TMC Point

  8.33

การออกแบบดีไซน์

  9.0

ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ

  8.5

คุณสมบัติเครื่อง

  8.5

ฟังก์ชันการใช้งาน

 8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  7.5

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.0

 
   

Nokia 5310 XpressMusic Review & Focus
Big on sound, small in the pocket.
Review Date (7-January-2008)

หลังจากที่ Nokia ได้ปล่อยโทรศัพท์มือถือตระกูล Music มาหลายต่อหลายรุ่น การออกแบบดีไซน์ก็แตกต่างกันไป  แต่สำหรับรุ่น 5310 XpressMusic นี้ดูเหมือนจะเน้นในเรื่องของความบางมากเป็นพิเศษ  โดยมีความหนาเพียง 9.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 70.2 กรัมเท่านั้น  ส่วนอีกรุ่นที่ออกมาคู่กันก็คือ 5610 XpressMusic  ซึ่งโทนสีจะออกไปในแนวเดียวกันแบบทูโทน  มีสองเวอร์ชันคือทูโทนแบบ ดำ-แดง กับ ดำ-น้ำเงิน  ดูกึ่งทันสมัยกึ่งแฟชั่น  แต่จะต่างตรงที่เป็นแบบฝาสไลด์  ส่วนราคาจำหน่ายในขณะที่กำลังรีวิวอยู่นี้ หากเป็นตามศูนย์ก็จะอยู่ที่ประมาณ 9,460 บาท  แต่หากเป็นราคาตามร้านทั่วไปเช่นที่ห้างมาบุญครอง ก็ไม่น่าจะเกิน 9,000 บาท

สำหรับความสามารถของ 5310 XpressMusic นั้น  นอกจากจะสามารถใช้งานในเรื่องของการฟังเพลงได้เป็นอย่างดีแล้ว  ก็ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่ค่อนข้างครบถ้วน  เช่น หน้าจอแสดงผลที่มีความละเอียดระดับ QVGA ซึ่งเริ่มกลายเป็นมาตรฐานของหน้าจอโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันไปแล้ว, กล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, รองรับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD, การเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Bluetooth หรือ USB, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน EDGE หรือ GPRS  และความสามารถพื้นฐานอื่นๆ ตามมาตรฐานของโทรศัพท์มือถือสมัยนี้  แต่หากใครที่ต้องการความเป็น Smartphone หรือต้องการใช้งานระบบปฏิบัติการ Symbian OS ก็คงจะผิดหวัง  เพราะ 5310 XpressMusic ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือประเภทดังกล่าว  แต่ด้วยคุณสมบัติหรือโปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่อง  ก็น่าที่จะครอบคลุมการใช้งานทั่วๆ ไปได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

Nokia 5310 XpressMusic Video Review & Focus
 

 

 วิดีโอรีวิว Nokia 5310 XpressMusic ตอนที่ 1
 ข้อมูลเบื้องต้น

 

 

 

 วิดีโอรีวิว Nokia 5310 XpressMusic ตอนที่ 2
 ลักษณะทางกายภาพ

 

 

 

 วิดีโอรีวิว Nokia 5310 XpressMusic ตอนที่ 3
 เมนูใช้งานหลัก

 

 

 

 วิดีโอรีวิว Nokia 5310 XpressMusic ตอนที่ 4
 ฟังก์ชันที่น่าสนใจ

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง

สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาในชุดขายของ Nokia 5310 XpressMusic นั้นก็ได้แก่ ตัวเครื่อง 5310 XpressMusic, แบตเตอรี่ Li-Ion รุ่น BL-4C จำนวน 1 ก้อน, การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card ขนาด 512 MB จำนวน 1 อัน, ชุดหูฟังสเตอริโอรุ่น HS-45 + AD-57 (Remote Control) จำนวน 1 ชุด, สายชาร์จแบตเตอรี่รุ่น AC-3 จำนวน 1 เส้น, สาย USB Data Cable และแผ่น CD-ROM จำนวน 1 ชุด และคู่มือการใช้งาน จำนวน 1 เล่ม  ซึ่งจากอุปกรณ์มาตรฐานของเครื่องศูนย์เหล่านี้จะเห็นว่าค่อนข้างครบถ้วนเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปเป็นอย่างดี  แต่หากผู้ใช้ต้องการเพิ่มเติมอุปกรณ์อะไรบางอย่างให้ดีกว่าที่มีแถมมาให้  ก็คงจะต้องไปหาซื้อเอาเองในภายหลัง  เช่น microSD Card ขนาด 512 MB ที่แถมมาให้นั้นอาจจะไม่พอสำหรับผู้ใช้ที่ต้องใส่ไฟล์เพลงเยอะๆ ก็เป็นได้

เมื่อแรกเห็นตัวเครื่อง

เมื่อได้เห็นตัวจริงของ 5310 XpressMusic ครั้งแรกก็ได้ความรู้สึกของมือถือทรงแท่งมาดเข้ม  ออกแนวสปอร์ตเล็กน้อย  น่าจะเหมาะกับผู้ใช้ที่อายุน้อยๆ ลงมาหน่อย  พื้นผิวส่วนของปุ่มกดหรือบริเวณหน้าจอจะเป็นพลาสติกสีดำซึ่งมีความมันวาว  ส่วนบริเวณอื่นจะเป็นพลาสติกผิวด้าน  และที่เด่นที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องของความบางเพียง 9.9 มิลลิเมตรนั่นเอง  เรื่องวัสดุที่นำมาใช้ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกเฉกเช่นเดียวกันกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป  มีความแน่นหนาแข็งแรงดี  ประกอบกับส่วนที่เป็นปุ่มควบคุมการเล่นเพลงตรงด้านข้างจะทำมาจากอลูมินั่ม  สัมผัสที่ได้จึงดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง  ส่วนสีที่วางจำหน่ายกันขณะนี้ก็จะเห็นจะมีอยู่ 2 เวอร์ชันคือ ดำ-แดง และ ดำ-น้ำเงิน


เมื่อมองที่ด้านหน้าของ 5310 XpressMusic ก็จะเห็นเป็นโทรศัพท์มือถือทรงแท่งรูปร่างโค้งมนที่ดูเข้มขรึมทันสมัย  ที่ด้านบนเป็นลำโพงหูฟังสำหรับใช้งานขณะสนทนา  และตัวเซนเซอร์วัดระดับแสงของสภาพแวดล้อม  ส่วนถัดมาที่บริเวณตรงกลางจะเป็นหน้าจอแสดงผลที่มีความกว้าง 2 นิ้ว  ซึ่งถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่  กำลังพอดีสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป  ที่ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลจะเป็นปุ่มกดควบคุมต่างๆ ทั้งปุ่มเลือกด้านซ้าย, ปุ่มรับสาย-โทรออก, ปุ่มควบคุมการทำงานแบบ 5 ทิศทาง, ปุ่มเลือกด้านขวา และปุ่มปฏิเสธการรับสาย  ด้านล่างสุดจะเป็นแผงปุ่มกดตัวเลข  ซึ่งมีการจัดเรียงตำแหน่งในลักษณะเดียวกันกับโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่  ส่วนวัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกซึ่งมีพื้นผิวสีดำมัน  ซึ่งดูสวยงามแต่ก็จะเกิดรอยเปื้อนหรือรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าปกติเช่นกัน


ที่ด้านริมซ้ายถือว่าเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของ 5310 XpressMusic นั่นคือปุ่มควบคุมการเล่นเพลง  ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกัน  คือปุ่มถอยหลัง, ปุ่มเล่น/หยุดชั่วคราว  และปุ่มสุดท้ายคือปุ่มสำหรับเดินหน้า  โดยแถบสีแดงนี้จะทำมาจากอลูมินั่มเสียด้วย  ที่ริมขวาด้านล่างที่เห็นเป็นรูเล็กๆ นั่นก็คือไมโครโฟนสำหรับใช้งานขณะสนทนาหรือบันทึกเสียง


เมื่อพลิกมาดูที่ด้านหลังของตัวเครื่อง  ก็จะพบกับการออกแบบที่ดูเรียบๆ  วัสดุที่ใช้ก็จะเป็นพลาสติกสีเทาเข้มผิวด้านทั้งหมด  ที่ด้านบนสุดจะเป็นเลนส์กล้องดิจิตอลซึ่งมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล  ส่วนที่ด้านล่างสุดที่เห็นเป็นรูเล็กๆ 3 รู  ก็คือลำโพงในตัวของ 5310 XpressMusic นั่นเอง


เมื่อมองที่ด้านข้างของตัวเครื่องก็จะเห็นได้ชัดเจนถึงความบางของ 5310 XpressMusic  ส่วนที่ด้านข้างด้านขวาของตัวเครื่องก็จะประกอบไปด้วยรูร้อยสายคล้องที่ด้านบนสุด  และถัดมาใกล้ๆ กันก็คือ  ปุ่มสำหรับเพิ่มลดระดับเสียง


ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะดูเรียบๆ  ไม่มีอะไรนอกไปเสียจากรูที่ด้านบน  ซึ่งมีเอาไว้สำหรับเสียบที่ชาร์จแบตเตอรี่


ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีส่วนประกอบอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน  นั่นคือ  รูสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร  ซึ่งทำให้นำหูฟังส่วนใหญ่ที่มีขายในท้องตลาดมาเสียบใช้งานได้ทันที  ถือว่าเป็นจุดเด่นของ 5310 XpressMusic ได้อยู่เหมือนกัน  ถัดมาตรงกลางจะเป็นช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB ซึ่งมีฝาพลาสติกปิดเอาไว้  สุดท้ายคือปุ่มสำหรับเปิดปิดเครื่อง


เมื่อพลิกมาดูที่ด้านล่างของตัวเครื่องนั้นจะเห็นว่าไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ติดตั้งอยู่  เป็นเพียงพื้นผิวเรียบๆ เท่านั้น

เริ่มใส่ SIM Card และแบตเตอรี่


การใส่ซิมการ์ด และแบตเตอรี่สำหรับ Nokia 6120 Classic นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก จะมีขั้นตอนวิธีการที่คล้ายคลึงกับโทรศัพท์มือถือทั่วๆ ไป นั่นคือถอดฝาหลังออกก่อน โดยอาจจะนำนิ้วโป้งทั้ง 2 นิ้วดันลงไปอย่างมั่นคงที่ฝาหลังดังภาพ หลังจากนั้นให้ออกแรงเลื่อนนิ้วโป้งในทิศทางไปข้างหน้าด้วยแรงพอประมาณ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ฝาหลังก็จะเลื่อนออกมาได้โดยง่าย 


เมื่อเปิดฝาหลังออกมาแล้วก็จะพบกับช่องว่างสำหรับใส่ซิมการ์ด และแบตเตอรี่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโทรศัพท์มือถือทั่วๆ ไป ส่วนลักษณะของฝาหลังนั้นจะทำมาจากพลาสติกผิวด้านสีเทาเข้มทั้งหมด ซึ่งดูไปแล้วก็มีความหนา และแข็งแรงเป็นอย่างดี


ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดจะอยู่ในลักษณะของกรอบโลหะที่ติดอยู่ตายตัว  ไม่สามารถพับหรือเปิดกางออกมาได้


ช่องเล็กๆ ที่อยู่บริเวณด้านข้าง  ใกล้กับช่องใส่ซิมการ์ดก็คือช่องสำหรับใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD Card นั่นเอง  ซึ่งจากข้อมูลอย่างเป็นทางการของ 5310 XpressMusic นี้  คือสามารถรองรับ microSD Card ได้สูงสุดขนาด 4 GB เลยทีเดียว  ส่วนคุณสมบัติอีกอย่างที่น่าสนใจคือคุณสมบัติที่เรียกว่า Hot Swap ซึ่งก็คือสามารถถอดเปลี่ยนการ์ดได้ทันทีโดยไม่ต้องปิดเครื่องก่อนนั่นเอง  แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อยเนื่องจากหากต้องการสับเปลี่ยนการ์ด  ก็จะต้องเปิดฝาหลังออกมาก่อนทุกครั้ง


การใส่ซิมการ์ดก็ให้นำแผ่นซิมการ์ดสอดเข้าไปในช่องของกรอบโลหะดังกล่าว  ซึ่งสามารถใส่เข้าไปได้ไม่ยาก  โดยให้สังเกตรอยบากของกรอบโลหะ  แล้วใส่ซิมการ์ดเข้าไปในทิศทางเดียวกัน  แล้วดันให้เข้าไปด้านในสุด


การใส่แบตเตอรี่ก็มีลักษณะเช่นเดียวกันกับโทรศัพท์มือถือทั่วๆ ไป  โดยให้นำก้อนแบตเตอรี่มาใส่ให้ถูกตำแหน่ง  ซึ่งอาจจะสังเกตจากขั้วโลหะของแบตเตอรี่ให้ตรงกับช่องใส่


เมื่อทำการใส่ซิมการ์ด และแบตเตอรี่เรียบร้อยดีแล้ว ที่ด้านหลังของตัวเครื่องก็จะมีลักษณะดังภาพ จากนั้นก็ให้นำฝาหลังมาปิดเอาไว้ตามปกติเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดใช้งานเครื่องต่อไป 

ความเหมาะมือ ขนาด และน้ำหนัก


น้ำหนักของ 5310 XpressMusic เมื่อรวมแบตเตอรี่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 70.2 กรัม  ซึ่งถือว่าเบาพอสมควร  ประกอบกับความบางของตัวเครื่องที่หนาเพียง 9.9 มิลลิเมตร  ทำให้เป็นโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่งที่สามารถพกพาได้สะดวก  มีขนาดกระทัดรัดกำลังเหมาะมือ  พื้นผิวสัมผัสโดยรวมก็ไม่ลื่นแต่อย่างใด  เนื่องจากพื้นผิวส่วนใหญ่เป็นพลาสติกด้าน  ส่วนความแข็งแรงหรือชิ้นงานนั้นถือว่าสอบผ่านไปได้ด้วยดี  ประกอบได้อย่างหนาแน่นไม่โยกคลอน  เนื้องานค่อนข้างปราณีต  วัสดุที่ใช้ก็อยู่ในระดับคุณภาพ  คงจะไม่เกิดการแตกหักเสียหายง่ายๆ อย่างแน่นอน


ขนาดของตัวเครื่องเมื่อนำมาเทียบกับโทรศัพท์มือถือรุ่นอื่น  เช่นดังภาพเป็นการเปรียบเทียบกันกับ 7900 Prism จะพบว่า 5310 XpressMusic มีขนาดที่เล็กและบางมากกว่าอยู่พอสมควร

เริ่มเปิดเครื่อง


เมื่อทำการใส่ซิมการ์ด และแบตเตอรี่เรียบร้อยดีแล้ว ก็พร้อมที่จะทำการเปิดเครื่องเพื่อใช้งาน โดยวิธีการเปิดเครื่องของ 5310 XpressMusic นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่องที่ด้านบนของตัวเครื่องค้างเอาไว้ประมาณ 2-3 วินาที หลังจากนั้นเครื่องก็จะทำการสตาร์ทตัวเอง ซึ่งเท่าที่สังเกตดูจะพบว่า 5310 XpressMusic จะเปิดใช้งานได้ค่อนข้างเร็วทันใจ  รอเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น


เมื่อเปิดเครื่องใช้งานเป็นครั้งแรกก็อาจจะต้องมีการตั้งค่าพื้นฐานสำหรับการใช้งานเครื่องกันก่อน  เช่น  วันที่, เวลา  หรือภาษาที่จะใช้งานเป็นต้น

ความคมชัดและสวยงามของหน้าจอแสดงผล


หน้าจอแสดงผลของ 5310 XpressMusic นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ TFT LCD 16 ล้านสี ความละเอียดระดับ QVGA (320x240 Pixels) ซึ่งถือว่ามีความละเอียดสูง สว่างชัดเจน และมีสีสันที่สดใสเป็นอย่างดี แสดงผลได้ดีทั้งในที่มืด หรือที่แจ้ง  รวมทั้งมีตัวเซนเซอร์วัดระดับแสงของสภาพแวดล้อมเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอหรือปุ่มกดให้โดยอัตโนมัติด้วย  แต่อย่างไรก็ดี ความกว้างของหน้าจอจะอยู่ที่ประมาณ 2 นิ้วเท่านั้น ทำให้การแสดงผลอาจจะไม่ใหญ่เต็มตามากนักสำหรับผู้ใช้บางราย สรุปแล้วหน้าจอแสดงผลของ 5310 XpressMusic นั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี 

ปุ่มกด และการตอบสนอง


ปุ่มกดทุกปุ่มของ 5310 XpressMusic จะทำมาจากวัสดุพลาสติกผิวมันสีดำ ซึ่งแม้จะเป็นพลาสติกแต่เวลากดปุ่มก็ให้สัมผัสที่มั่นคงแข็งแรงเป็นอย่างดี  ไม่มีอาการโยกคลอนหรือมีเสียงผิดปกติแต่อย่างใด  แต่สำหรับผู้ที่มีนิ้วมือค่อนข้างใหญ่อาจจะมีปัญหาในเรื่องความแม่นยำของการกดปุ่มแต่ละปุ่มมากกว่าผู้ที่มีนิ้วมือเล็ก เนื่องจากปุ่มส่วนใหญ่จะค่อนข้างเล็กและมีความแบนราบสูง อาจกดปุ่มพลาดได้เป็นระยะๆ แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของการตอบสนองนั้นสามารถทำได้ดี  การใช้งานทั่วไปมีการประมวลผลที่รวดเร็วทันใจพอสมควร  แต่การใช้งานบางอย่างที่ต้องการๆ ประมวลผลที่สูง  เช่นเมื่อมีการถ่ายภาพขนาด 2 ล้านพิกเซล  จะประมวลผลและเก็บบันทึกข้อมูลได้ค่อนข้างช้า  ไม่ค่อยทันใจเท่าใดนัก

คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ

- ดีไซน์บางเฉียบ  หนาเพียง 9.9 มิลลิเมตร  หนักเพียง 70.2 กรัม : จุดเด่นอย่างแรกของ 5310 XpressMusic ก็เห็นจะเป็นความบางเฉียบของมัน  ซึ่งมีความหนาเพียง 9.9 มิลลิเมตรเท่านั้น  ประกอบกับน้ำหนักรวมแบตเตอรี่ที่รวมแล้วอยู่ที่ 70.2 กรัม  โดยรวมจึงถือว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่บางและเบาอีกรุ่นหนึ่ง  ส่วนดีไซต์ถือว่าออกแนวเข้มขรึมทันสมัย  ผสมกับความสปอร์ดอีกเล็กน้อย  มีความโค้งมนไม่เหลี่ยมไม่ทื่อจนเกินไป  ถือว่าออกแบบได้ดี  ใครที่ชอบโทรศัพท์มือถือสวยๆ บางๆ ดีไซน์ดูดี  ก็คงไม่ผิดหวัง

- ปุ่มสำหรับควบคุมการเล่นเพลงโดยเฉพาะที่ด้านข้างของตัวเครื่อง : ด้วยความที่เป็นโทรศัพท์มือถือในกลุ่ม Music Phone จึงต้องมีอะไรที่แตกต่างจากโทรศัพท์มือถือกลุ่มอื่นๆ อยู่สักหน่อย  อย่างปุ่มควบคุมการเล่นเพลงที่ด้านข้างตัวเครื่องของ 5310 XpressMusic เป็นต้น  ซึ่งสามารถออกแบบมาได้สวยงามดี  แต่อาจจะกดได้ยากไปสักหน่อยเพราะปุ่มมีขนาดเล็กและไปวางอยู่ตรงริมๆ  ซึ่งปุ่มชุดนี้ประกอบไปด้วยปุ่มกด 3 ปุ่มคือ ปุ่มย้อนกลับหลัง, ปุ่มเล่น/หยุดชั่วคราว และปุ่มเร่งไปข้างหน้า  สรุปแล้วถือว่าแม้จะกดได้ยากซักหน่อยแต่มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี  น่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเพลงได้เพิ่มขึ้นบ้าง  ไม่มากก็น้อย

- หน้าจอ TFT LCD 16 ล้านสี  กว้าง 2 นิ้ว  ความละเอียดระดับ QVGA : หน้าจอแสดงผลของ 5310 XpressMusic นั้นเป็นหน้าจอแบบ TFT LCD ซึ่งแสดงสีสันได้ถึง 16 ล้านสี  มีความกว้าง 2 นิ้ว  และมีความละเอียดระดับ QVGA นั่นคือ 320x240 Pixels  คุณภาพของการแสดงผลถือว่าทำได้ดี  แสดงผลได้ละเอียด  มีสีสันสดใสพอประมาณ  เพียงแต่ความสว่างอาจจะน้อยไปสักหน่อยเลยทำให้ดูหมองไปพอสมควร  ส่วนความกว้างของหน้าจอขนาด 2 นิ้วนั้น  หากเป็นการใช้งานพื้นฐานทั่วๆ ไปคงไม่มีปัญหา  แต่หากเป็นการใช้งานด้านมัลติมีเดีย  ก็ถือว่าเล็กไปสักหน่อย  เช่นการดูวิดีโอ, การเปิดเว็บ หรือการเปิดดูรูปภาพ เป็นต้น

- รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 4 GB พร้อมคุณสมบัติ Hot Swap : หน่วยความจำภายในเครื่องของ 5310 XpressMusic ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการคือมีหน่วยความจำ Flash ขนาด 64 MB  และหน่วยความจำ RAM ขนาด 32 MB  ซึ่งก็น่าจะเพียงพอสำหรับการเก็บบันทึกข้อมูลพื้นฐานทั่วไปในการใช้งานเครื่อง  แต่หากเป็นข้อมูลขนาดใหญ่  โดยเฉพาะไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ  ก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้สูงสุดถึง 4 GB เลยทีเดียว  พร้อมทั้งยังมีคุณสมบัติ Hot Swap อีกด้วย  นั่นคือสามารถสับเปลี่ยนการ์ดได้ทันทีโดยไม่ต้องปิดเครื่องก่อนนั่นเอง  แต่ก็ยังน่าเสียดายอยู่นิดหน่อยตรงที่เมื่อจะทำการสับเปลี่ยนการ์ด  จะต้องถอดฝาหลังออกก่อนทุกครั้ง

- กล้องดิจิตอลในตัว  ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล : กล้องดิจิตอลของ 5310 XpressMusic เป็นกล้องดิจิตอลที่สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุด 2 ล้านพิกเซล หรือ 1600x1200 Pixels  แต่ไม่มีไฟแฟลชในตัวที่ช่วยให้แสงสว่างในที่มืด  และไม่มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)  ซึ่งคงไม่แปลกอะไรเนื่องจากรุ่นนี้ไม่ได้เน้นในเรื่องของการถ่ายภาพเป็นหลักนั่นเอง  ส่วนคุณภาพของรูปภาพที่ถ่ายได้นั้นถือว่ายังไม่ค่อยดีนัก  ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้  แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้บ้างพอสมควร  ส่วนในเรื่องของสีสันที่ได้นั้นยังดูอึมครึมไม่สดใสเท่าที่ควร  สำหรับคุณสมบัติโดยละเอียดของกล้องดิจิตอลของ 5310 XpressMusic จะมีดังต่อไปนี้

- กำหนดความละเอียดของภาพถ่ายได้ 7 ระดับ (1600x1200, 1280x1024, 1280x960, 800x600, 640x480, 320x240 และ 160x120 Pixels)
- กำหนดคุณภาพของภาพถ่ายได้ 3 ระดับ (High, Normal และ Basic)
- ซูมภาพได้ 4 ระดับ (Digital Zoom)
- โหมดถ่ายภาพในแนวกว้าง (Landscape Photo)
- ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า (3, 5 และ 10 วินาที)
- ใส่ Effects ให้กับรูปภาพ (Normal, False Colours, Greyscale, Sepia, Negative และ Solarize)
- ปรับค่า White Balance (Auto, Daylight, Tungsten และ Fluorescent)
- กำหนดความละเอียดของภาพวิดีโอได้ 2 ระดับ (176x144 และ 128x96 Pixels)
- กำหนดความยาวของการถ่ายภาพวิดีโอได้ 2 ระดับ (Default และ Maximum)
- กำหนดคุณภาพของภาพวิดีโอได้ 3 ระดับ (High, Normal และ Basic)
- กำหนดเวลา Preview รูปภาพได้ 5 รูปแบบ (No Preview, 3 วินาที, 5 วินาที, 10 วินาที และ End Manually)
- เปิด-ปิดเสียงกล้องได้
- เลือกประเภทของหน่วยความจำที่จะเก็บบันทึกได้ 2 รูปแบบ (หน่วยความจำเครื่อง และการ์ดหน่วยความจำ)

สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิตอลของ 5310 XpressMusic จะมีดังต่อไปนี้



ภาพถ่ายความละเอียด 1600x1200 Pixels : โหมดการถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ : คุณภาพสูง 


ทดสอบการซูมขยายภาพ 1X, 2X และ 4X ตามลำดับ 


ทดสอบการใส่ Effects ให้กับรูปภาพ  แบบ Normal, False Colours, Greyscale, Sepia, Negative และ Solarize ตามลำดับ


ทดสอบการปรับค่า White Balance แบบ Auto, Daylight, Tungsten และ Fluorescent ตามลำดับ


ทดสอบโหมดถ่ายภาพในแนวกว้าง (Landscape Photo)

- โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง  และวิทยุในตัว  พร้อมช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร : คุณสมบัติด้านการฟังเพลงคงจะต้องเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ให้ให้ความคาดหวังเป็นลำดับแรกๆ สำหรับ 5310 XpressMusic อย่างแน่นอน  แต่จะเป็นอย่างไรบ้างต้องมาดูกัน  เริ่มที่ประเภทของไฟล์ที่รองรับได้  ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการก็จะมีไฟล์เพลงแบบ MP3, Midi, AAC, eAAC+, WMA ซึ่งก็ถือว่าเป็นรูปแบบไฟล์ที่ใช้งานกันแพร่หลายทั่วไปอยู่แล้ว  เรื่องลูกเล่นของโปรแกรมเล่นเพลงอาจจะดูน่าผิดหวังไปสักหน่อยเช่น Equalizer ที่มีความละเอียดเพียง 5-Band เท่านั้น  ซึ่งดูไม่สมกับความเป็น Music Phone ซักเท่าไหร่ เป็นต้น  เรื่องของคุณภาพเสียง  หากเป็นเสียงที่ผ่านทางหูฟังก็ถือว่ามีคุณภาพสูงพอสมควร  ยิ่งถ้าได้หูฟังคุณภาพดีๆ มาใช้ก็จะได้อรรถรสในการฟังเพลงมากยิ่งขึ้น  ส่วนเสียงที่ได้จากลำโพงถือว่ามีคุณภาพพอสมควร  แต่ก็ไปเสียตรงที่มีระดับเสียงที่ค่อนข้างเบาพอสมควร  หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากก็คงได้ยินลำบาก  คุณสมบัติอีกอย่างที่เกี่ยวกับการฟังเพลงของ 5310 XpressMusic ก็คือมีวิทยุ FM Stereo ในตัว  ซึ่งก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับโทรศัพท์มือถือโนเกีย Series 40 รุ่นใหม่อีกหลายๆ รุ่น  สรุปแล้ว 5310 XpressMusic ก็ยังตอบโจทย์ของความเป็น Music Phone ได้ไม่เต็มที่นัก

- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน EDGE และ GPRS : คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เริ่มกลายเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของโทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบันไปแล้วก็คือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ EDGE และ GPRS ซึ่ง 5310 XpressMusic ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน  การเล่นอินเทอร์เน็ตสามารถเล่นผ่านได้ทั้งทาง Browser ของโนเกียเอง  หรือจะเล่นผ่าน Opera mini ซึ่งเป็น Browser ที่มีลูกเล่นมากกว่าก็ได้เช่นกัน  การใช้งานก็ถือว่าใช้งานได้ดีตามปกติ  แต่อาจจะติดตรงที่หน้าจอแสดงผลมีความกว้างเพียงแค่ 2 นิ้วเท่านั้น  ผู้ใช้จึงต้องเพ่งสายตากันมากสักหน่อย

- เชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Bluetooth และ microUSB : ช่องทางการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีให้ใน 5310 XpressMusic นั้นมีมาให้อย่างครบถ้วน ทั้งการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth เวอร์ชัน 2.0 รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลแบบใช้สายผ่าน Data Cable ซึ่งมีอินเทอร์เฟสการเชื่อมต่อแบบ microUSB โดยอินเทอร์เฟสแบบ microUSB ของ 5310 XpressMusic นี้สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งการโอนถ่ายข้อมูล, การชาร์จแบตเตอรี่ หรือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้ในพอร์ตเดียวกัน ส่วนการใช้ Bluetooth นั้นเป็นไปได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีการติดตั้งอะไรเพิ่มเติม  รวมถึงรองรับโปรไฟล์แบบ A2DP  ทำให้สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo ได้อีกด้วย

คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ

- เสียงเรียกเข้า 64-Polyphonic พร้อมรองรับไฟล์ MP3 : คุณสมบัติด้านเสียงเรียกเข้าของ 5310 XpressMusic ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของโทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบัน  โดยสามารถรองรับได้ทั้งไฟล์ MP3, True Tones และไฟล์ MIDI แบบ 64-Polyphonic  เรื่องคุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพงในตัวถือว่าน่าพอใจ  มีความไพเราะดี  แต่หากดูกันในเรื่องของความดังแล้วถือว่ายังไม่น่าพอใจ  เพราะระดับเสียงค่อนข้างเบา  หากอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากก็แทบจะไม่ยินเสียงเรียกเข้า  ดังนั้นถ้าให้ดีก็ควรเปิดระบบสั่นไว้ด้วยก็น่าจะช่วยได้

- รองรับการรับ-ส่งข้อความแบบ SMS, Audio และ MMS : คุณสมบัติด้านการรับ-ส่งข้อความของ 5310 XpressMusic ก็มีมาให้อย่างครบถ้วนตามมาตรฐาน  ทั้งข้อความตัวอักษรธรรมดาแบบ SMS (Text Messaging), ข้อความเสียงแบบ Audio Messaging  และข้อความมัลติมีเดียแบบ MMS (Multimedia Messaging) เวอร์ชัน 1.2 ซึ่งสามารถใส่องค์ประกอบเข้าไปในข้อความได้หลายอย่าง  ทั้งข้อความ, ภาพ และเสียง  โดยสามารถรองรับการใช้งานภาษาไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ

- โทรออกด้วยเสียง  สั่งงานด้วยเสียง  และบันทึกเสียง : สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการโทรออกไปยังหมายเลขต่างๆ ก็สามารถใช้ฟังก์ชันโทรออกด้วยเสียง (Voice Dial) ได้  รวมถึงการเข้าใช้งานเมนูต่างๆ ภายในเครื่องก็สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วยเช่นกัน  และสุดท้ายที่โนเกียไม่ลืมใส่มาให้ใน 5310 XpressMusic ก็คือโปรแกรมสำหรับบันทึกเสียง  ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย  และสามารถบันทึกได้ครั้งละ 1 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว  ซึ่งก็ถือว่าน่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว

- วัสดุ การประกอบ ความแข็งแรง และน้ำหนัก : วัสดุที่นำมาใช้กับ 5310 Classic นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุที่เป็นโลหะอลูมินั่มตรงบริเวณปุ่มควบคุมการเล่นเพลง  กับพลาสติกผิวมันและผิวด้าน ซึ่งการประกอบนั้นก็สามารถทำได้อย่างแน่นหนาแข็งแรงเป็นอย่างดี มีความละเอียดประณีตสูง แต่พื้นผิวส่วนที่เป็นพื้นผิวดำมันจะเกิดรอยเปื้อน หรือรอยขีดข่วนได้ง่าย  เช่นส่วนของปุ่มกด   ดังนั้นการใช้งานต้องดูแลรักษากันมากเป็นพิเศษ  ส่วนการจับถือสามารถจับถือได้อย่างถนัดมือดี  กำลังเหมาะมือเลยทีเดียว  บางกระทัดรัดและมีน้ำหนักเบา  ไม่น่าจะตกหล่นได้ง่าย  ส่วนปุ่มกดนั้นถือว่ามีความนุ่มนวล และกดได้ง่าย ไม่มีอาการโยกคลอนแบบผิดสังเกต  แต่สำหรับคนที่มีนิ้วมือใหญ่ก็อาจจะกดพลาดได้ง่ายอยู่เหมือนกัน  เนื่องจากปุ่มกดค่อนข้างแบนราบพอสมควร

- ประสิทธิภาพในการสนทนา : คุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับการรองรับระบบสัญญาณของ 5310 XpressMusic นั้นคือ Tri Band (GSM 900/1800/1900 MHz) ซึ่งในเบื้องต้นการสแกนหาคลื่นสัญญาณขณะเปิดเครื่องขึ้นมานั้น สามารถทำได้รวดเร็วดี และระหว่างที่อยู่ในสถานะ Standby ไม่พบอาการที่เรียกว่าสัญญาณแกว่งหรือสัญญาณหายแต่อย่างใด ส่วนประสิทธิภาพขณะที่ใช้งานสนทนานั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เสียงที่ได้ยินดังชัดเจนเป็นอย่างดี

- ความเสถียรของระบบ และความเร็วในการประมวลผล : ความเสถียร และความรวดเร็วในการประมวลผลของ 5310 XpressMusic นั้น โดยทั่วไปถือว่ามีระดับความเร็ว หรือมีความเสถียรอยู่ในระดับที่ปกติดี แต่ในบางฟังก์ชันที่ต้องมีการประมวลผลข้อมูลสูงก็จะเกิดอาการหน่วงได้บ้าง เช่น การถ่ายและบันทึกข้อมูลภาพความละเอียด 2 ล้านพิกเซลจะค่อนข้างช้าพอสมควร หรือการเปิดดูแกลลอรี่ที่มีรูปภาพหรือไฟล์จำนวนมาก เป็นต้น

- การรองรับการใช้งานภาษาไทย : ระบบภาษาไทยของ 5310 XpressMusic นั้น ก็ถือว่ามีมาให้อย่างครบครันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยไม่ต้องมีการติดตั้งโปรแกรมภาษาไทยหรือฟอนต์ภาษาไทยใดๆ เพิ่มเติม ตั้งแต่การแสดงข้อความหรือตัวหนังสือภาษาไทย, การพิมพ์ข้อความภาษาไทย, ระบบสะกดคำอัตโนมัติภาษาไทย, เมนูใช้งานภาษาไทย รวมถึงแผงปุ่มกดที่มีตัวอักษรภาษาไทยกำกับอยู่ด้วย (หากเป็นเครื่องศูนย์ในไทย) และสำหรับการแสดงผลตัวสระ, พยัญชนะ หรือวรรณยุกต์ ภาษาไทยนั้นมีการจัดเรียงในตำแหน่งที่ปกติดี

- อัตราความสิ้นเปลืองพลังงาน : แบตเตอรี่ของ 5310 XpressMusic นั้นเป็นแบตเตอรี่แบบ Lithium Ion รุ่น BL-4CT ขนาดความจุ 860 mAh ซึ่งดูจากขนาดความจุเพียงอย่างเดียวก็เหมือนจะน้อยไปสักหน่อย  แต่อัตราความสิ้นเปลืองพลังงานของ 5310 XpressMusic นั้นก็ถือว่าไม่มากนัก  เท่าที่ทดสอบใช้งานมาระยะหนึ่งพบว่ามีอัตราความสิ้นเปลืองพลังงานในระดับปานกลาง ไม่มากไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น กรณีหากใช้งานฟังก์ชันที่ต้องอาศัยพลังงานสูง เช่น ดูหนังฟังเพลง, ถ่ายภาพ หรือเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ก็จะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานจากแบตเตอรี่มากเป็นพิเศษตามปกติ ซึ่งเท่าที่ใช้งานแบบค่อนข้างหนัก แบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 วัน แต่ถ้าหากไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก แบตเตอรี่ก็จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน

สรุปส่งท้าย

จากการทดสอบการใช้งานมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ กับ Nokia 5310 XpressMusic ก็พอจะมองเห็นอะไรหลายๆ อย่างจากโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ จึงขอสรุปเป็นจุดเด่นและจุดด้อยตามความคิดเห็นส่วนตัวคร่าวๆ ดังนี้

จุดเด่น

- ตัวเครื่องบางเฉียบ  หนาเพียง 9.9 มิลลิเมตร  และหนักเพียง 70.2 กรัม
- ชิ้นงานดี  วัสดุมีคุณภาพ  ประกอบได้อย่างหนาแน่นแข็งแรง
- มีปุ่มสำหรับควบคุมการเล่นเพลงโดยเฉพาะที่ด้านข้างของตัวเครื่อง
- หน้าจอ TFT LCD 16 ล้านสี  กว้าง 2 นิ้ว  ความละเอียดระดับ QVGA (320x240 Pixels)
- มีคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่ค่อนข้างครบถ้วน  ทั้ง EDGE, GPRS, Bluetooth และ microUSB
- ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร  สามารถใช้งานกับหูฟังทั่วไปได้ทันที
- กล้องดิจิตอลในตัว  ความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้สูงสุด 4 GB  พร้อมคุณสมบัติ Hot Swap
- วิทยุ FM Stereo ในตัว

จุดด้อย

- ยังมีอาการหน่วงให้เห็นในการใช้งานบางอย่าง  เช่น  การถ่ายภาพขนาด 2 ล้านพิกเซล เป็นต้น
- ตัว Equalizer มีความละเอียดเพียงแค่ 5-Band เท่านั้น  หากดูที่ความเป็น Music Phone
- ถ่ายภาพวิดีโอได้ละเอียดเพียงแค่ระดับ QCIF (176x144 Pixels)
- เสียงจากลำโพงค่อนข้างเบา
- คุณภาพของภาพถ่ายยังไม่ดีเท่าที่ควร
- ความสว่างของจอภาพถือว่ายังไม่มากเท่าที่ควร
- ความกว้างของหน้าจออาจจะเล็กไปสักหน่อย

คะแนน TMC Point

การออกแบบดีไซน์ : 9.0/10
ใช้งานง่าย : 8.5/10
คุณสมบัติเครื่อง : 8.5/10
ฟังก์ชันการใช้งาน : 8.5/10
เสถียรภาพและประสิทธิภาพในการใช้งาน : 7.5/10
ราคาคุ้มค่า : 8.0/10

คะแนนรวม 8.33/10

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Nokia 5310 XpressMusic ได้โดยการคลิ๊กที่ Link ด้านล่างนี้

Nokia 5310 XpressMusic Specification 

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
Oska (Thaimobilecenter Editor) : [email protected]
 
 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::