ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Apple โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด, การใช้งานชิปเซ็ต Apple A10 และกล้องดิจิทัล iSight แบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS รวมถึงยังปรับเปลี่ยนดีไซน์ปุ่มโฮมแบบใหม่ที่รวมเข้ากับหน้าจอ และใช้งานแบบสัมผัสได้ด้วย Taptic Engine นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่เพิ่มเข้ามาใหม่อย่างการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Apple นำคุณสมบัตินี้เข้ามาใช้กับไอโฟน และแน่นอนว่าผู้ใช้บางส่วนเกิดความสงสัยว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะสามารถป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นได้มากน้อยเพียงใด
สำหรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP Code ย่อมาจาก International Protection Marking หรือ Ingress Protection Marking ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ทางคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานสาขาอิเล็กทรอนิกส์อย่าง IEC (International Electrotechnical Commission) ได้กำหนดขึ้นเพื่อใช้วัดความสามารถในการป้องกันตัวของอุปกรณ์ต่างๆ จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งการจัดอันดับความสามารถในการป้องกันนั้นจะเป็นรูปแบบตัวเลข 2 หลัก โดยตัวเลขในตำแหน่งแรกจะแสดงความสามารถในการป้องกันของแข็ง หรือฝุ่น และตัวเลขตำแหน่งที่สองจะแสดงความสามารถในการป้องกันน้ำ อย่างเช่น IP67 และ IP68 ที่เราพบเห็นอยู่เป็นประจำ โดยความหมายของ IP Code มีดังนี้
ความหมายของตัวเลขในตำแหน่งแรก
0 - ไม่สามารถป้องกันได้
1- สามารถป้องกันของแข็งที่มีขนาดไม่เกิน 50 มิลลิเมตร
2 - สามรถป้องกันของแข็งที่มีขนาดไม่เกิน 12 มิลลิเมตร
3 - สามรถป้องกันของแข็งที่มีขนาดตั้งแต่ 2.5 มิลลิเมตรขึ้นไป
4 - สามรถป้องกันของแข็งที่มีขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตรขึ้นไป
5 - สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ฝุ่นสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เล็กน้อย
6 - สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์
ความหมายของตัวเลขในตำแหน่งที่สอง
0 - ไม่สามารถป้องกันได้
1 - สามารถป้องกันน้ำหยด
2 - สามารถป้องกันละอองน้ำที่เข้ามาในมุมไม่เกิน 15 องศาในแนวตั้ง
3 - สามารถป้องกันละอองน้ำที่เข้ามาในมุมไม่เกิน 60 องศาในแนวตั้ง
4 - สามารถป้องกันละอองน้ำได้ในทุกองศา
5 - สามารถป้องกันน้ำจากการฉีด
6 - สามารถป้องกันน้ำจากการฉีดด้วยแรงที่มากกว่าระดับที่ 5 ซึ่งน้ำยังสามารถเข้าไปในอุปกรณ์ได้เล็กน้อย
7 - สามารถป้องกันอุปกรณ์จากการจมน้ำได้ลึกระดับไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
8 - สามารถป้องกันอุปกรณ์จากการจมน้ำได้ลึกมากกว่า 1 เมตร และไม่เกิน 3 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ซึ่งสามารถนำอุปกรณ์ลงไปใช้งานใต้น้ำได้ แต่ต้องทำการปิดจุดสำหรับการเชื่อมต่อภายนอกทั้งหมดก่อน
iPhone 7 กับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
จากความหมายตัวเลขในข้างต้น iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่มาพร้อมการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 จะสามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างเต็มรูปแบบ และสามารถกันน้ำกระเซ็น และสามารถกันน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นระยะเวลาต่อเนื่องไม่เกิน 30 นาที โดยทาง Apple ได้ระบุถึงคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 ใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ไว้ว่า
"iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น ซึ่งผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่นจะไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งความสามารถดังกล่าวอาจลดลงจากการใช้งานตามปกติ ห้ามชาร์จ iPhone ในขณะที่เครื่องยังเปียกอยู่ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาด และการทำให้แห้งในคู่มือผู้ใช้ การรับประกันไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากของเหลว"
อย่างไรก็ดีคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะสามารถป้องกันได้เฉพาะในน้ำสะอาดเท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงน้ำประเภทอื่นๆ อย่างเช่น น้ำทะเล, น้ำเกลือ, น้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด, น้ำสกปรก หรือน้ำที่มีสารเคมีเจือปน
นอกจาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะมาพร้อมคุณสมบัติการป้องกันน้ำ และการป้องกันฝุ่นแล้ว ยังมาพร้อมตัวเลือกใหม่อย่างสีดำ (Jet Black) โดย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเปิดให้สั่งจองตัวเครื่อง (Pre-Order) ในวันที่ 9 กันยายนนี้ และจะวางจำหน่ายจริงในวันที่ 16 กันยายน 2559 ในกลุ่มประเทศแรกเช่นเคย และสำหรับ iOS 10 จะเปิดให้ทำการดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กันยายนนี้
iPhone 7 เปิดราคาวางจำหน่ายตามรุ่นความจุ ดังนี้
- รุ่นความจุ 32GB ราคา 649 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22,500 บาท)
- รุ่นความจุ 128GB ราคา 749 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,000 บาท)
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 849 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 29,400 บาท)
iPhone 7 Plus เปิดราคาวางจำหน่ายตามรุ่นความจุ ดังนี้
- รุ่นความจุ 32GB ราคา 769 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,600 บาท)
- รุ่นความจุ 128GB ราคา 869 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,100 บาท)
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 969 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33,600 บาท)
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้น และฟีเจอร์ทั้งหมดของ iPhone 7
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้น และฟีเจอร์ทั้งหมดของ iPhone 7 Plus
นำเสนอทิป&ทริคโดย : Thaimobilecenter.com
วันที่ : 8/9/59
|