รีวิว (Review) Nokia 808 PureView

สวัสดีท่านผู้ชมเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ทุกท่านครับ สำหรับโทรศัพท์มือถือที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ก็ได้แก่ สมาร์ทโฟน ที่กำลังได้ชื่อว่าเป็น กล้องโทรได้อย่าง Nokia 808 PureView ซึ่งเป็น สมาร์ทโฟน ที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Nokia Belle โดยจุดขายที่สำคัญที่สุดของ Nokia 808 PureView นั่นก็คือเรื่องของกล้องดิจิตอล ซึ่งมีเซ็นเซอร์ที่ละเอียดที่สุดในโลกถึง 41 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมพร้อมเทคโนโลยี PureView Pro และความสามารถด้านการถ่ายภาพระดับไฮเอนท์มากมาย เรียกได้ว่าเป็นกล้องติดมือถือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาดขณะนี้ ส่วนการใช้งานจะเป็นอย่างไร ติดตามรีวิวกันได้ครับ

Nokia 808 PureView Video Review & Focus
 

แกะกล่อง พร้อมการสัมผัสแรกกับ Nokia 808 PureView

ตัวอย่างของอุปกรณ์มาตรฐานของ Nokia 808 PureView ก็เช่น สายหนังสำหรับคล้องตัวเครื่อง, สาย microUSB, หูฟังแบบ Stereo พร้อมหัวต่อมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, Adapter สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และคู่มือ หรือเอกสารต่างๆ เป็นต้น

รูปลักษณ์ภายนอกของ Nokia 808 PureView นั้นจะดูมีความโค้งมนคล้ายๆ กับ สมาร์ทโฟน โนเกีย รุ่นใหม่หลายๆ รุ่น วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกซึ่งมีคุณภาพสูง และรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงแน่นหนา ส่วนของกล้องดิจิตอลจะถูกเคลือบด้วยโครเมียมมันวาว ความหนาจะอยู่ที่ 13.9 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าหนาพอสมควร โดยส่วนที่หนาที่สุดก็คือส่วนของกล้องดิจิตอล น้ำหนักตัวค่อนข้างหนัก คืออยู่ที่ 169 กรัม ดังนั้นการจับถือก็อาจจะรู้สึกเต็มไม้เต็มมือมากเป็นพิเศษครับ

รายละเอียดภายนอกตัวเครื่องของ Nokia 808 PureView

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยหูฟังสำหรับการสนทนา, เลนส์กล้องความละเอียดระดับ VGA, Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, หน้าจอแบบ AMOLED Capacitive Touchscreen ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียดระดับ nHD หรือ 640x360 พิกเซล พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass ที่ด้านล่างของหน้าจอจะมีปุ่มโทรออก, ปุ่มเมนู และปุ่มวางสาย

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีอะไรนอกจากพื้นผิวเรียบๆ

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง, ปุ่มล็อกหน้าจอ และปุ่มกล้องดิจิตอลแบบ 2 จังหวะ

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบสาย HDMI ซึ่งมีฝาปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา, ช่อง microUSB และช่องต่อหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง และช่องสำหรับร้อยสายคล้อง

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีเลนส์กล้องจาก Carl Zeiss พร้อมเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดถึง 41 ล้านพิกเซล ไฟแฟลชแบบซีนอนซึ่งให้ความสว่างมากเป็นพิเศษ และยังมีไฟแฟลชแบบ LED สำหรับการถ่ายวิดีโออีกด้วย พื้นผิวของฝาหลังจะเป็นพื้นผิวแบบด้าน พร้อมแถบนูนด้านล่างซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ และนี่ก็คือลำโพงเสียงภายนอกนั่นเอง

ฝาหลังของ Nokia 808 PureView นั้นมีความแข็งแรงแน่นหนาเป็นอย่างดี แต่ก็เปิดออกมาได้ไม่ยาก เพียงแค่งัดที่ร่องขึ้นมาดังนี้ โดยฝาหลังนั้นจะเป็นพลาสติกอย่างหนา ซึ่งดูแล้วเป็นพลาสติกคุณภาพสูงเลยทีเดียว และที่ด้านในของฝาหลังจะเห็นว่ามีแถบสำหรับการรับ-ส่งสัญญาณแบบ NFC ติดอยู่ด้วย เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนรุ่น BV-4D ซึ่งมีความจุ 1,400 mAh

ส่วนบริเวณนี้ก็จะเป็นถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด และใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD โดยซิมการ์ดที่สามารถนำมาใช้งานกับ Nokia 808 PureView ได้นั้น จะต้องเป็นซิมการ์ดแบบ microSIM ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าซิมการ์ดทั่วไป ส่วนการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD นั้นจะรองรับได้สูงสุดที่ขนาด 32 GB

ฟีเจอร์เด่น และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่น่าสนใจด้านใน

เครื่อง Nokia 808 PureView ที่รีวิวอยู่นี้จะทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Nokia Belle Feature Pack 1 และมีรายละเอียดอื่นๆ ดังที่เห็นนี้ครับ

ที่เห็นอยู่นี้ก็คือ User Interface ในรูปแบบเฉพาะของระบบปฏิบัติการ Nokia Belle นั่นเอง ซึ่งจะมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่แถบด้านบนจะเป็นการแจ้งสถานะการทำงานพื้นฐานต่างๆ และหากเลื่อนลงมาก็จะมีปุ่มสำหรับเปิด-ปิดการใช้งานพื้นฐาน มีส่วนของการแจ้งเตือน และข้อมูลการทำงานของระบบที่กำลังเกิดขึ้น การสไลด์เลื่อนหน้า Home Screen ก็ถือว่ามีความลื่นไหลเป็นอย่างดี รองรับการนำ Objects ในรูปแบบต่างๆ มาวางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นวิดเจ็ต หรือ Shortcut และแน่นอนว่าสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังตามที่เราต้องการได้

ตัวของวิดเจ็ตนั้น สามารถกดลากเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างอิสระ และสามารถเข้าถึงการตั้งค่าของวิดเจ็ตนั้นได้ทันที เมื่อกดปุ่มโทรออกก็จะเห็นหน้าประวัติการโทร เมื่อกดปุ่มเมนูก็จะพบกับหน้าเมนูหลัก เมื่อกดปุ่มเมนูค้างเอาไว้ ก็จะเห็นรายการของแอพพลิเคชั่นที่เปิดค้างเอาไว้ทั้งหมด สามารถกดเครื่องหมายกากบาทเพื่อปิดแอพพลิเคชั่นได้ทันที การกดหมายเลขโทรก็ทำได้ผ่านทาง Virtual Keypad เมื่อกดปุ่มวางสายก็จะเห็นรายการของฟังก์ชันพื้นฐานที่ใช้งานบ่อยๆ และหน้า Home Screen นั้นเราสามารถเพิ่มเข้าไปอีกได้ หรือหากไม่ต้องการใช้งานก็สามารถลบออกได้เช่นกัน

วิดเจ็ตบางอย่างนั้น จะเป็นวิตเจ็ตแบบออนไลน์ ซึ่งมีการอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่นที่เห็นอยู่นี้ก็จะเป็นวิดเจ็ตของเฟสบุ๊ค ซึ่งช่วยให้ดูความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ง่าย รวมไปถึงการโพสต์ข้อความ หรือโพสต์รูปก็ง่ายด้วยเช่นกัน

ที่หน้าเมนูหลัก ก็จะมีการออกแบบที่ดูเรียบง่าย แต่สวยงามสบายตา และมีความลื่นไหลเป็นอย่างดี สามารถนำ Shortcut ไปวางไว้ที่หน้า Home Screen ได้ นำไปใส่ในโฟลเดอร์ได้ และสามารถเปลี่ยนตำแหน่งของ Shortcut ได้ โดยการลาก Shortcut ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ สามารถเปลี่ยนมุมมองเป็นแบบรายการได้ สามารถเปลี่ยนการจัดเรียงลำดับเป็นเรียงตามตัวอักษรได้ สร้างโฟลเดอร์ใหม่ได้ และมีฟังก์ชันสำหรับการค้นหาแอพพลิเคชั่น

หากสังเกตเห็นว่ามีสัญลักษณ์วงกลมๆ เล็กที่มุมบนซ้ายของ Shortcut ใด ก็แสดงว่าแอพพลิเคชั่นนั้นกำลังเปิดใช้งานอยู่นั่นเอง

มุมมองของหน้า Home Screen นั้นรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน รวมไปถึงหน้าเมนูหลักก็สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน

ระบบปฏิบัติการ Nokia Belle นั้นจะมีคีย์บอร์ดแบบ QWERTY มาให้ในตัว ซึ่งช่วยให้การพิมพ์ข้อความต่างๆ เป็นเรื่องที่ง่าย โดยมีทั้งคีย์บอร์ดภาษาไทย และคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษ รวมถึงสามารถใช้ได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน มีระบบสะกดคำอัตโนมัติ มีเครื่องหมายต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย มี Emotions แสดงอารมณ์แบบต่างๆ มีการแสดงตัวอย่างของข้อความและสามารถเปลี่ยนรูปแบบการพิมพ์ข้อความเป็นแบบ Keypad ได้ด้วย

นอกจากจะพิมพ์ข้อความเป็นตัวหนังสือตามปกติได้แล้ว ก็ยังสามารถแนบไฟล์ในรูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วย เช่นรูปภาพ, วิดีโอ, เสียง และอื่นๆ รวมทั้งยังมีข้อความสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย

และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ จะมีระบบอ่านออกเสียงตามข้อความมาให้ใช้งานด้วย ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตามากเป็นพิเศษ

ระบบปฏิบัติการ Nokia Belle นั้นจะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับจัดการอีเมลมาให้ในตัว โดยมีหน้าตาที่ดูเรียบง่าย รองรับการจัดเรียงลำดับแบบต่างๆ มีการแสดงผลภาษาไทยที่ถูกต้อง และมีฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับการใช้งานอีเมลมาให้อย่างครบถ้วน

แอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊คใน Nokia Belle นั้นจะมีหน้าตาที่ดูเรียบง่าย ใช้งานได้ง่าย และมีฟังก์ชันต่างๆ อยู่อย่างครบครัน

หากต้องการตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่ ก็สามารถไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Battery Monitor มาใช้งานได้ ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้สามารถช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ด้วย

และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของ Nokia 808 PureView ซึ่งก็คือกล้องดิจิตอลนั่นเองครับ มีหน้าตาที่ดูเรียบง่ายแต่ประสิทธิภาพสูง เปิด-ปิดการใช้งานไฟแฟลชได้ และมีฟังก์ชันป้องกันตาแดง รองรับการเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ

โดยการถ่ายภาพจะมี 3 โหมดหลักๆ ก็คือโหมดอัตโนมัติ ซึ่งเครื่องจะปรับค่าให้กับเราเองทุกอย่างโดยอัตโนมัติ พูดง่ายๆ ก็คือกดถ่ายอย่างเดียวนั่นเองครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด

ส่วนโหมดที่สองก็คือโหมดซีน ซึ่งจะมีซีนแบบต่างๆ ให้เลือกใช้งานตามสถานการณ์ โดยผู้ใช้จะต้องเลือกเองว่าซีนแบบไหนจะเหมาะสมกับภาพที่เรากำลังจะถ่ายมากที่สุด โดยซีนที่มีให้เลือกใช้ก็ได้แก่ การถ่ายวิวทิวทัศน์, ซีนแบบอัตโนมัติ, การถ่ายภาพระยะใกล้, การถ่ายภาพบุคคล, การถ่ายภาพกีฬา, การถ่ายภาพกลางคืน, การถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืน, การถ่ายไฟสว่างๆ และการถ่ายหิมะ

และโหมดสุดท้ายก็คือโหมด Creative ซึ่งสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ มีโปรไฟล์ให้เก็บบันทึกการตั้งค่าทั้งหมด 3 รายการ

โดยหลักๆ แล้วความละเอียดจะแบ่งเป็น 2 โหมด คือโหมด PureView ซึ่งจะใช้การรวมพิกเซลที่ดีที่สุด แล้วย่อมาเป็นรูปภาพในความความละเอียดต่างๆ ส่วนอีกโหมดก็คือ Full Resolution ซึ่งจะถ่ายภาพที่ความละเอียดเต็มๆ ของเซ็นเซอร์ โดยจะทำให้รูปภาพมีขนาด และไฟล์ที่ใหญ่มากขึ้นตามไปด้วย โดยในโหมด PureView นั้นจะมีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ปรับอัตราส่วนได้ทั้งแบบ 16:9 และ 4:3

กำหนดคุณภาพของรูปภาพได้ เลือกโทนสีได้ เลือกโหมดการถ่ายได้ 4 รูปแบบ ปรับความอิ่มตัวของสี ปรับค่าความเปรียบต่าง ปรับความคมชัด การแสดงเส้นกริด ระบบกันสั่นของวิดีโอ ไฟช่วยโฟกัส และการถ่ายภาพขณะที่เครื่องกำลังล็อกอยู่ ส่วนอื่นๆ ก็จะมีการปรับค่าชดเชยแสง ซึ่งรองรับได้สูงสุดถึง 4 Stops ทั้งด้านบวกและด้านลบ มีการปรับค่าสมดุลแสงสีขาวแบบแสงอาทิตย์, แบบอัตโนมัติ, เมฆ, Incandescent และ Fluorescent

ปรับค่าความไวแสง หรือ ISO ได้หลายระดับ โดยเริ่มได้ตั้งแต่ ISO 50 เลยทีเดียว ซึ่งจะให้คุณภาพของรูปภาพสูงที่สุด แต่หากต้องการความไวชัตเตอร์ที่สูงกว่า ก็สามารถปรับได้สูงสุดที่ ISO 1600

และฟังก์ชันที่น่าสนใจมากๆ ใน Nokia 808 PureView ก็คือ ND Filter ที่จะช่วยเปิดหน้ากล้องให้นานขึ้น ลดความเร็วชัตเตอร์ และลดปริมาณแสงลง ซึ่งทำให้สามารถสร้างสรรค์ภาพสวยๆ ภาพแปลกๆ ได้หลายรูปแบบเลยทีเดียวครับ ส่วนโหมดของการถ่ายภาพแบบ Full Resolution ก็สามารถเลือกอัตราส่วนภาพได้ทั้งแบบ 16:9 และ 4:3 กำหนดคุณภาพของไฟล์ได้ เลือกโทนสีได้ เลือกโหมดการถ่ายได้ ปรับความอิ่มตัวของสี ปรับค่าความเปรียบต่าง ปรับความคมชัด มีการตั้งค่าเพิ่มเติมที่เหมือนกันกับโหมด PureView โดยภาพ Full Resolution ในอัตราส่วนแบบ 16:9 นั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 34 ล้านพิกเซล ส่วนอัตราส่วนแบบ 4:3 จะมีความละเอียดอยู่ที่ 38 ล้านพิกเซล ส่วนภาพอัตราส่วนแบบ 16:9 ในโหมด PureView นั้นจะปรับความละเอียดได้ 3 ระดับเช่นเดียวกันกับภาพอัตราส่วนแบบ 4:3 แต่จะต่างกันตรงที่ความละเอียดต่ำสุดจะเป็น 2 ล้านพิกเซล และ 3 ล้านพิกเซลตามลำดับ

โหมดของการถ่ายภาพวิดีโอก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กันครับ สามารถเปิด-ปิดการบันทึกเสียงได้ ปรับชดเชยแสงได้ ปรับค่าสมดุลแสงสีขาวได้ มีระบบการโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง มี 3 โหมดหลักเช่นกัน ตั้งแต่โหมดอัตโนมัติ ซึ่งใช้ง่ายที่สุด โหมดซีน ซึ่งมีซีนแบบต่างๆ ให้เลือก ได้แก่แสงเทียน, อัตโนมัติ, กีฬา, แสงไฟ และหิมะ และโหมดที่ปรับแต่งได้เต็มที่ก็คือโหมด Creative ปรับความละเอียดสูงสุดได้ที่ระดับ Full HD 1080p ปรับเฟรมเรทได้ เลือกโทนสีได้ ปรับค่าความอิ่มตัวของสี ปรับค่าความเปรียบต่าง ปรับความคมชัด การแสดงเส้นกริด ระบบป้องกันการสั่น ไฟช่วยโฟกัส และการถ่ายขณะที่ล็อกตัวเครื่อง หากเราเลือกเปิดไฟส่องสว่างเอาไว้ เครื่องก็จะเปิดไฟ LED แบบต่อเนื่อง เพื่อช่วยเพิ่มแสงสว่างดังที่เห็นนี้ สามารถเลือกจุดโฟกัสเองก็ได้ หรือจะเปิดระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบต่อเนื่องก็ได้เช่นกัน

กล้องของ Nokia 808 PureView นั้นรองรับการเลือกจุดโฟกัสด้วยการสัมผัส ซึ่งจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แต่ระยะห่างต้องมากกว่า 15 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนการซูมนั้น รองรับซูมด้วยระบบสไลด์ซูม โดยใช้การสไลด์นิ้วขึ้นด้านบนเพื่อซูมเข้า และสไลด์นิ้วลงด้านล่างเพื่อซูมออก ซึ่งเป็นการซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพ หรือ Lossless Zoom อีกด้วยครับ

นี่ก็คือตัวอย่างบางส่วนของการใช้งานฟังก์ชัน ND Filter ซึ่งจะเห็นว่ารูปภาพที่ได้มานั้นก็จะดูสวยงามแปลกตา และน่าสนใจไปในอีกรูปแบบหนึ่ง

โปรแกรม Web Browser บน Nokia 808 PureView นั้นใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ รองรับการแสดงผลไฟล์แฟลช รองรับการซูมย่อขยายแบบ Pinch-to-Zoom การประมวลผลอาจจะหน่วงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ช้าจนเกินไป รองรับการเปิดใช้งานหลายหน้าต่างพร้อมกัน สามารถกดลิงค์ภาษาไทยได้แม่นยำ สามารถแสดงผลข้อความภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์ รองรับการแสดงผลทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน ในการเปิดหน้าเว็บไซต์ขนาดใหญ่ โดยรวมก็ถือว่ายังใช้งานได้ดี และมีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันไม่แพ้โปรแกรมเว็บเบราเซอร์บนสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ

โปรแกรมแกลอรี่จะมีอินเทอร์เฟสที่ดูเรียบง่ายดังที่เห็นนี้ แต่ก็สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วราบรื่นเป็นอย่างดี มีการจัดเรียงลำดับตามวันที่ให้โดยอัตโนมัติ มีฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นต่อการใช้งานหลายอย่าง รองรับการซูมภาพแบบ Pinch-to-Zoom ซึ่งมีความลื่นไหลไร้การสะดุด สามารถแชร์รูปขึ้นเฟสบุ๊คได้ทันที มีเครื่องมือสำหรับการตัดภาพที่ใช้งานง่าย เอาไว้ใช้สำหรับตั้งเป็นภาพพื้นหลังได้พอดี และที่น่าสนใจก็คือมีโปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพมาให้ด้วย ซึ่งก็มีทั้งฟังก์ชันปรับเลเวลอัตโนมัติ, ปรับความเปรียบต่างอัตโนมัติ, ปรับความสว่าง, ลดตาแดง, ปรับค่าความเปรียบต่าง, ปรับความอิ่มตัวของสี และปรับสี มีเครื่องมือสำหรับการหมุนภาพ, การกลับด้าน, การตัด และการปรับขนาด รองรับการใส่เอฟเฟคแบบต่างๆ ซึ่งสามารถดูตัวอย่างของผลลัพธ์ได้ทันที ใส่รูปคลิปอาร์ทได้ และใส่กรอบลวดลายต่างๆ ได้

รูปภาพต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องนั้น เราสามารถส่งผ่านทางข้อความ, อีเมล และบลูทูธได้ และแชร์ขึ้นโซเชียลต่างๆ ได้ทันที

การค้นหา ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็จะทำได้ผ่านทาง Nokia Store นั่นเอง ซึ่งก็จะถูกแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ มีฟังก์ชันสำหรับการค้นหา และตรวจสอบได้ว่าเราเคยดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใดไว้แล้วบ้าง

ในส่วนของ Nokia Recommends จะเป็นการรวบรวมแอพพลิเคชั่นเด่นๆ ที่น่าสนใจเอาไว้ในที่เดียวกัน

โปรแกรมเครื่องเล่นวิดีโอก็จะมีอินเทอร์เฟสที่เรียบง่าย มีเพียงฟังก์ชันพื้นฐาน แต่ก็ใช้งานได้ดีครับ

โปรแกรมเครื่องเล่นเพลงสามารถค้นหาเพลงตามชื่ออัลบั้ม, รายการเพลงทั้งหมด, รายการเล่น และประเภทของเพลง รองรับการแสดงรูปปกอัลบั้ม พร้อมเครื่องมือควบคุมการเล่นแบบพื้นฐาน รองรับการปรับอีควอไลเซอร์ การปรับสมดุลของเสียง การเพิ่มความดังของเสียง การกำหนดเป็นเสียงเรียกเข้า พร้อมกราฟฟิค 3 มิติที่สวยงามลื่นไหล

เมื่อเราต้องการค้นหาอะไรภายในเครื่อง ก็เพียงแค่เปิดโปรแกรมค้นหา แล้วพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการลงไป เครื่องก็จะแสดงทุกอย่างที่ตรงกับคีย์เวิร์ดนั้นให้เราเห็น

อีกหนึ่งจุดแข็งของ สมาร์ทโฟน โนเกีย ก็คือโปรแกรม Nokia Maps นั่นเองครับ ด้วยแผนที่ๆ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้แบบฟรีๆ มีให้ดาวน์โหลดทุกประเทศทั่วโลก ข้อมูลต่างๆ ในแผนที่มีความละเอียด การทำงานที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ ซูมย่อขยายได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งระบบนำทางก็ใช้งานได้ฟรีตลอดชีพเช่นเดียวกัน โดยเสียงนำทางในภาษาต่างๆ นั้น ต้องทำการดาวน์โหลดเพิ่มเติม แต่ก็ฟรีเช่นเดียวกัน อินเทอร์เฟสระหว่างการนำทางนั้นมีความสวยงาม และดูง่ายสบายตา รองรับทั้งแบบ 3 มิติ และ 2 มิติ แสดงสภาพการจราจรได้ แสดงภาพรวมของเส้นทางที่กำลังจะไปได้ รวมทั้งมีการตั้งค่าการใช้งานที่ยืดหยุ่น

นอกจากจะดูแผนที่ในมุมองปกติได้แล้ว ก็ยังรองรับการดูแผนที่แบบดาวเทียม แผนที่แบบภูมิประเทศ แผนที่แบบ 3 มิติ และอื่นๆ มีฟังก์ชันการค้นหาสถานที่หลายรูปแบบ ทั้งการค้นหาตามคีย์เวิร์ด การค้นหาตามหมวดหมู่ และค้นหาจากสถานที่ๆ เราเก็บบันทึกเอาไว้ ส่วนการตั้งค่าก็จะมีการตั้งค่าทั่วไป ตั้งค่าแผนที่และการเดิน และการตั้งค่าการขับรถ

และด้วยการเปิดใช้งานมุมมองแบบ Landmarks ก็ทำให้เห็นสถานที่สำคัญๆ แบบเสมือนจริงดังที่เห็นนี้ ซึ่งก็จะดูสวยงามสมจริงมากขึ้น โดยรองรับทั้งแบบ 3 มิติ และ 2 มิติ รวมทั้งมีการประมวลผลที่รวดเร็ว

นอกจากนั้นก็ยังรองรับการแสดงแผนที่ในโหมดกลางคืน และการแสดงข้อมูลของระบบขนส่งมวลชน

ตัวอย่างของการค้นหาสถานที่ตามหมวดหมู่ก็เช่น หากเราต้องการช็อปปิ้ง ก็เลือกไปที่หมวดช้อปปิ้ง หรือหากหิวต้องการหาร้านอาหาร ก็เลือกไปที่หมวดการกินดื่ม แล้วจะเห็นรายการของร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียง สนใจร้านไหนก็กดเข้าไปดูข้อมูลก่อนได้ และหากต้องการไป ก็สามารถสั่งให้โปรแกรมเริ่มนำทางได้ทันที

สำหรับการนำทางนั้น เราสามารถดูภาพรวมได้ว่า เส้นทางที่เรากำลังจะไปนั้นมีรายละเอียดอย่างไร ต้องเลี้ยวตรงไหน ซ้ายหรือขวา หรือต้องผ่านถนนอะไรบ้าง เป็นต้น

หากเราต้องการใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์ของประเทศไหน ก็สามารถเข้าไปเลือกดาวน์โหลดได้แบบฟรี ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทุกประเทศทั่วโลก

สำหรับโปรแกรม Drive ก็เป็นโปรแกรมเสริมที่ช่วยให้เรานำไปใช้งานในรถยนต์ได้สะดวกขึ้นนั่นเองครับ ด้วยการออกแบบเมนูต่างให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้ผู้ขับรถสามารถสังเกต และกดสั่งงานได้ง่าย

ในโปรแกรม Guides จะเป็นที่รวบรวมสถานที่ๆ น่าสนใจเอาไว้มากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหาร โดยเป็นสถานที่เด่นๆ ที่ถูกคัดเลือกเอาไว้แล้วโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเราสามารถกดดูแผนที่ และสั่งให้นำทางได้ทันที

แน่นอนว่า Nokia 808 PureView นั้นสามารถต่อกับจอโทรทัศน์ผ่านทางสาย HDMI ได้ ซึ่งจะมีการตั้งค่าใช้งานต่างๆ เช่น อัตราส่วนภาพ, ระบบภาพ และฟิลเตอร์

โปรแกรม Nokia Big Screen นั้นมีไว้เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับหน้าจอโทรทัศน์ผ่านทางสาย HDMI นั่นเอง ซึ่งก่อนการใช้งานครั้งแรก โปรแกรมจะมีข้อมูลแนะนำวิธีการใช้งานให้เราศึกษา

Nokia 808 PureView จะมีไฟแสดงสถานะการทำงาน หรือ Notifications Light อยู่ที่บริเวณปุ่มเมนู ซึ่งเราสามารถตั้งค่าการทำงานให้เหมาะสมกับความต้องการของเราได้ครับ

Nokia 808 PureView จะรองรับการเชื่อมต่อหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อระยะใกล้แบบ NFC, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยสัญญาณ WiFi, การรองรับเทคโนโลยี DLNA, การติดตามการใช้งานข้อมูลอินเทอร์เน็ต, การจัดการๆ เชื่อมต่อที่กำลังทำงาน และการโอนถ่ายข้อมูล เป็นต้น

เมื่อเข้ามาในส่วนของการตั้งค่าแอพพลิเคชั่น ก็จะเห็นรายการของแอพพลิเคชั่นหลักๆ ภายในเครื่อง ซึ่งเราสามารถตั้งค่าใช้งานได้ง่ายๆ ภายในที่เดียวกันนี้

โปรแกรม YouTube ใน Nokia 808 PureView นั้น แม้ว่าจะอาศัยการทำงานของโปรแกรม Web Browser อยู่เบื้องหลัง แต่ก็ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ

สามารถอัพเดทข่าวสารความเคลื่อนไหวทั่วทุกมุมโลกได้ด้วยแอพพลิเคชั่น CNN

หน่วยความจำของ Nokia 808 PureView จะแบ่งเป็น ROM ขนาด 1 GB, RAM ขนาด 512 MB, พื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 16 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุด 32 GB โดยในเครื่องจะมีโปรแกรมจัดการไฟล์มาให้ด้วย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน สมาร์ทโฟน ทุกรุ่นของ โนเกีย ก็คือวิทยุเอฟเอ็มนั่นเอง ซึ่งวิทยุเอฟเอ็มใน Nokia 808 PureView ก็จะมีฟังก์ชันใช้งานมาให้ครบครัน เช่นการค้นหาคลื่นความถี่อัตโนมัติ, การเปิดเสียงผ่านทางลำโพงภายนอก หรือการบันทึกสถานีวิทยุไว้ในรายการโปรดได้มากมาย เป็นต้น โดยจะมีอินเทอร์เฟสที่ดูเรียบง่าย แต่ก็ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน

อีกฟีเจอร์เด่นก็คือ FM Transmitter ซึ่งทำให้เราสามารถนำเสียงเพลงจากตัวเครื่อง ส่งผ่านไปทางคลื่นวิทยุ FM เช่น เราสามารถใช้วิทยุ FM ในรถยนต์ รับคลื่นวิทยุ FM จาก Nokia 808 PureView ได้ เป็นต้น

นอกจากฟีเจอร์เด่นๆ ที่พูดถึงไปแล้ว ก็จะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกหลายอย่างใน Nokia 808 PureView ที่ยังไม่ได้พูดถึงด้วยเวลาอันจำกัด ซึ่งหากท่านใดมีเวลา ก็หาโอกาสไปลองเล่น Nokia 808 PureView กันได้ครับ

สรุปผลการทดสอบ Nokia 808 PureView

ก็ผ่านไปแล้วเรียบร้อยนะครับ สำหรับการทดสอบความสามารถของ Nokia 808 PureView ซึ่งถือว่าเป็น สมาร์ทโฟน ตัวเรือธงของ โนเกีย รุ่นหนึ่งในปีนี้เลยก็ว่าได้ โดยความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของ Nokia 808 PureView ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดมากถึง 41 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์คุณภาพสูงจาก Carl Zeiss, เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.2 นิ้ว, ไฟแฟลชแบบซีนอน, ND Filter และเทคโนโลยีล้ำๆ อย่าง PureView Pro ที่ช่วยให้การถ่ายรูปภาพ และวิดีโอบนโทรศัพท์มือถือ พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งคุณภาพของภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ได้จากกล้องดิจิตอลของ Nokia 808 PureView นั้น ถือว่ายอดเยี่ยมสมกับที่ทาง โนเกีย ได้พยายามนำเสนอมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าหากใครกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายรูปได้ดีที่สุดในตลาด ณ ขณะนี้ ก็บอกได้ไม่ยากเลยครับว่าเป็น Nokia 808 PureView รุ่นนี้นั่นเอง ส่วนคุณสมบัติ หรือความสามารถในด้านอื่นๆ นั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับของ สมาร์ทโฟน ระดับกลางๆ ครับ เช่น หน้าจอ AMOLED Capacitive ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียดระดับ nHD หรือ 640x360 พิกเซล พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass และเทคโนโลยี Nokia ClearBlack, ซีพียูแบบ Single-Core ARM 11 ความเร็ว 1.3 GHz, พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB, หน่วยความจำ ROM 1 GB, หน่วยความจำ RAM 512 MB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุด 32 GB, การถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p, ฟังก์ชัน FM Transmitter, เว็บเบราเซอร์ที่ใช้งานได้ดี, การเชื่อมต่อกับจอโทรทัศน์ผ่านทางสาย HDMI, ใช้งานโปรแกรมแผนที่ และระบบนำทางประสิทธิภาพสูงฟรีตลอดชีพ, รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และอื่นๆ อีกมากมาย กับราคาเปิดตัวที่ 18,900 บาท ความคุ้มค่าก็น่าจะตกไปอยู่กับผู้ซื้อที่เน้นการถ่ายภาพมากเป็นพิเศษนั่นเองครับ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม พบกันได้ใหม่ในวิดีโอรีวิวรุ่นต่อไป สวัสดีครับ

จุดเด่น และจุดด้อยของ Nokia 808 PureView

จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ Nokia 808 PureView ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวของทีมงานคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่นของ Nokia 808 PureView

- กล้องดิจิตอลในตัว พร้อมเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดมากที่สุดในโลกถึง 41 ล้านพิกเซล (ขนาดภาพที่ได้จริงสูงสุด 38 ล้านพิกเซลสำหรับอัตราส่วนภาพ 4:3 และ 34 ล้านพิกเซลสำหรับอัตราส่วนภาพ 16:9)
- มีขนาดของเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ถึง 1/1.2 นิ้ว (เมื่อเทียบกับ Nokia N8 เซ็นเซอร์ของ Nokia 808 PureView นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าถึง 2.5 เท่า)
- ใช้เลนส์คุณภาพสูงนามว่า Carl Zeiss
- ไฟแฟลชแบบซีนอน ซึ่งให้ความสว่างมากเป็นพิเศษ พร้อมไฟแฟลชแบบ LED สำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ
- เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ PureView Pro ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ เช่น Pixel Oversampling และ Lossless Zoom เป็นต้น
- กล้องดิจิตอลมีรูรับแสง (Aperture) ที่กว้างถึง F/2.4
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ พร้อมการเลือกจุดโฟกัสได้อย่างอิสระด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ
- ฟิลเตอร์แบบ ND Filter (Neutral Density Filter) ซึ่งช่วยเปิดหน้ากล้องให้นานขึ้น ลดปริมาณแสง และความเร็วชัตเตอร์ลง เพื่อให้สามารถถ่ายภาพที่ดูแปลกตา และน่าสนใจเป็นพิเศษ
- มีระดับของความชัดตื้นที่มากกว่า กล้องดิจิตอลบนโทรศัพท์มือถือทั่วไป จึงช่วยให้ภาพที่ได้ดูมีมิติ และสวยงามมากเป็นพิเศษ
- ภาพที่ได้มีคุณภาพสูงในทุกสภาพแสง พร้อมจุดรบกวนที่ต่ำเมื่อต้องถ่ายภาพในที่มืด
- เลือกใช้งานความไวแสง ได้ต่ำสุดที่ ISO 50 ซึ่งเหมาะกับถ่ายภาพที่มีคุณภาพสูงที่สุด มีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด
- มีโหมดการถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ, แบบซีน และแบบ Creative Mode ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้เอง ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถประยุกต์กับการถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ
- รองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล) พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบต่อเนื่องอัตโนมัติ และการซูมแบบสไลด์
- บอดี้ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง รู้สึกได้ถึงความแน่นหนาแข็งแรง
- จอแสดงผลแบบ AMOLED Capacitive มีสีสันที่สดใสสวยงาม พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และเทคโนโลยี Nokia ClearBlack Display
- ประมวลผลการทำงานด้วย Single-Core ARM 11 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Nokia Belle OS (Feature Pack 1)
- พื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB พร้อมหน่วยความจำ ROM ขนาด 1 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 32 GB
- รองรับการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกผ่านทางสาย HDMI
- รองรับเทคโนโลยี USB On-the-Go
- รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะใกล้แบบ NFC (Near Field Communication)
- รองรับการใช้งานกับเครือข่าย 3G ได้ทุกคลื่นความถี่ในเครื่องเดียวกัน
- โปรแกรมเว็บเบราเซอร์รองรับมาตรฐาน HTML5 และรองรับการแสดงผลไฟล์ Flash
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, HSPA, EDGE และ GPRS
- รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับเครือข่ายแบบ DLNA (Digital Living Network Alliance)
- รองรับการใช้งานระบบจีพีเอส พร้อมโปรแกรมแผนที่ และระบบนำทางประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ
- รองรับการใช้งานวิทยุ FM พร้อมฟังก์ชัน FM Transmitter

จุดด้อยของ Nokia 808 PureView

- ตัวเครื่องมีความหนา และหนักเป็นพิเศษ เมื่อเทียบ สมาร์ทโฟน รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน
- หน้าจอแสดงผลมีความละเอียดเพียงแค่ระดับ nHD หรือ 640x360 พิกเซล ซึ่งถือว่าน้อยหากเทียบกับ สมาร์ทโฟน ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน และมีหน้าจอขนาด 4 นิ้วเท่านั้น
- กล้องด้านหน้ามีความละเอียดเพียงแค่ระดับ VGA หรือ 640x480 พิกเซลเท่านั้น
- ต้องใช้งานร่วมกับซิมการ์ดแบบ microSIM เท่านั้น
- ส่วนของกล้องดิจิตอลที่ด้านหลังตัวเครื่องมีลักษณะนูนขึ้นมามาก ดังนั้นการวางตัวเครื่องบนพื้นผิวแข็ง ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ มิเช่นนั้นก็จะเกิดรอยขีดข่วนได้โดยง่าย
- มีหน่วยความจำ RAM เพียง 512 MB ซึ่งอาจทำให้การใช้งานหนักๆ บางประเภทเกิดอาการหน่วงได้บ้าง
- จำนวนแอพพลิเคชั่นสำหรับระบบปฏิบัติการ Nokia Belle ถือน้อยกว่าระบบปฏิบัติการยอดนิยมในปัจจุบันอย่าง Android และ iOS
- ราคาเปิดตัวค่อนข้างสูงคือ 18,900 บาท ซึ่งมี สมาร์ทโฟน ในระดับราคานี้ ที่น่าสนใจให้เลือกอีกหลายรุ่น

ตัวอย่างภาพถ่าย และภาพวิดีโอจากกล้องดิจิตอลความละเอียด 41 ล้านพิกเซล ของ Nokia 808 PureView

ทดสอบกล้อง 41 ล้านพิกเซล บน Nokia 808 PureView สุดยอดความคมชัด เทียบชั้นกล้องตัวจริง

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia 808 PureView ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

Nokia 808 PureView Specification  

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::