สวัสดีครับ หลังจากที่เราได้แนะนำกระจกกันรอยดีๆ สำหรับ Samsung Galaxy S8 กันไปแล้วในรีวิวที่ผ่านมา (รีวิวกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Case Friendly สำหรับ Samsung Galaxy S8) คราวนี้ก็ถึงคิวที่เราจะมาแนะนำฟิล์มกันรอยดีๆ สำหรับ Galaxy S8 กันบ้างครับ โดยรุ่นที่เรานำมาให้ทุกท่านได้รู้จักกันก็คือ Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch ซึ่งเป็นฟิล์มกันรอยแบบเต็มจอลงโค้งที่มีจุดขายสำคัญคือ "รอยขีดข่วนที่จางหายได้เอง" และ "ผิวสัมผัสที่เรียบลื่น" ตามลำดับ พร้อมจุดที่ได้เปรียบกระจกกันรอยคือ มีความบางเฉียบมากกว่า และดูกลมกลืนกับจอเดิมๆ มากกว่านั่นเองครับ

วิดีโอรีวิว (Video Review) ฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch สำหรับ Samsung Galaxy S8
แกะกล่อง พร้อมส่องฟีเจอร์เด่นของฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch สำหรับ Samsung Galaxy S8

กล่องของฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch นั้นมีดีไซน์โดยรวมที่คล้ายกันครับ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

แต่จะแตกต่างกันตรงที่สติ๊กเกอร์ระบุรุ่นสองรุ่นคือ Auto Repair ที่มาพร้อมคุณสมบัติรอยขีดข่วนจางหายได้เอง และ Smooth Touch ที่มีผิวสัมผัสเรียบลื่น

นอกนั้นก็เหมือนกันครับ ตั้งแต่สติ๊กเกอร์ที่ระบุว่าเป็นฟิล์มกันรอยสำหรับ Samsung Galaxy S8 และเป็นฟิล์มกันรอยระดับพรีเมียม

เป็นฟิล์มกันรอยแบบ TPU ที่โค้งเต็มจอ


สามารถป้องกันหน้าจอจากแรงกระแทกได้, สามารถแสดงผลได้คมชัดสีสันสดใส, มีเทคโนโลยีการเคลือบผิวที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน, รีดฟองอากาศได้ง่าย, ติดตั้งง่าย และเนื้อฟิล์มไม่ย้วย

มีอุปกรณ์สำหรับการติดตั้งมาให้ครบครัน ตั้งแต่ตัวฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair ซึ่งถูกหุ้มด้วยพลาสติกใสสีเขียวอ่อน

และหากเป็นรุ่น Smooth Touch ตัวฟิล์มกันรอยจะถูกหุ้มด้วยพลาสติกสีฟ้า

ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกันก็เป็นดังที่เห็นนี้ครับ

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็มีมาให้เหมือนๆ กันครับ ทั้งฟิล์มกันรอยสำหรับติดที่ด้านหลังตัวเครื่อง แต่ไม่ได้เป็นแบบลงโค้งเต็มพื้นที่

ผ้าชุบแอลกอฮอล์ 70%

ผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างดี

สติ๊กเกอร์ช่วยจับยึดตัวฟิล์มขณะติดตั้ง พร้อมสติ๊กเกอร์เก็บฝุ่น

และกระดาษแข็งสำหรับรีดฟองอากาศ
วิธีง่ายๆ ในการติดตั้งฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair สำหรับ Samsung Galaxy S8

ก่อนการติดตั้งเราก็อาจหาผ้าไมโครไฟเบอร์บางๆ มารองไว้ก่อน เพื่อไม่ให้กระจกด้านหลังตัวเครื่องไปเสียดสีกับพื้นผิวของโต๊ะโดยตรง และจะช่วยให้ตัวเครื่องไม่ลื่นไหลหลุดตำแหน่งไปง่ายๆ ด้วยครับ

วิธีการติดตั้งนั้นก็ไม่ยากครับ เริ่มที่การนำเอาผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดคราบเปื้อน หรือคราบมันออกจากพื้นผิวหน้าจอให้สะอาดหมดจด

ตามด้วยการนำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดคราบแอลกอฮอล์ให้แห้ง ทั้งส่วนพื้นผิวเรียบ และส่วนของขอบโค้ง

หลังจากนั้นก็ให้นำเอาสติ๊กเกอร์เก็บฝุ่นมาแปะลงบนส่วนต่างๆ ของพื้นผิว เพื่อไม่ให้มีเศษฝุ่นหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย

เมื่อพื้นผิวสะอาดไร้ฝุ่นแล้ว ก็ให้เริ่มลอกแผ่นฟิล์มชั้นที่ 1 ออกไปจากแผ่นฟิล์มหลัก

หลังจากนั้นก็ให้วางตัวฟิล์มลงไปอย่างช้าๆ โดยเริ่มจากส่วนบนของหน้าจอที่มีลำโพง และเซ็นเซอร์ต่างๆ ก่อน เพื่อให้สามารถกะตำแหน่งของการติดตั้งได้ง่ายขึ้น

และเมื่อคิดว่าตำแหน่งการวางถูกต้องแม่นยำดีแล้ว ก็ให้ค่อยๆ ไล่วางแผ่นฟิล์มส่วนที่เหลือลงไป โดยใช้แผ่นกระดาษแข็งคอยช่วยรีดฟองอากาศตามไปด้วย

จากนั้นก็ให้ทำการลอกแผ่นฟิล์มชั้นที่ 2 ออกไปจากแผ่นฟิล์มหลักอย่างช้าๆ

หากยังมีฟองอากาศหลงเหลืออยู่เราก็สามารถใช้ขอบของกระดาษแข็งช่วยรีดไล่ฟองอากาศได้โดยง่าย

และเมื่อคิดว่าฟองอากาศบนหน้าจอส่วนราบไม่หลงเหลืออยู่แล้ว ก็ให้เราใช้นิ้วรีดฟิล์มให้ติดกับส่วนโค้งของหน้าจอทั้งสองด้าน

และเก็บรายละเอียด หรือทำความสะอาดอีกครั้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์


เมื่อติดตั้งฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair ลงบนหน้าจอของ Samsung Galaxy S8 เรียบร้อยแล้ว ก็จะดูมีความสวยงามพรีเมียมดังที่เห็นนี้ครับ




โดยจะเห็นว่าเมื่อเทียบกับกระจกกันรอยแล้ว ฟิล์มกันรอยจะมีความบางเฉียบ และดูกลมกลืนแนบเนียนกว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงดูแทบไม่แตกต่างไปจากหน้าจอเดิมๆ
ทดสอบการใช้งาน และประสิทธิภาพของฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair สำหรับ Samsung Galaxy S8

ส่วนการตอบสนองต่อการสัมผัสก็ถือว่ามีความรวดเร็วแม่นยำเป็นอย่างดี แต่เรื่องความลื่นของพื้นผิวจะยังเป็นรองฟิล์มกันรอยรุ่น Smooth Touch อยู่บ้างครับ

ในเรื่องของการแสดงผลก็ยังคงมีความคมชัด, ความสว่าง และมีสีสันที่สดใส แทบไม่ต่างไปจากก่อนการติดตั้งฟิล์มกันรอย

เมื่อทดสอบขัดหน้าจอด้วยแปรงไนลอน ก็พบว่าไม่มีริ้วรอยใดๆ เกิดขึ้นแม้แต่น้อย



จากนั้นทดสอบขัดหน้าจอด้วยแปรงทองเหลือง ก็พบว่ามีริ้วรอยเกิดขึ้นมากพอสมควร แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจะเห็นว่ารอดขีดข่วนต่างๆ จะจางหายไปได้เองโดยอัตโนมัติภายในเวลาแค่อึดใจเดียว ซึ่งนับว่าเป็นจุดขายสำคัญของฟิล์มกันรอย TPU Auto Repair รุ่นนี้นั่นเองครับ
วิธีง่ายๆ ในการติดตั้งฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Smooth Touch สำหรับ Samsung Galaxy S8

ต่อไปเราก็จะมาลองติดตั้งฟิล์มกันรอยรุ่น TPU Smooth Touch กันบ้างครับ ซึ่งขั้นตอนการติดตั้งก็จะเหมือนกับการติดตั้งฟิล์มกันรอยรุ่น TPU Auto Repair ทุกประการ เริ่มที่การนำเอาผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดคราบเปื้อน หรือคราบมันออกจากพื้นผิวหน้าจอให้สะอาดหมดจด

ตามด้วยการนำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดคราบแอลกอฮอล์ให้แห้ง ทั้งส่วนพื้นผิวเรียบ และส่วนของขอบโค้ง

หลังจากนั้นก็ให้นำเอาสติ๊กเกอร์เก็บฝุ่นมาแปะลงบนส่วนต่างๆ ของพื้นผิว เพื่อไม่ให้มีเศษฝุ่นหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย

เมื่อพื้นผิวสะอาดไร้ฝุ่นแล้ว ก็ให้เริ่มลอกแผ่นฟิล์มชั้นที่ 1 ออกไปจากแผ่นฟิล์มหลัก

หลังจากนั้นก็ให้วางตัวฟิล์มลงไปอย่างช้าๆ โดยเริ่มจากส่วนบนของหน้าจอที่มีลำโพง และเซ็นเซอร์ต่างๆ ก่อน เพื่อให้สามารถกะตำแหน่งของการติดตั้งได้ง่ายขึ้น

และเมื่อคิดว่าตำแหน่งการวางถูกต้องแม่นยำดีแล้ว ก็ให้ค่อยๆ ไล่วางแผ่นฟิล์มส่วนที่เหลือลงไป โดยใช้แผ่นกระดาษแข็งคอยช่วยรีดฟองอากาศตามไปด้วย จากนั้นก็ให้ทำการลอกแผ่นฟิล์มชั้นที่ 2 ออกไปจากแผ่นฟิล์มหลักอย่างช้าๆ

และเมื่อคิดว่าฟองอากาศบนหน้าจอส่วนราบไม่หลงเหลืออยู่แล้ว ก็ให้เราใช้นิ้วรีดฟิล์มให้ติดกับส่วนโค้งของหน้าจอทั้งสองด้าน

หากยังมีฟองอากาศหลงเหลืออยู่ตามซอกมุมต่างๆ เราก็สามารถใช้ขอบของกระดาษแข็งช่วยรีดไล่ฟองอากาศได้โดยง่าย

และเก็บรายละเอียด หรือทำความสะอาดอีกครั้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์


เมื่อติดตั้งฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Smooth Touch ลงบนหน้าจอของ Samsung Galaxy S8 เรียบร้อยแล้ว ก็จะดูมีความสวยงามพรีเมียมเช่นเดียวกับรุ่น TPU Auto Repair




โดยจะเห็นว่าแผ่นฟิล์มกันรอยจะมีความบางเฉียบ และดูกลมกลืนแนบเนียนกว่ากระจกกันรอยอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าแทบไม่แตกต่างไปจากหน้าจอเดิมๆ
ทดสอบการใช้งาน และประสิทธิภาพของฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Smooth Touch สำหรับ Samsung Galaxy S8

เมื่อทดสอบนำนิ้วไปแตะที่พื้นผิวของหน้าจอ ก็พบว่าอาจเกิดคราบมัน หรือคราบรอยนิ้วมือได้บ้าง แต่ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายครับ

เมื่อทดสอบนำน้ำไปหยดลงบนพื้นผิวของฟิล์ม ก็พบว่าน้ำมีการรวมตัวเป็นเม็ดอย่างชัดเจน

และเมื่อเอียงตัวเครื่อง น้ำก็จะกลิ้งไหลออกจากพื้นผิวได้ง่าย รวมถึงไม่ทิ้งคราบน้ำเอาไว้

เมื่อทดสอบการใช้งานด้วยการสัมผัสหน้าจอ ก็พบว่าพื้นผิวสัมผัสมีความเรียบลื่นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของฟิล์มกันรอย TPU Smooth Touch รุ่นนี้ รวมทั้งมีการตอบสนองที่รวดเร็วแม่นยำ

ส่วนการแสดงผลก็มีความคมชัด, มีความสว่าง และมีสีสันที่สดใส แทบไม่ต่างไปจากตอนก่อนติดตั้งฟิล์มกันรอย
ทดสอบการใส่เคส หลังจากติดตั้งฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch สำหรับ Samsung Galaxy S8




แม้ว่าฟิล์มกันรอยแบบ TPU ของ Hi-Shield ทั้งสองรุ่นนี้จะเป็นแบบโค้งเต็มจอ แต่ก็ยังสามารถนำเคสแบบขอบต่ำ หรือเคสแบบบางๆ มาใส่ได้ตามปกติ โดยไม่มีการดันฟิล์ม อย่างเช่นเคส Clear Cover ของ Samsung ที่เห็นอยู่นี้ ก็เรียกได้ว่าเข้ากันได้อย่างพอดิบพอดีเลยทีเดียว
สรุปส่งท้ายกับฟิล์มกันรอย Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch สำหรับ Samsung Galaxy S8

ก็นับว่าเป็นฟิล์มกันรอยระดับพรีเมียมสำหรับ Samsung Galaxy S8 ที่น่าสนใจทั้งคู่เลยนะครับ สำหรับ Hi-Shield TPU Auto Repair และ TPU Smooth Touch ด้วยจุดขายสำคัญคือรอยขีดข่วนที่จางหายได้เอง และผิวสัมผัสที่เรียบลื่น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันหน้าจอจากแรงกระแทก, ป้องกันรอยขีดข่วน, แสดงผลได้คมชัดสีสันสดใส, โค้งเต็มจอ, รีดฟองอากาศได้ง่าย, ติดตั้งง่าย, เนื้อฟิล์มไม่ย้วย และที่สำคัญคือเมื่อติดตั้งแล้วดูสวยลงตัวกลมกลืนกับจอเดิมๆ ของ Galaxy S8 เป็นอย่างยิ่ง
ส่วนราคาของฟิล์มกันรอย Hi-Shield รุ่น TPU Auto Repair จะอยู่ที่ 650 บาท และรุ่น TPU Smooth Touch จะอยู่ที่ 590 บาท โดยมีราคาเท่ากันทั้ง Galaxy S8 และ Galaxy S8+ หากท่านใดสนใจก็ลองสอบถามที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายได้ครับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติตดามชม พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Hi-Shield (ไฮชิลด์)
- รีวิวกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Case Friendly สำหรับ Samsung Galaxy S8
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 6/6/60
|