับนี้
สมาร์ทโฟนรุ่นไหนใช้งาน Samsung Pay ได้บ้าง?


คำถามสำคัญที่ทุกคนต้องถามก็คือ สมาร์ทโฟนรุ่นไหนที่ใช้งาน Samsung Pay ได้บ้าง? ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คงมีทั้งคนที่ดีใจ และคนที่เสียดาย เพราะในช่วงแรกนี้มีสมาร์ทโฟนเพียง 9 รุ่นเท่านั้นที่รองรับการใช้งาน Samsung Pay โดยเป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปๆ รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung เองทั้งสิ้น ประกอบไปด้วย
Samsung Galaxy S7 edge
Samsung Galaxy S7
Samsung Galaxy S6 edge+
Samsung Galaxy Note5
Samsung Galaxy A7 (2016)
Samsung Galaxy A5 (2016)
Samsung Galaxy A7 (2017)
Samsung Galaxy A5 (2017)
Samsung Galaxy A3 (2017)
และอีกรุ่นที่คาดว่าจะใช้งานได้ในเร็วๆ นี้ก็คือ Samsung Galaxy A9 Pro สมาร์ทโฟนจอยักษ์แบตอึดรุ่นยอดนิยมนั่นเอง แต่ก็เชื่อว่าจะมีสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นใหม่ๆ ในอนาคตที่รองรับ Samsung Pay ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
Samsung Pay ใช้งานกับบัตรเครดิตใดได้บ้าง?

ช่วงปีที่ผ่านมาทางซัมซุงได้ทำงานอย่างหนักในการประสานงานกับบรรดาธนาคาร และสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อทำให้ Samsung Pay สามารถใช้งานร่วมกับบัตรเครดิตที่นิยมใช้งานกันในบ้านเราให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้ Samsung Pay สามารถใช้งานร่วมกับบัตรเครดิตรายใหญ่ในบ้านเราได้ทั้งหมด 6 ธนาคารแล้วดังนี้
- บัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย (KTC) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard ใช้งานได้ทันที
- บัตรเครดิตธนาคารซิตี้แบงค์ (CitiBank) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard ใช้งานได้ทันที
- บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard ใช้งานได้ทันที
- บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย (Kbank) เฉพาะแบบ VISA ใช้งานได้ทันที
- บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา (KCC) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard (เริ่มใช้งานได้ประมาณวันที่ 1 ธันวาคม 2559)
- บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ (BBL) เฉพาะแบบ MasterCard (เริ่มใช้งานได้ประมาณวันที่ 15 ธันวาคม 2559)
ซึ่งจะเห็นว่า Samsung Pay นั้นรองรับเฉพาะบัตรเครดิตรุ่นมาตรฐานของแต่ละธนาคารเท่านั้น ส่วนบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตแบบพิเศษอื่นๆ ของแต่ละธนาคารคงต้องรอกันไปก่อน
วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มบัตรเครดิตเข้า Samsung Pay
การเพิ่มบัตรเครดิตเข้า Samsung Pay สามารถทำได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Samsung Pay ที่มาพร้อมกับเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุดของสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับข้างต้น โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
 
การใช้งานแอปพลิเคชัน Samsung Pay ครั้งแรกต้องเลือกก่อนว่าจะใช้วิธีการตรวจสอบสิทธิ์แบบใด โดยเลือกได้ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ และการใส่ตัวเลข (PIN) ซึ่งทีมงานขอแนะนำให้ใช้เป็นแบบสแกนลายนิ้วมือ เพราะจะมีความปลอดภัยมากกว่า

การใช้งานแอปพลิเคชัน Samsung Pay ครั้งแรก แน่นอนว่าจะยังไม่มีบัตรเครดิตในระบบ ดังนั้นก็ให้เราทำการเพิ่มบัตรเครดิตเข้าไปในระบบเสียก่อน โดยการกดที่ Add Credit Cards

มีรายละเอียดเงื่อนไขการให้บริการมาให้อ่านทำความเข้าใจ ซึ่งหากไม่ติดขัดอะไรก็ให้กด Agree to All หรือยอมรับ ได้ทันที
 
โดยขั้นตอนต่อไปแอปพลิเคชันจะให้ใช้กล้องถ่ายรูปส่องไปที่หน้าบัตรเครดิต เพื่อทำการสแกนตัวเลข และรายละเอียดต่างๆ บนหน้าบัตร ซึ่งเมื่อสแกนสำเร็จแล้ว ข้อมูลบนหน้าบัตรก็จะมาปรากฏอยู่ในช่องแบบฟอร์ม เพื่อให้เราตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง และเมื่อข้อมูลถูกต้องแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการยืนยันตัวตน (Verify) โดยเลือกได้ทั้งวิธีส่งข้อความ SMS และการคุยโทรศัพท์กับธนาคารโดยตรง ซึ่งกรณีที่เลือกวิธีส่งข้อความ SMS ระบบก็จะส่งรหัสตัวเลขยืนยันตัวตนเป็นข้อความ SMS มายังสมาร์ทโฟนของเรา แล้วให้เรากรอกตัวเลขดังกล่าวเพื่อเป็นการยืนยันตัวตน
 
กำหนดลายเซ็นของเราที่ต้องใช้เซ็นในสลิปบัตรเครดิตเวลาที่ชำระเงินค่าสินค้าด้วย Samsung Pay
 
เพียงเท่านี้บัตรเครดิตของเราก็เข้ามาอยู่ในระบบ Samsung Pay เรียบร้อยแล้ว และพร้อมใช้งานได้ทันที
 
สามารถตรวจสอบประวัติการใช้จ่ายต่างๆ ของบัตรเครดิตแต่ละใบ ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Pay ได้ทันที

เมื่อต้องการใช้งานก็เพียงแค่เลื่อนจากแถบด้านล่างของหน้าจอขึ้นมา แล้วสแกนลายนิ้วมือ หรือใส่ตัวเลข PIN เพื่อยืนยันตัวตน
 
หลังจากตรวจสอบสิทธิ์แล้ว เครื่องก็จะส่งสัญญาณ NFC หรือ MST ของบัตรเครดิตใบนั้นๆ ออกมา เพื่อนำไปแตะกับเครื่องอ่านบัตรที่ร้านค้า โดยแต่ละครั้งจะมีเวลาจำกัดเพียง 30 วินาทีเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
 
เราสามารถกำหนดให้แถบทางลัดของบัตรเครดิตแสดงได้ทั้งบนหน้าจอล็อก (Lock Screen), หน้าโฮม (Home Screen) และในขณะที่ปิดหน้าจอ (Screen Off)
วิธีง่ายๆ สำหรับใครที่ยังเพิ่มบัตรเครดิตกสิกรไทยเข้า Samsung Pay ไม่ได้

หนึ่งในปัญหาที่ทีมงานได้เจอโดยตรง และเชื่อว่าผู้ใช้งานอีกหลายๆ ท่านก็คงเจอเช่นเดียวกัน คือไม่สามารถเพิ่มบัตรเครดิตของกสิกรไทยได้ โดยมีข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาว่า "Registration Failed" แต่ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก เพราะจริงๆ แล้วเกิดจากเงื่อนไขพิเศษบางอย่างของธนาคารกสิกรไทยนั่นเอง

เงื่อนไขดังกล่าวก็คือผู้ที่ต้องการลงทะเบียนใช้งานบัตรเครดิตกสิกรไทยผ่านทาง Samsung Pay จะต้องผูกบัตรเครดิตกสิกรไทยเข้ากับบริการ K-Mobile Banking Plus ให้เรียบร้อยเสียก่อน (ก่อนหน้านี้บัตรเครดิตกสิกรของทีมงานไม่เคยผูกกับ K-Mobile Banking Plus เอาไว้) ซึ่งทุกท่านสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยทีมงานได้เลือกดำเนินการผ่านทางตู้ ATM ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยาก หรือหากไม่แน่ใจก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกสิกรไทยได้
 
 
เมื่อทีมงานได้ทำการผูกบัตรเครดิตกสิกรไทยเข้ากับบริการ K-Mobile Banking Plus เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเพิ่มบัตรเครดิตกสิกรไทยเข้าระบบของ Samsung Pay ได้ตามปกติ
การใช้งาน Samsung Pay เพื่อชำระค่าสินค้าทำอย่างไร?
หลังจากที่ทีมงานได้ใส่บัตรเครดิตเข้าไปในระบบ Samsung Pay เรียบร้อยแล้ว (เครื่องที่ทีมงานใช้คือ Samsung Galaxy S7 edge) ก็ได้นำออกไปทดลองใช้ซื้อสินค้าตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองมาสักระยะหนึ่งก็ทำให้ได้ทราบถึงขั้นตอนวิธีการในโลกแห่งความเป็นจริง พร้อมทั้งปัญหาเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างที่ได้พบเจอ จึงถือโอกาสนี้มาบอกเล่าประสบการณ์ในการใช้งาน Samsung Pay ในประเทศไทย ให้ทุกท่านได้ทราบกัน
 
เมื่อสังเกตที่ขอบหน้าจอด้านล่าง ก็จะพบว่ามีแถบทางลัดของบัตรเครดิตพร้อมให้เราสามารถสไลด์ขึ้นมาใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา ทั้งในหน้าโฮม (Home Screen), หน้าจอล็อก (Lock Screen) และในขณะที่ปิดหน้าจออยู่ (Screen Off) (ในขณะที่ปิดหน้าจอจะไม่เห็นแถบทางลัดนี้ แต่สามารถสไลด์นิ้วจากขอบหน้าจอด้านล่างขึ้นมาเพื่อเรียกใช้บัตรเครดิตได้ตามปกติ)
 

เมื่อสไลด์เลื่อนบัตรเครดิตที่ต้องการใช้งานขึ้นมาแล้ว ก็ให้ทำการยืนยันการชำระเงินด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเมื่อทำการยืนยันเรียบร้อยแล้ว เครื่องจะส่งสัญญาณ NFC และ MST ออกมาเป็นเวลาทั้งสิ้น 30 วินาที (หากเกิน 30 วินาทีต้องมีการยืนยันใหม่อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย) จากนั้นให้เรานำด้านหลังของตัวเครื่องไปแตะกับเครื่องอ่านบัตรเพื่อชำระเงิน โดยในฝั่งของร้านค้าก็ต้องทำการกดยอดค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระลงบนเครื่องอ่านบัตรของตนเองด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างของการแตะสมาร์ทโฟนกับเครื่องอ่านบัตรเครดิตเพื่อยืนยันการชำระค่าสินค้า โดยให้ถือตัวเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากเครื่องอ่านบัตรในระยะไม่เกิน 5 เซนติเมตร

เมื่อขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้น ทางร้านค้าก็จะนำสลิปบัตรเครดิตที่พิมพ์ออกมาจากเครื่องมาให้เราเซ็นชื่อตามปกติ เช่นเดียวกันกับการชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิตในอดีตที่น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่คราวนี้เราไม่ต้องพกบัตรเครดิตให้หนักกระเป๋า และไม่ต้องให้ร้านค้าเห็นตัวเลขบัตรเครดิตของเราอีกต่อไป

เครื่องอ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยนั้นมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ บางรุ่นอาจรองรับเทคโนโลยี MST (Magnetic Secure Transmission) และบางรุ่นอาจรองรับเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหา เพราะ Samsung Pay นั้นรองรับได้ทั้งสองเทคโนโลยี

ตัวอย่างหนึ่งที่ทีมงานขอยกมาเล่าสู่กันฟังก็คือการซื้อสินค้าที่ Gourment Market สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ถือว่าเป็นห้างสรรพสินค้าระดับชั้นนำห้างหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ส่วน Gourment Market ก็นับเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมเลยทีเดียว และที่สำคัญคือ Gourment Market นั้นถูกประกาศเป็นหนึ่งในร้านค้าแนะนำของ Samsung Pay ดังนั้นทีมงานจึงค่อนข้างมั่นใจว่า Samsung Pay น่าจะใช้งานที่นี่ได้อย่างแน่นอน โดยทีมงานได้เลือกใช้บัตรเครดิตกสิกรไทยบน Samsung Pay ในการชำระค่าสินค้า และเครื่องอ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยที่ Gourment Market เลือกใช้งานก็คือเครื่องอ่านบัตรที่มีลักษณะดังรูปด้านบนนี้นั่นเอง

เมื่อเลือกสินค้าที่ต้องการซื้อได้แล้ว ทีมงานก็ไม่รอช้า รีบเดินตรงดิ่งไปชำระเงินที่แคชเชียร์ทันที พร้อมกับคำถามที่ว่า "ที่นี่รับชำระเงินด้วย Samsung Pay มั้ยครับ?" ผลปรากฏว่าพนักงานแคชเชียร์ท่านแรกกลับไม่ทราบว่า Samsung Pay คืออะไร โดยทีมงานก็ช่วยอธิบายคร่าวๆ ว่า "Samsung Pay เป็นระบบใหม่ ใช้แทนบัตรเครดิตได้เลยครับ แค่แตะสมาร์ทโฟนเข้ากับเครื่องอ่านบัตร พอจะมีใครมาประชาสัมพันธ์ไว้บ้างมั้ยครับ?" พนักงานท่านนี้ก็ดูเหมือนยังไม่แน่ใจ จนต้องหันไปสอบถามพนักงานอีกท่านที่ดูเหมือนจะเป็นระดับหัวหน้า ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่พนักงานระดับหัวหน้าท่านนั้นรู้จัก Samsung Pay และแจ้งว่าสามารถใช้ได้ แต่ก็ต้องมีการสอนขั้นตอนวิธีการให้พนักงานท่านแรกเข้าใจกันอยู่พักหนึ่งจึงจะสามารถชำระเงินด้วย Samsung Pay ได้สำเร็จ สุดท้ายเมื่อทีมงานหันไปดูด้านหลังก็พบว่ามีลูกค้าต่อคิวรออยู่พอสมควรเนื่องจากต้องใช้เวลาทำความเข้าใจขั้นตอนกันอยู่สักหน่อย และรู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ดี เท่าที่ทีมงานได้ทดลองใช้ Samsung Pay ในระยะหลังๆ ก็พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่เกินครึ่งนั้นสามารถรับชำระค่าสินค้าผ่าน Samsung Pay ได้จนเสร็จสิ้น (แม้บางร้านค้าอาจมีติดขัด หรือข้อสงสัยอยู่บ้าง) จะมีเป็นส่วนน้อยที่ไม่รับชำระค่าสินค้าด้วย Samsung Pay สรุปแล้วทางร้านค้าในบ้านเราก็อาจต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับ Samsung Pay กันอีกสักระยะหนึ่ง และเชื่อว่าในอนาคตเมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น อะไรต่างๆ ก็คงเข้าที่เข้าทางมากขึ้นตามลำดับ
Samsung Pay ใช้งานที่ไหนได้บ้าง?
นับจากช่วงแรกของการเปิดให้ทดลองใช้งาน Samsung Pay มาจนถึงตอนนี้ ก็จะเห็นว่ามีร้านค้าต่างๆ เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผิดจากช่วงแรกๆ ที่มีอยู่ไม่มากนัก ซึ่งร้านค้าพันธมิตรเหล่านี้ ผู้ซื้อสามารถชำระค่าสินค้าด้วย Samsung Pay ได้อย่างมั่นใจ โดยล่าสุดทางซัมซุงได้ประกาศรายชื่อร้านค้าที่แนะนำสำหรับใช้งานร่วมกับ Samsung Pay ออกมามากมายดังต่อไปนี้
 
ร้านค้าประเภท Fashion & Shopping
ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า) ได้แก่
- เดอะมอลล์รามคำแหง
- เดอะมอลล์ท่าพระ
- เดอะมอลล์บางแค
- เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
- เดอะมอลล์บางกะปิ
- เดอะมอลล์นครราชสีมา
ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)
ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)
ห้างสรรพสินค้า พารากอน (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)
ห้างสรรพสินค้า บลูพอร์ต หัวหิน (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า
Zara ทุกสาขา ได้แก่
- เซ็นทรัสพลาซ่าลาดพร้าว
- เดอะมอลล์บางกะปิ
- เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
- เซ็นทรัลเวิลด์
- เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
- พารากอน
- ดิ เอ็มควอเทียร์
- เมกะบางนา
- เซ็นทรัลเฟสติวอลพัทยา
- เซ็นทรัลเฟสติวอลเชียงใหม่
H&M ทุกสาขา ได้แก่
- พารากอน
- เซ็นทรัลเวิลด์
- เดอะมอลล์บางกะปิ
- แฟชั่นไอซ์แลนด์
- เซ็นทรัลเฟสติวอลภูเก็ต
- เซ็นทรัลเฟสติวอลเชียงใหม่
- เดอะมอลล์บางแค
- เซ็นทรัลพลาซ่าเว็ส์ทเกต
- เทอร์มินอล 21
- ดิ เอ็มควอเทียร์
- เดอะมอลล์นครราชสีมา
- พาราไดสซ์ปาร์ค
- เมกะบางนา
- เซ็นทรัลพลาซ่าบางนา
- สเปลล์ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
- เซ็นทรัลเฟสติวอลพัทยา
- เซ็นทรัลเฟสติวอลหาดใหญ่
- บลูพอร์ต หัวหิน
- เดอะคริสตอลมอลล์
Massimo Dutti ทุกสาขา ได้แก่
- พารากอน
- ดิ เอ็มควอเทียร์
- เซ็นทรัลเวิลด์
- เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
Etude สาขา Digital Gateway
Innisfree ทุกสาขา ได้แก่
- สยามสแควร์
- เมกะบางนา
- ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
- เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
- เซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต
ร้านค้าประเภท Food & Baverages
Dean & Deluca ทุกสาขา ได้แก่
- มหานคร
- ปาร์ค เวนเจอร์
- สาทร สแควร์
- เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
- ดิ เอ็มควอเทียร์
- เดอะ คริสตอลปาร์ค
เชสเตอร์ กริลล์ 3 สาขา ได้แก่
- ซีพี ทาวเวอร์
- สยามสแควร์
- เซ็นจูรี่ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)
ร้านค้าประเภท Supermarket
Gourmet Market ทุกสาขา ได้แก่
- บลูพอร์ต หัวหิน
- ดิ เอ็มโพเรียม
- ดิ เอ็มควอเทียร์
- พารากอน
- เทอร์มินอล 21
- เดอะคริสตอล เอสบีราชพฤกษ์
- เดอะมอลล์บางกะปิ
- เดอะมอลล์นครราชสีมา
- เดอะ พรอมานาด
Home Fresh Mart ทุกสาขา ได้แก่
- เดอะมอลล์บางแค
- เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
- เดอะมอลล์รามคำแหง
- เดอะมอลล์ท่าพระ
และนอกจากบรรดาร้านค้าตามรายชื่อข้างต้นแล้ว แน่นอนว่าในอนาคตก็จะมีร้านค้าพันธมิตรที่สามารถใช้งาน Samsung Pay ได้อย่างมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ซึ่งทีมงานจะนำมาอัปเดตให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
Samsung Pay ใช้งานที่ต่างประเทศได้หรือไม่?
แทบทุกคนที่มีบัตรเครดิต เวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศก็มักจะมีโอกาสได้ใช้บัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้า หรือบริการในต่างประเทศ ซึ่ง Samsung Pay ก็สามารถใช้งานที่ต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้าแทนบัตรเครดิตได้เช่นกัน เพียงแต่จำกัดเฉพาะบางประเทศที่เปิดตัวบริการ Samsung Pay แล้วเท่านั้น ได้แก่เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, จีน, สเปน, ออสเตรเลีย, เปอร์โตริโก, บราซิล และสิงคโปร์ ส่วนประเทศอื่นๆ ทางซัมซุงกำลังดำเนินการขยายการให้บริการต่อไปในอนาคต และสำหรับการใช้งาน Samsung Pay ในต่างประเทศ ท่านก็ควรตรวจสอบเงื่อนไขการใช้งานบัตรเครดิตในต่างประเทศกับธนาคารผู้ออกบัตรของท่านให้ดีเสียก่อน
Samsung Pay ปลอดภัยจริงหรือไม่?

หนึ่งในคำถามที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้งาน Samsung Pay ก็คือ "มีความปลอดภัยจริงหรือไม่" ซึ่งจากที่ทีมงานได้ทราบถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของระบบรักษาความปลอดภัยของบริการ Samsung Pay ที่มีอยู่ถึง 3 ระดับ จึงมั่นใจเต็ม 100% ว่าข้อมูลสำคัญต่างๆ ของผู้ใช้งานจะมีความปลอดภัยในระดับสูง โดยเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย 3 ระดับของบริการ Samsung Pay นั้นประกอบไปด้วย

ระบบ Tokenization ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก VISA และ MasterCard ซึ่งใช้วิธีแปลงบัญชีข้อมูลส่วนบุคคลให้กลายเป็น Token แล้วจึงค่อยนำ Token ไปใช้ในการชำระเงินแทนการใช้ข้อมูลบัญชีส่วนตัวโดยตรง โดยหมายเลขบัตรเครดิตจริงๆ ของเราจะถูกแทนที่ด้วย Device Card Number

การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ หรือเลขรหัส PIN ซึ่งมีแต่เจ้าของลายนิ้วมือเท่านั้นที่จะสามารถยืนยันการจ่ายได้

Samsung KNOX แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยระดับโลก ด้วยระบบความปลอดภัยที่ถูกฝังมากับฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของสมาร์ทโฟนแต่ละเครื่อง
โปรโมชั่นที่น่าสนใจเมื่อชำระเงินผ่าน Samsung Pay มีอะไรบ้าง?
 
แน่นอนว่าช่วงโปรโมต Samsung Pay แบบนี้ ก็ย่อมจะมีโปรโมชั่นพิเศษมาดึงดูดผู้ใช้งานมากเป็นพิเศษ ซึ่งเท่าที่ทีมงานได้สำรวจโปรโมชั่นใหม่ล่าสุดของ Samsung Pay ก็นับว่ามีหลายโปรโมชั่นที่คุ้มค่าน่าสนใจซึ่งอาจหาไม่ได้จากการใช้บัตรเครดิตพลาสติกแบบเดิมๆ เรียกได้ว่าเป็นนาทีทองสำหรับผู้ใช้งาน Samsung Pay เลยทีเดียว เช่น
- ซื้อ 1 ฟรี 1 บัตรชมภาพยนตร์ ที่โรงภาพยนต์ในเครือ เอส เอฟ ซีนีม่า เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิต KTC MasterCard ผ่าน Samsung Pay
- รับคะแนนสะสม 5 เท่า เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้ ผ่าน Samsung Pay ครบทุก 1,000 บาท
- รับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อใช้บัตรเครดิต KTC VISA หรือ MasterCard บน Samsung Pay
- H&M รับเครดิตเงินคืน 150 เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้ ผ่าน Samsung Pay ครบทุก 3,000 บาท
- Zara และ Massimo Dutti รับเครดิตเงินคืน 5% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้ ผ่าน Samsung Pay ครบทุก 5,000 บาท
- Dean&Deluca รับฟรีขนม 1 ชิ้น เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้ ผ่าน Samsung Pay ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป


อย่างไรก็ดี ท่ามกลางโปรโมชั่นพิเศษมากมายสำหรับผู้ใช้งาน Samsung Pay ในอีกด้านหนึ่งก็มีเงื่อนไขของการชำระเงินผ่าน Samsung Pay ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับส่วนลด, วงเงินสูงสุด, การผ่อนชำระ, การสะสมคะแนนบัตรเครดิต และอื่นๆ ซึ่งท่านควรอ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนใช้บริการ
Samsung Gear S3 รองรับการใช้งานบริการ Samsung Pay ได้หรือไม่?

ดูเหมือนว่าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Samsung ในประเทศไทยจะดีใจอยู่ได้ไม่กี่วัน กับข่าวที่ว่า Samsung Gear S3 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดจะเข้ามาเป็นตัวช่วยที่ทำให้สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat ขึ้นไปสามารถใช้งานบริการ Samsung Pay ได้ด้วย เพราะล่าสุดวันนี้ ซัมซุง (ประเทศไทย) ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า Samsung Gear S3 ในประเทศไทยนั้นไม่รองรับการใช้งาน Samsung Pay อย่างแน่นอน ซึ่งทีมงานก็ขอถือโอกาสนี้นำข้อมูลสำคัญข้างต้นมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบโดยทั่วกันเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
สรุปข้อดี และจุดที่ยังพัฒนาได้ต่อสำหรับ Samsung Pay ในประเทศไทย

หลังจากที่ทีมงานได้มีโอกาสใช้งานบริการ Samsung Pay มาตัั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เปิดให้ทดลองใช้งาน จนถึงตอนนี้ที่เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการโดยไม่ต้องลงทะเบียนก็ได้รับประสบการณ์หลายๆ อย่างจากการใช้งานจริง ซึ่งโดยสรุปแล้ว ด้วยตัวเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังของ Samsung Pay นั้นเรียกได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบในตัวเอง, รองรับการใช้งานกับเครื่องอ่านบัตรของร้านค้าในบ้านเราได้แทบทุกเครื่อง และมีความปลอดภัยในระดับสูง เพียงแต่ในการนำมาใช้งานจริงนั้นยังมีสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบรรดาร้านค้าต่างๆ รวมถึงในฝั่งของผู้ใช้งานในประเทศไทย ให้เกิดความมั่นใจ และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อย่างบริการ Samsung Pay นี้
สรุปข้อดีของ Samsung Pay
- ช่วยให้การชำระค่าสินค้า หรือบริการง่ายขึ้น เพียงแค่พกสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว และไม่ต้องคอยพกบัตรเครดิตหลายๆ ใบให้แน่นกระเป๋าเหมือนเคย
- สามารถใช้งานแทนบัตรเครดิตได้จริง และตัวของแอปพลิเคชัน Samsung Pay สามารถใช้งานได้ง่าย
- มีความปลอดภัยที่สูงกว่าการใช้งานบัตรเครดิตแบบเดิมๆ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย 3 ชั้น ตั้งแต่ระบบ Tokenization, การสแกนลายนิ้วมือ หรือใส่ตัวเลข PIN และ Samsung KNOX
- ร้านค้าไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเลขบัญชีบัตรเครดิต หรือเลขสามตัวหลังบัตรจริงๆ เหมือนการใช้บัตรเครดิตปกติ
- รองรับทั้งเทคโนโลยี NFC และ MST จึงสามารถใช้งานได้กับเครื่องอ่านบัตรเครดิตแทบทุกเครื่องในประเทศไทย (ส่วนใหญ่กว่า 94% เป็นแบบ MST) ซึ่งต่างจาก Apple Pay และ Android Pay ที่รองรับแค่เทคโนโลยี NFC เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และที่สำคัญคือเครื่องอ่านบัตรเครดิตในประเทศไทยที่รองรับ NFC นั้นมีอยู่แค่ราว 6% เท่านั้น
- สามารถลงทะเบียนบัตรเครดิตได้สูงสุด 10 ใบภายในเครื่องเดียวกัน
- มีโปรโมชั่นพิเศษมากมายสำหรับผู้ที่ชำระเงินผ่านบริการ Samsung Pay เท่านั้น
- สามารถนำไปใช้งานในต่างประเทศได้ (เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, จีน, สเปน, ออสเตรเลีย, เปอร์โตริโก, บราซิล และสิงคโปร์)
- ในขั้นตอนของการชำระเงินไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
สรุปข้อสังเกต และจุดที่ยังพัฒนาได้ต่อสำหรับ Samsung Pay
- จำนวนร้านค้า หรือพนักงานที่รู้จัก และมีความเข้าใจในบริการ Samsung Pay ในประเทศไทยยังมีอยู่น้อย ผู้ใช้งานอาจต้องใช้เวลาอธิบายให้เข้าใจอยู่บ่อยครั้ง
- จำนวนร้านค้าที่รับรองการใช้งานบริการ Samsung Pay อย่างเป็นทางการยังมีไม่มากนัก
- สมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานบริการ Samsung Pay ยังมีจำนวนน้อยรุ่น และยังใช้ได้เฉพาะสมาร์ทโฟน Samsung เท่านั้น
- ในช่วงแรกๆ ผู้ใช้งานอาจต้องพกบัตรเครดิตจริงๆ ติดตัวไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้งานบัตรเครดิตได้กับทุกร้านค้าตามปกติ
- ในกรณีที่ต้องชำระเงินกับร้านอาหาร หรือการซื้อของในห้างสรรพสินค้า ที่ปกติต้องมีพนักงานมารับบัตรเครดิตไปรูดที่แคชเชียร์ ผู้ใช้งานอาจต้องเดินตามไปแตะสมาร์ทโฟนที่เครื่องอ่านบัตรที่แคชเชียร์ด้วยตนเอง เนื่องจากข้อมูลที่เข้ารหัสไว้จะมีอายุใช้งานเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น
- ยังใช้ร่วมกับบัตรเดรดิตได้ไม่ครบทุกธนาคาร
- บางธนาคารใช้งานได้เฉพาะบัตรเครดิตตัวมาตรฐาน บัตรเครดิตร่วมต่างๆ อาจยังใช้งานไม่ได้
- ยังใช้งานร่วมกับบัตรเดบิตไม่ได้
- สามารถแสดงประวัติการชำระเงินย้อนหลังได้ไม่เกิน 10 รายการ

แม้จะดูเหมือนว่าบริการ Samsung Pay นวัตกรรมการจ่ายเงินรูปแบบใหม่ล่าสุดนี้ จะยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่ยังไม่เข้าทีเข้าทาง แต่ก็นับเป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับสิ่งใหม่หลายๆ อย่างที่ผู้บริโภคต้องใช้เวลาในการเปิดใจยอมรับ สุดท้ายนี้ทีมงานก็เชื่อว่าเมื่อแต่ละฝ่ายแต่ละคนเริ่มเห็นประโยชน์ของ Samsung Pay และบริการ Samsung Pay ถูกจัดการให้เข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ พอนานวันเข้าก็จะเริ่มเกิดการแชร์ประสบการณ์ดีๆ แบบปากต่อปาก เกิดเป็นความน่าสนใจ เกิดเป็นความอยากลอง และถูกใช้งานในวงกว้างมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : Samsung Pay
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 23/11/59
|