ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม บทความโทรศัพท์มือถือน่าสนใจ >> Samsung Pay นวัตกรรมการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนสุดล้ำแบบไม่ต้องพกบัตร เปิดใช้งานในไทยแล้ววันนี้! จะใช้งานอย่างไร มีความปลอดภัยหรือไม่ และใช้กับบัตรใดได้บ้าง เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!


Samsung Pay นวัตกรรมการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนสุดล้ำแบบไม่ต้องพกบัตร เปิดใช้งานในไทยแล้ววันนี้! จะใช้งานอย่างไร มีความปลอดภัยหรือไม่ และใช้กับบัตรใดได้บ้าง เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!



 

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบทีมงาน Thaimobilecenter กับนานาสาระน่ารู้ และข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนกันอีกครั้งนะครับ หากท่านใดที่ติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนมาบ้าง คงจะเคยได้ยินชื่อของ Samsung Pay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่ใช้เพียงสมาร์ทโฟนของ Samsung หนึ่งเครื่องในการจ่ายเงินเท่านั้น โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องพกบัตรให้ยุ่งยากมากมาย ซึ่งระบบ Samsung Pay นี้เปิดให้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกากันตั้งแต่ช่วงปี 2015 ที่ผ่านมาแล้ว และได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีจากผู้ใช้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสะบาย, ความง่ายในการใช้งาน และความปลอดภัย และล่าสุดบริการ Samsung Pay นวัตกรรมการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่นี้ก็พร้อมให้ใช้งานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
 


บริการ Samsung Pay เผยโฉมให้ผู้ใช้ในประเทศไทยได้รู้จักกันภายในงาน Thailand Mobile Expo 2016 ครั้งที่ผ่านมา โดยประเทศไทยยังเป็นกลุ่มประเทศแรกๆ ที่ได้ใช้งาน Samsung Pay ด้วย และทาง Samsung ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ที่สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานกันเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และในขณะนี้บริการ Samsung Pay ก็พร้อมเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว เราจึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับบริการนี้ พร้อมทั้งดูรายละเอียดกันว่า ทำไม Samsung Pay ถึงตีตลาด E-Wallet จาก Apple Pay และ Android Pay ได้อย่างรวดเร็ว หากพร้อมแล้วติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

 

Samsung Pay คืออะไร?


Samsung Pay เป็นบริการการชำระเงินรูปแบบใหม่ของ Samsung ซึ่งใช้สมาร์ทโฟนในการสร้างบัตรเสมือนขึ้นมาทดแทนการใช้งานบัตรเครดิต (บัตรแข็ง) ในชีวิตประจำวัน โดยการใช้งานเบื้องต้นก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ผู้ใช้เพิ่มรายละเอียดของบัตรเครดิตลงไป และ Verify ตัวตนเรียบร้อยแล้วก็พร้อมใช้งานทันที

แม้ว่า Samsung Pay จะมาทีหลัง Apple Pay และ Android Pay แต่ Samsung Pay กลับได้รับความนิยมค่อนข้างมากกว่า เพราะบริการ Samsung Pay รองรับเครื่องชำระเงินที่ครอบคลุมมากกว่าทั้งสองแบบก่อนหน้า คือ Samsung Pay รองรับการใช้งาน NFC (Near Field Communication) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีมาตรฐาน กับอีกเทคโนโลยีหนึ่งคือ MST (Magnetic Secure Transmission) ซึ่งใช้งานกับเครื่องรูดบัตรแบบแถบแม่เหล็ก (ที่ต้องนำบัตรเครดิตไปรูดด้านข้างตัวเครื่อง) ซึ่งจำนวนผู้ค้ารายย่อยเกือบทุกแห่งมักจะใช้งานเครื่องรูดบัตรแบบแถบแม่เหล็กนี้เป็นส่วนใหญ่ แตกต่างกับ Apple Pay และ Android Pay ที่รองรับเพียง NFC นั้นยังใช้งานได้ไม่ครอบคลุมเท่ากับ Samsung Pay นั่นเอง

 

Samsung Pay รองรับมือถือรุ่นใดบ้าง?


ในขณะนี้บริการ Samsung Pay รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนของ Samsung ดังนี้

- Samsung Galaxy S7 edge
- Samsung Galaxy S7
- Samsung Galaxy Note5
- Samsung Galaxy S6 edge+
- Samsung Galaxy A9 Pro (เร็วๆ นี้)
- Samsung Galaxy A7 (2016)
- Samsung Galaxy A5 (2016)

 


สำหรับท่านใดที่สนใจอยากใช้งานก็ทำตามขั้นตอนได้ง่ายๆ โดยกดอัปเดตเฟิร์มแวร์ (Firmware) ของตัวเครื่องให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพราะทาง Samsung จะปล่อยตัวแอปพลิเคชันมาให้ผ่านการอัปเดตเพื่อให้ใช้งานได้ตรงกับรุ่นที่รองรับ จากนั้นกรอกรายละเอียดของบัตรที่ต้องการใช้งาน พร้อมยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย ก็สามารถนำสมาร์ทโฟน Samsung ภายในมือไปใช้งาน Samsung Pay ได้ทันที โดยวิธีการใช้งานมี 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

- ปัดนิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเรียกใช้งาน Samsung Pay
- สแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันการชำระเงิน
- แตะสมาร์ทโฟนที่เครื่องชำระเงิน


เพียง 3 ขั้นตอนเท่านี้ก็สามารถชำระเงิน หรือใช้จ่ายในแบบอื่นๆ ด้วย Samsung Pay ได้เรียบร้อยแล้ว

 

Samsung Pay ปลอดภัยแค่ไหน?

แม้โลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้จะมีการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์กันอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีข่าวคราวการจารกรรมข้อมูล หรือเรียกง่ายๆ ว่า แฮ็กข้อมูลด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งข้อมูลทางการเงินแบบออนไลน์ หรือบัญชีออนไลน์นั้นก็เป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพเช่นกัน จึงทำให้ผู้ใช้บางคนอาจกังวลว่า แล้วการใช้งาน Samsung Pay ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของบัตรเครดิต และบัญชีออนไลน์ที่สำคัญเช่นนี้จะมีความปลอดภัยหรือไม่ เรามาชมรายละเอียดมาตรการความปลอดภัยถึง 3 ชั้นของ Samsung Pay ไปพร้อมๆ กันครับ
 

1. เทคโนโลยี Tokenization


การเชื่อมต่อบัตรเครดิตของผู้ใช้กับระบบ Samsung Pay นั้นจะใช้งานอยู่บนเทคโนโลยี Tokenization โดยเทคโนโลยีนี้จะใช้การแปลงหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลักของบัตรจริงที่กรอกข้อมูลไว้ในตอนแรกมาเป็นเลขชุดพิเศษ แล้วใช้เลขชุดพิเศษนั้นทำรายการต่างๆ รวมถึงการชำระเงินด้วยเช่นกัน ซึ่งการใช้งานบนระบบ Token นี้จะเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เพราะข้อมูลบัตรจริงของผู้ใช้จะถูกยืนยันเฉพาะการลงทะเบียนบัตรครั้งแรกเท่านั้น และ Samsung Pay ไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ ก็ตามไว้ในเครื่อง เพราะมีบัตรเสมือน (Virtual Credit Card) อยู่ในแอปพลิเคชันอยู่แล้ว ดังนั้น แม้ว่ามือถือเครื่องนั้นจะถูกมิจฉาชีพนำไป ก็ไม่สามารถนำเลขบัตรจริง 16 หลักไปได้ หรือแม้แต่เลขของบัตรเสมือนก็ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะถูกผูกอยู่กับรหัส Token ในระบบนั่นเอง

 

2. Samsung Knox


ในช่วงหลังมานี้ เวลา Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เราก็มักจะได้ยินชื่อของ Samsung Knox ตามมาด้วย ซึ่งระบบ Samsung Knox นี้เป็นแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยอย่างหนึ่งของ Samsung ที่มีไว้จัดการข้อมูลต่างๆ บนสมาร์ทโฟนของ Samsung โดยเฉพาะข้อมูลที่ถูกจัดเป็นข้อมูลสำคัญ หรือข้อมูลส่วนตัว ตัวระบบก็จะมีการป้องกันการส่งออกข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือป้องกันข้อมูลจากการจารกรรมด้วยเช่นกัน ซึ่งแพลตฟอร์มนี้มีความปลอดภัยสูงมาก และถูกฝังมากับฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของสมาร์ทโฟน ดังนั้น บริการ Samsung Pay จึงมี Samsung Knox เป็นกำแพงด้านความปลอดภัยในขั้นที่ 2 ด้วย

 

3. User Authentication


หากพูดถึงสิ่งที่จะสามารถจำแนกบุคคลแต่ละคนออกจากกัน หรือสิ่งที่มนุษย์มีไม่เหมือนกันเลย นั่นก็คือ ลายนิ้วมือ ซึ่งลายนิ้วมือนี้ก็ถูกนำมาเป็นรหัสผ่านชั้นเลิศสำหรับการใช้งานอุปกรณ์สำคัญอย่าง สมาร์ทโฟน ได้หลายปีแล้ว และมีการพัฒนาให้ใช้ลายนิ้วมือในการยืนยันข้อมูลสำคัญต่างๆ ด้วย โดย Samsung Pay ก็ป้องกันการใช้งานจากมิจฉาชีพด้วยการบังคับให้ยืนยันข้อมูลการชำระเงินด้วยลายนิ้วมือของผู้ใช้ หรือการใส่รหัสผ่านแบบ PIN ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้ใช้เท่านั้นสามารถดำเนินการได้ และลายนิ้วมือก็เป็นกำแพงขั้นที่ 3 ของระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดของ Samsung Pay

 

Samsung Pay รองรับการใช้งานบัตรเครดิตธนาคารใดบ้างในประเทศไทย และสามารถใช้จ่ายที่ไหนได้บ้างในปัจจุบัน?


สำหรับบัตรเครดิตของธนาคารในประเทศไทยที่รองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung Pay ในขณะนี้จะมีทั้งหมด 6 ธนาคารด้วยกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- ธนาคารกรุงไทย (KTC) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard ใช้งานได้ทันที
- ธนาคารซิตี้แบงค์ (CitiBank) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard ใช้งานได้ทันที
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard ใช้งานได้ทันที
- ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) เฉพาะแบบ VISA
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (KCC) ทั้งแบบ VISA และ MasterCard โดยเริ่มใช้งานได้ประมาณวันที่ 1 ธันวาคม 2559
- ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เฉพาะแบบ MasterCard โดยเริ่มใช้งานได้ประมาณวันที่ 15 ธันวาคม 2559

* หมายเหตุ - ขณะนี้ Samsung Pay สามารถใช้งานร่วมกับบัตรเครดิตได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนบัตรเดบิต และบัตรเครดิตแบบอื่นคาดว่าจะรองรับในเร็วๆ นี้
 

สำหรับห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ที่รองรับการใช้งาน Samsung Pay ทั้งหมดในประเทศไทย มีดังนี้

ห้างสรรพสินค้า

• ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า) ได้แก่
          o เดอะมอลล์รามคำแหง
          o เดอะมอลล์ท่าพระ
          o เดอะมอลล์บางแค
          o เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
          o เดอะมอลล์บางกะปิ
          o เดอะมอลล์นครราชสีมา
• ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)
• ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)
• ห้างสรรพสินค้า พารากอน (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)
• ห้างสรรพสินค้า บลูพอร์ต หัวหิน (ทุกเคาน์เตอร์ชำระเงินในโซนห้างสรรพสินค้า)

 

ซุปเปอร์มาร์เกต

• Gourmet Market ทุกสาขา ได้แก่
          o บลูพอร์ต หัวหิน
          o ดิ เอ็มโพเรียม
          o ดิ เอ็มควอเทียร์
          o พารากอน
          o เทอร์มินอล 21
          o เดอะคริสตอล เอสบีราชพฤกษ์
          o เดอะมอลล์บางกะปิ
          o เดอะมอลล์นครราชสีมา
          o เดอะ พรอมานาด
• Home Fresh Mart ทุกสาขา ได้แก่
          o เดอะมอลล์บางแค
          o เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
          o เดอะมอลล์รามคำแหง
          o เดอะมอลล์ท่าพระ

 

อาหารและเครื่องดื่ม

• Dean & Deluca ทุกสาขา ได้แก่
          o มหานคร
          o ปาร์ค เวนเจอร์
          o สาทร สแควร์
          o เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
          o ดิ เอ็มควอเทียร์
          o เดอะ คริสตอลปาร์ค
• เชสเตอร์ กริลล์ 3 สาขา ได้แก่
          o ซีพี ทาวเวอร์
          o สยามสแควร์
          o เซ็นจูรี่ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)

 

แฟชั่น

• Zara ทุกสาขา ได้แก่
          o เซ็นทรัสพลาซ่าลาดพร้าว
          o เดอะมอลล์บางกะปิ
          o เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
          o เซ็นทรัลเวิลด์
          o เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
          o พารากอน
          o ดิ เอ็มควอเทียร์
          o เมกะบางนา
          o เซ็นทรัลเฟสติวอลพัทยา
          o เซ็นทรัลเฟสติวอลเชียงใหม่
• H&M ทุกสาขา ได้แก่
          o พารากอน
          o เซ็นทรัลเวิลด์
          o เดอะมอลล์บางกะปิ
          o แฟชั่นไอซ์แลนด์
          o เซ็นทรัลเฟสติวอลภูเก็ต
          o เซ็นทรัลเฟสติวอลเชียงใหม่
          o เดอะมอลล์บางแค
          o เซ็นทรัลพลาซ่าเว็ส์ทเกต
          o เทอร์มินอล 21
          o ดิ เอ็มควอเทียร์
          o เดอะมอลล์นครราชสีมา
          o พาราไดสซ์ปาร์ค
          o เมกะบางนา
          o เซ็นทรัลพลาซ่าบางนา
          o สเปลล์ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
          o เซ็นทรัลเฟสติวอลพัทยา
          o เซ็นทรัลเฟสติวอลหาดใหญ่
          o บลูพอร์ต หัวหิน
          o เดอะคริสตอลมอลล์
• Massimo Dutti ทุกสาขา ได้แก่
          o พารากอน
          o ดิ เอ็มควอเทียร์
          o เซ็นทรัลเวิลด์
          o เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่

 

ความงาม

• Etude สาขา Digital Gateway
• Innisfree ทุกสาขา ได้แก่
          o สยามสแควร์
          o เมกะบางนา
          o ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
          o เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
          o เซ็นทรัลพลาซ่าเว็ส์ทเกต

นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นสำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร้านค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ด้วยเช่นกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
 

(ดูภาพขนาดใหญ่)

 

Samsung Pay กับบทสรุปของนวัตกรรมการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่มีดีอย่างไร?


อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า Samsung Pay เปิดตัวมาท่ามกลางคู่แข่งชื่อดังถึงสองราย นั่นก็คือ Apple Pay ของ Apple ซึ่งใช้งานร่วมกับ iPhone และ Android Pay ของ Google ที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งถ้าหากดูเผินๆ แล้วหลายคนคงมองว่า Samsung Pay ก็คงจะมีบริการที่เหมือนกับอีกสองราย แต่สิ่งที่ Samsung Pay มีดีกว่า ก็คือ เทคโนโลยี MST (Magnetic Secure Transmission) ซึ่งเป็นการรองรับการใช้งานร่วมกับเครื่องชำระเงินแบบแถบแม่เหล็ก หรือเครื่องแบบเก่า ซึ่งผู้ค้ารายย่อยทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศล้วนแล้วแต่ใช้งานเครื่องระบบนี้กันเป็นส่วนใหญ่ และมีปริมาณมากกว่าเครื่องชำระเงินแบบ NFC อยู่หลายเท่า ขณะที่ Apple Pay และ Android Pay นั้นรองรับการชำระเงินผ่านทาง NFC จึงต้องใช้งานร่วมกับร้านค้าที่มีเครื่องชำระเงินแบบ NFC เท่านั้น ทำให้ Samsung Pay มีความครอบคลุมในการใช้งานมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนว่าระบบการชำเงิน Samsung Pay นั้นถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งก็นับเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะ Samsung Pay สามารถบันทึกรายการบัตรเครดิตได้หลายใบ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องพกบัตรจริงให้ยุ่งยาก หากใครมีบัตรหลายใบก็สามารถเพิ่มบัตรลงไปได้ทันที ซึ่งบัตรต่างๆ ก็จะถูกจัดเก็บไว้ในที่เดียวกัน หากจะใช้งานก็เพียงแค่ เลือกบัตร, แตะที่เครื่อง, สแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยัน เท่านั้น อีกทั้ง Samsung Pay ยังมีระบบความปลอดภัยที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี Tokenization, แพลตฟอร์ม Samsung Knox และลายนิ้วมือของผู้ใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกำแพงสำคัญที่ช่วยป้องกันมิจฉาชีพ และป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีเข้าใช้งาน Samsung Pay ได้แม้เครื่องจะถูกขโมยก็ตาม

แม้ว่า Samsung Pay จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยสูงมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างในช่วงแรกๆ นั่นก็คือ ความรู้ และความเข้าใจของผู้ขายเกี่ยวกับการใช้งาน Samsung Pay ว่าเป็นเทคโนโลยีอะไร ใช้งานอย่างไร ซึ่งในช่วงแรกๆ ผู้ใช้อาจจะต้องมีการอธิบายกับคนขาย และฝึกการใช้งานบ้าง แต่ถ้าหาก Samsung Pay เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปแล้วก็คงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการเปิดใช้งานนั้นจะสังเกตได้ว่ายังมีร้านค้าที่พร้อมให้บริการ Samsung Pay อยู่ยังไม่ครอบคลุมทั่วทุกแห่ง ซึ่งผู้ใช้บางคนอาจจะต้องการนำ Samsung Pay ไปใช้จ่ายในบริการด้านอื่น ซึ่งในประเด็นเรื่องร้านค้า และพื้นที่ให้บริการนั้น อาจจะต้องรออีกสักระยะ คาดว่าในอนาคตร้านค้าที่รองรับ Samsung Pay น่าจะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน

สำหรับข้อจำกัดอีกประเด็นหนึ่งก็คือ Samsung Pay นั้นจะใช้งานได้เฉพาะ มือถือ Samsung และต้องเป็นรุ่นที่ค่อนข้างใหม่เท่านั้น เพราะฮาร์ดแวร์บางอย่างเพิ่งถูกพัฒนาขึ้นบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ทำให้มือถือที่เปิดตัวไปก่อนหน้ารุ่นที่รองรับนั้นอาจใช้งานไม่ได้ แต่เชื่อว่าในอนาคตข้างหน้า มือถือ Samsung ทุกรุ่นจะต้องรองรับการใช้งาน Samsung Pay อย่างแน่นอน หากท่านใดสนใจก็เข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Samsung Pay ได้ที่ http://www.samsung.com/th/samsungpay/ นะครับ สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รีวิวประสบการณ์ใช้งาน Samsung Pay ในไทย ลองแตะจ่ายเงินจริงด้วย Samsung Pay ใช้อย่างไร ยุ่งยากหรือไม่ ใช้ที่ไหนได้บ้าง ปลอดภัยกว่าแค่ไหน วันนี้เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

 



วันที่ : 17/11/59


  แสดงความคิดเห็นที่นี่
ชื่อผู้โพสต์  (สมาชิกlogin ที่นี่) / สมัครสมาชิก
*
รายละเอียด
*

 
           Tags | More Smiles
ใส่ปี พ.ศ. ปัจจุบัน   ใส่เฉพาะปี พ.ศ. 4 ตัวเท่านั้น  
 












    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com