รวมมือถือ Xiaomi / Redmi / POCO ทุกรุ่นที่มีขายในไทยอย่างเป็นทางการ อัปเดตล่าสุด มิถุนายน 2021
Xiaomi เป็นสมาร์ทโฟนอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในบ้านเรา และเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแบรนด์ย่อยอย่าง Redmi และ POCO ทำให้ตอนนี้สมาร์ทโฟนในเครือของ Xiaomi มีให้เลือกมากมาย จนไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนกันดี และมีรุ่นไหนที่วางขายแล้วบ้าง ในโอกาสนี้เราจึงได้รวบรวมรายชื่อสมาร์ทโฟนทั้งหมดของ Xiaomi, Redmi และ POCO ที่วางขายในไทยอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนี้ อัปเดตล่าสุดเดือนมิถุนายน 2564 มีรุ่นไหนบ้างไปดูกันเลยครับ
Xiaomi Mi 11 5G
Xiaomi Mi 11 คือสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของค่าย มากับหน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ AMOLED ขนาด 6.81 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ แถมยังรองรับ Refresh Rate 120Hz ภายในขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 888 แรงสะใจ พร้อมกันนี้ยังมีกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล และลูกเล่นครบครัน
Xiaomi Mi 11 Lite
Xiaomi Mi 11 Lite เป็นรุ่นที่ลดสเปกลงมาจาก Mi 11 เล็กน้อย โดยรุ่นที่ขายในไทยเป็นรุ่น 4G LTE ซึ่งใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 732G มีหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ อัตรารีเฟรชสูงสุด 90Hz ในส่วนของการถ่ายภาพ มากับกล้องหลังจำนวน 3 ตัวด้วยกัน ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
Xiaomi Mi 11 Ultra 5G
Xiaomi Mi 11 Ultra คือเรือธงตัวท็อปที่มีสเปกสูงสุดทุกด้าน โดดเด่นด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รองรับการซูมภาพแบบดิจิทัลได้มากถึง 120 เท่า และมีระบบกันสั่น OIS สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัดสูงสุดที่ระดับ 8K และมีหน้าจอเล็กๆ ด้านหลังที่ประยุกต์ใช้งานได้หลายอย่าง ตัวเครื่องด้านหน้าเป็นหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.81 นิ้ว คมชัดระดับ WQHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz ภายในประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวทั้งแบบมีสาย และไร้สายเร็วถึง 67W อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงจูนเสียงจาก Harman Kardon และรองรับระบบเสียงระดับ Hi-Res Audio รวมถึงมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และตัวเครื่องมีคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ฝุ่นมาตรฐาน IP68 อีกด้วย
Xiaomi Mi 10T / 10T Pro
สมาร์ทโฟนซีรีส์เรือธงที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบเจาะรูขนาด 6.67 นิ้ว ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 144Hz เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนเกมมิ่งระดับท็อป แรงด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 รุ่นท็อปประกบคู่กับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB โดยแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging รวมถึงระบบกล้องถ่ายภาพจำนวน 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ถ่ายภาพที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น เลนส์ Ultra Wide ไปจนถึงเลนส์ Macro สำหรับถ่ายภาพในระยะใกล้
Redmi 9
Redmi 9 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่เน้นการใช้งานทั่วไป มีวางจำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 3GB+32GB ราคา 3,899 บาท และรุ่น 4GB+64GB ราคา 4,599 บาท ซึ่งชูโรงที่แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging ผ่านพอร์ต USB Type-C โดยใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G80 จับคู่กับ RAM ขนาดสูงสุด 4GB บนการดีไซน์เป็นจอไร้ขอบทรงหยดน้ำแบบ Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ ส่วนที่ด้านหลังมี Texture ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ พร้อมติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ในดีไซน์วงกลมโฉมใหม่ ที่รองรับการถ่ายภาพในทุกระยะ
Redmi 9A
Redmi 9A ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นความจุ 2GB+32GB มีจุดเด่นเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว บนดีไซน์แบบหยดน้ำ (Dot Drop Display) พร้อมตัวเครื่อง 3D Unibody Design ที่มีความพรีเมียมมากขึ้น และมีแบตเตอรี่ความจุมากถึง 5000 mAh ที่สามารถ Stand-by ได้นานถึง 34 วัน นอกจากนี้ยังได้ใช้งานชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง MediaTek ในซีรีส์เล่นเกมสำหรับมือถือรุ่นเล็กอย่าง Helio G25 เป็นรุ่นแรกๆ อีกด้วย
Redmi 9C
Redmi 9C ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2GB+32GB ราคา 3,099 บาท และรุ่น 3GB+64GB ราคา 3,399 บาท โดยมีจุดเด่นที่ตัวเครื่องดีไซน์ใหม่ สีสันสดใส พร้อมด้วยกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) และหน้าจอไร้ขอบทรงหยดน้ำขนาด 6.53 นิ้ว อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh และใช้งานชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 จากซีรีส์เน้นเล่นเกมสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก
Redmi 9T
Redmi 9T มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Dot Drop ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการตัดแสงสีฟ้าจาก TUV Rhienland และมีจุดเด่นที่แบตเตอรี่ขนาด 6000mAh ที่สามารถสแตนบายได้นานสูงสุดถึง 28 วัน พร้อมขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 662 ที่มีจุดเด่นด้านการจัดการความร้อน และใช้พลังงานระดับต่ำ ส่วนด้านการถ่ายภาพ Redmi 9T มาพร้อมกับกล้องหลังจำนวน 4 ตัวแบบ Super Quad Camera ที่มีความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์การถ่ายภาพครอบคลุมทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็น เลนส์มุมกว้างแบบ Ultra Wide, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องหน้าเซศลฟี่ให้มาที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
Redmi Note 9 / Note 9 Pro
สำหรับ Xiaomi Redmi Note 9 และ Redmi Note 9 Pro ชูจุดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายรูป ที่มีความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ด้วยเลนส์กล้องหลังมากถึง 4 ตัว พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจ ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน และชิปประมวลผลทรงพลังอย่าง MediaTek Helio G85 ซึ่ง Redmi Note 9 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ตนี้อีกด้วย
Redmi Note 9T
Redmi Note 9T เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่มีราคาเข้าถึงได้ง่าย โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 พร้อมรองรับมาตรฐาน Widevine L1 รวมถึงยังผ่านการรับรองจาก TUV Rheinland ด้านการตัดแสงสีฟ้าที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตา ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U พร้อมรองรับการแสตนบายบนเครือข่าย 5G ทั้งสองซิมการ์ด และแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W ส่วนด้านการถ่ายภาพ มาพร้อมกับชุดกล้องหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
Redmi Note 10
Redmi Note 10 มาพร้อมกับจุดเด่นด้านหน้าอจแสดงผลเจาะรูแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 678 ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.2 ความจุสูงสุด 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-50% ได้ในเวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น สำหรับการถ่ายภาพ มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพด้านหลังขำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
Redmi Note 10 Pro
Redmi Note 10 Pro มีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ Redmi Note 10 รุ่นปกติ แต่มีการอัปเกรดสเปกให้แรงขึ้น ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED เจาะรูขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz พร้อมลำโพงคู่สุดกระหึ่ม ด้านประสิทธิภาพการทำงาน ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 732G ประกบคู่การทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.2 ความจุสูงสุด 128GB และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5020mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W และสำหรับการถ่ายภาพ จะเป็นกล้องตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้อง Telemacro สำหรับซูมภาพระยะใกล้ 5 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
POCO X3 NFC
สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของวงการที่มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 732G โดยมีหน้าจอสุดลื่นด้วยค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz พร้อมค่า Touch Sampling Rate ที่ระดับ 240Hz จับคู่กับ RAM ขนาด 6GB พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5160 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging ผ่านพอร์ต USB Type-C และรองรับลำโพงเสียงแบบคู่ พร้อมระบบเสียง Hi-Res Audio นอกจากนี้ยังมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra-Wide, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth ที่รองรับการถ่ายภาพในทุกระยะ
POCO X3 Pro
POCO X3 Pro ยังคงมีดีไซน์ภายนอกที่คล้ายกับ POCO X3 NFC แต่มาในสีสันใหม่ โดยมีหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ถ่ายทอดคอนเทนต์ได้อย่างลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz พร้อมตอบสนองอย่างฉับไวด้วยอัตรา touch sampling 240Hz ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 860 ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับปรุงประสิทธิภาพมาจาก Snapdragon 855+ พร้อมแบตเตอรีความจุ 5160 mAh ที่รองรับระบบชาร์จไว 33W และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 สำหรับหน่วยความจำภายในมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 6+128GB และ 8+256GB
ในส่วนของการถ่ายรูป POCO X3 Pro มากับกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 4 ตัวซึ่งประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล
POCO F3
POCO F3 เป็นรุ่นที่รีแบรนด์มาจาก Redmi K40 ที่เปิดตัวในจีนเมื่อเดือนก่อน โดยมากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมรองรับอัตรารีเฟรช 120Hz และอัตรา touch sampling 360Hz เพื่อการตอบสนองที่ลื่นไหลฉับไว ภายในมีหัวใจการประมวลผลเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 870 ซึ่งเป็นรุ่นที่อัปเกรดมาจาก Snapdragon 865 พร้อมแบตเตอรีความจุ 4520 mAh ที่รองรับระบบชาร์จไว 33W และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 สำหรับหน่วยความจำภายในมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 6+128GB และ 8+256GB
ด้านการถ่ายรูป POCO X3 Pro มากับกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 3 ตัวซึ่งประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Telemacro 5 ล้านพิกเซล
POCO M3
POCO M3 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านหน้าจอแสดงผลแบบ Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ด้านหลังเป็นบอดี้แบบ Two-Tone ที่มีการเลือกใช้สีฝาหลังตัดกับสีโมดูลกล้อง ทางด้านประสิทธิภาพการทำงาน มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 662 ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 11 นาโนเมตร พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และหน่วยความจำภายในแบบใหม่อย่าง UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ไซส์ยักษ์ถึง 6000mAh เพื่อรองรับการใช้งานที่ยาวนานตลอดวัน
ด้านการถ่ายภาพ POCO M3 มาพร้อมกับกล้องหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่จัดวางมาให้ที่ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล สำหรับสเปกของ POCO M3 สามารถสรุปออกมาได้ดังนี้
POCO M3 Pro 5G
POCO M3 Pro 5G มาพร้อกมับจุดเด่นด้านหน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3 พร้อมค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz แบบ DynamicSwitch ด้านประสิทธิภาพการทำงาน POCO M3 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ประกบคู่การทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4x ขนาด 4GB / 6GB พร้อมหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.2 ความจุ 64GB / 128GB และแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W โดยจะรันด้วยระบบปฏิบัติกร Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 ตั้งแต่แกะกล่อง
ด้านาการถ่ายภาพ POCO M3 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
นอกจากสมาร์ทโฟนในบทความนี้แล้ว ยังสามารถหาซื้อสมาร์ทโฟนของ Xiaomi, Redmi และ POCO รุ่นอื่นๆ ในไทยได้ แต่อาจไม่ได้มาจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรง บางเครื่องอาจเป็น ROM จีน หรือ ROM Global จึงควรตรวจสอบตัวเครื่อง และเงื่อนไขการรับประกันให้ดีก่อนซื้อครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 2/6/2564
