เจาะลึกกล้อง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus กล้องไอโฟนที่ดีที่สุด! นวัตกรรมกล้องเลนส์คู่ กับ Optical Zoom ช่วยให้การถ่ายภาพยอดเยี่ยมได้อย่างไร พร้อมตัวอย่างภาพถ่ายที่สวยเทียบชั้นกล้อง DSLR!
เรียกได้ว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Apple ที่เพิ่งทำการเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ได้รับความสนใจจากสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกอยู่ไม่น้อย ด้วยการปรับเปลี่ยนดีไซน์ปุ่มโฮมแบบใหม่ที่รวมเข้ากับหน้าจอ และใช้งานแบบสัมผัสได้ด้วย Taptic Engine พร้อมตัวเครื่องที่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 รวมถึงฟีเจอร์ที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานชิปเซ็ต Apple A10 ที่เร็ว แรงกว่าเดิม, แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของ iPhone 7 Plus ก็คือกล้องดิจิทัล iSight แบบคู่ (Dual-Camera) นั่นเอง
iPhone 7 กับกล้อง iSight แบบใหม่
iPhone 7 ใช้งานกล้องดิจิทัล iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลแบบใหม่ ด้วยโครงสร้าง 6 ชิ้นเลนส์ พร้อมไฟแฟลชแบบ True-Tone จำนวน 4 ดวง (Quad-LED) ที่ให้ความสว่างมากขึ้นเป็นเท่าตัว และใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพอัจฉริยะใหม่ล่าสุด ที่สามารถปรับรายละเอียดของภาพให้ดีขึ้น ทั้งสภาพแสง, ค่า White Balance, ISO รวมถึงค่าอื่นๆ ได้ในเวลาเพียง 0.25 วินาที เรียกได้ว่ามีความเร็วมากขึ้นถึง 50% เลยทีเดียว รวมถึงรองรับระบบการป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) และด้วยขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8 จึงทำให้สามารถถ่ายภาพในที่สภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ iPhone 7 ยังรองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K UHD พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยเช่นกัน
สำหรับในส่วนของกล้องดิจิทัล FaceTime HD ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง มีความละเอียดมากขึ้นเป็นระดับ 7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 และฟังก์ชัน Retina Flash
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้จาก iPhone 7
iPhone 7 Plus ที่สุดของกล้องบนไอโฟน ด้วยกล้องเลนส์คู่ พร้อมฟีเจอร์เทียบเท่ากล้องโปร
สำหรับ iPhone 7 Plus ได้รับการอัปเกรดฟีเจอร์การถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขึ้น ด้วยกล้อง iSight แบบคู่ (Dual-Camera) ที่ใช้งานเลนส์รับภาพ 2 ชนิด ได้แก่ เลนส์มุมกว้าง (Wide-Angle : รูรับแสงขนาด f/1.8) และเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 56 มิลลิเมตร สำหรับถ่ายภาพในระยะไกล (Telephoto : รูรับแสงขนาด f/2.8) พร้อมใช้งานกระจกแซฟไฟร์สำหรับปกป้องหน้าเลนส์ และมีระบบการคำนวณค่าแสงตามสภาพจริง ที่จะช่วยให้ภาพมีสีสันที่สมจริงมากที่สุด ซึ่งรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K UHD พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS สำหรับการถ่ายวิดีโอ
นอกจากนี้ยังรองรับระบบการซูมภาพด้วยเลนส์ 2 เท่า (2X Optical Zoom) ซึ่งช่วยให้ซูมได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียดเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลแท้ๆ และระบบการซูมภาพแบบ Digital Zoom ได้สูงสุดถึง 10 เท่า รวมถึงสามารถซูมภาพได้สูงสุด 6 เท่าขณะทำการบันทึกวิดีโอด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ iPhone 7 Plus ยังรองรับฟีเจอร์ DOF (Depth of Field) หรือความชัดลึกชัดตื้นของภาพ สำหรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ โดยถือเป็นฟีเจอร์สำคัญของกล้อง DSLR ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
ตัวอย่างการใช้งานระบบการซูมภาพแบบ Optical Zoom และ Digital Zoom
ตัวอย่างภาพถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอจากกล้องของ iPhone 7 Plus ที่แสดงให้เห็นความชัดตื้นเทียบเท่ากล้อง DSLR
สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเปิดให้สั่งจองตัวเครื่อง (Pre-Order) ในวันที่ 9 กันยายนนี้ และจะวางจำหน่ายจริงในวันที่ 16 กันยายน 2559 ในกลุ่มประเทศแรกก่อนเช่นเคย และสำหรับ iOS 10 จะเปิดให้ทำการดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กันยายนนี้
iPhone 7 เปิดราคาวางจำหน่ายตามรุ่นความจุ ดังนี้
- รุ่นความจุ 32GB ราคา 649 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22,500 บาท)
- รุ่นความจุ 128GB ราคา 749 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,000 บาท)
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 849 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 29,400 บาท)
iPhone 7 Plus เปิดราคาวางจำหน่ายตามรุ่นความจุ ดังนี้
- รุ่นความจุ 32GB ราคา 769 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,600 บาท)
- รุ่นความจุ 128GB ราคา 869 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,100 บาท)
- รุ่นความจุ 256GB ราคา 969 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33,600 บาท)
ที่มา : Petapixel
วันที่ : 8/9/2559
