ทำไม realme ถึงเป็นแบรนด์มือถือที่น่าสนใจในปี 2021
แม้ว่า realme จะเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาลุยตลาดสมาร์ทโฟนได้เพียงไม่กี่ปี แต่ถือว่ามีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่รุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง, เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ไปจนถึงการขยายตลาดไปถึงอุปกรณ์เสริมแบบอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ realme กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ค่อนข้างน่าจับตามอง และน่าสนใจในท้องตลาดสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมากในปี 2021 แต่เพราะเหตุใดนั้น ไปติดตามกันเลยครับ
เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2020
ในปัจจุบัน realme ได้ขึ้นไปครองอันดับที่ 7 ของอุตสาหกรรมสมาร์ท์โฟนทั่วโลกเป็นเวลา 3 ไตรมาสติดต่อกันในปี 2020 นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 realme เป็นเพียงแบรนด์สมาร์ทโฟนแบรนด์เดียวที่สามารถทำอัตราการเติบโตในอัตราเลข 2 หลัก และเป็นสมาร์ทโฟน Android เพียงแบรนด์เดียวในโลกที่เติบโตในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 ที่สำคัญ realme ยังประสบความสำเร็จด้านการเป็นแบรนด์สมา์ทโฟนที่ทำยอดขายได้ถึง 50 ล้านเครื่องเร็วที่ในโลก โดยใช้เวลาเพียง 9 ไตรมาสเท่านั้น
ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากแบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่ กลายเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์หลักในวงการ ทำให้ realme เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลให้ realme เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวให้เห็นประจำปี 2021 ซึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ realme ได้รับความนิยม น่าจะเป็นผลมาจากราคาวางจำหน่ายที่เข้าถึงง่าย รวมถึงสเปกที่คุ้มค่าต่อราคา และโปรโมชันของแถมต่างๆ แบบจัดเต็ม นอกจากนี้ realme ยังเน้นวางจำหน่ายแบบครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รวมถึงเน้นบริการหลังการขายด้วยการเปิด realme Brand Shop เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น
ไม่ผลิตแค่สมาร์ทโฟน แต่ยังครอบคลุมไปถึง AIoT
ในยุคที่ IoT (Internet of Thing) และสมาร์ทโฟนเริ่มมีความเกี่ยวข้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ realme เริ่มขยับขยายจากตลาดสมาร์ทโฟน เพื่อเข้าสู่วงการ AIoT ด้วยเช่นเดียวกันเพื่อสร้างระบบ Ecosystem ให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟน realme ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ realme ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีในการสร้าง AIoT Ecosystem ที่ครอบคลุม 3 การใช้งานหลัก ได้แก่ การใช้งานส่วนบุคคล (Individual), การใช้งานภายในครอบครัว (Family) และการเดินทาง (Travel)
สำหรับกลยุทธ์ที่ realme นำมาใช้บุกตลาด Ecosystem คือ 1+4+N โดย 1 คือ สมาร์ทโฟนที่เป็นศูนย์กลางในการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย, 4 คือ สินค้าอัจริฉยะแบบ Smart Hub ที่จะเข้ามาอำนวยความสะดวกด้านการใช้งาน เช่น นาฬิกา หรือ Smart TV ด้าน N คือ ความุ่งมั่นของทางแบรนด์ realme ที่จะนำเสนอสินค้า AIoT เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิจ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ หรือ กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ เป็นต้น
เติบโตสู่ตลาดโลก พร้อมนำเทรนด์ด้านนวัตกรรมการออกแบบ
นับมาถึงปัจจุบัน realme ได้มีการเข้าไปทำตลาดมากกว่า 61 ตลาดทั่วโลก ครอบคลุมทั้งหมด 5 ทวีป รวมทั้งยังมีการบุกตลาดหลักอย่าง ละตินอเมริกา, ยุโรปตะวันออก ไปจนถึงตะวันตก ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในวงการ แต่ก็สามารถทำยอดขายติดอันดับ Top 5 ใน 12 ตลาดทั่วโลก ส่วนประเทศไทยก็ถือว่าทำผลงานได้น่าสนใจ ด้วยการครองอันดับ 4 ของตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเรา
นอกจากการเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์ realme คือ การนำเสนอเทรนด์ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนตามแนวคิด Dare to Leap เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ทั่วโลก โดยเราจะเห็นได้จากความโดดเด่นของสมาร์ทโฟน realme อย่างเช่น realme 7 Pro ที่มาพร้อมกับสีสัน Iridescent ที่ใช้เทคโนโลยีการสร้างสีแบบพิเศษ 4 ขั้นตอน และเคลือบผิวกระจกแบบ Anti-Glare ช่วยให้สมาร์ทโฟนมีการไล่เฉดได้อย่างสวยงาม หรือ realme 7 Pro Limited Edition กับสี Horizon Orange ที่ใช้วัสดุหนังแบบ Vegan Micrograin ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ตัวเครื่องดูมีความสวยหรูพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ realme ยังได้มีทำงานร่วมกับดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น realme X2 Pro Master Edition ที่จับมือร่วมกับร่วมกับดีไซน์เนอร์สาย Industrial ระดับโลกอย่าง Naoto Fukasawa หรือจะเป็น realmeow ที่ได้รับการออกแบบจาก Mark A. walsh ผู้กำกับอนิเมชันชื่อดังจาก Pixar พร้อมทั้งยังมีการสร้าง realme Design Studio สำหรับออกแบบผลิตภัณฑ์ AIoT โดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้ดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมทีมอย่างมายมาย อย่างเช่น Jose Levy จาก Hermes เป็นต้น
และด้วยปัจจัยนี้เอง ทำให้ realme ได้รับรางวัลการออกแบบระดับนานาชาติถึง 5 รางวัลในปี 2020 และได้รับรางวัลจากเวทีชั้นนำระดับโลกอย่าง Red Dot Design Award, Good Design Award รวมถึง Golden Pin Design Award
นำเทรนด์ด้านสปกระดับท็อป
อีกหนึ่งสิ่งที่เรามักเห็นในแบรนด์ realme คือ การเป็นผู้นำในด้านราคา และสเปกระดับท็อปในวงการมือถือ เช่น realme 7 5G มือถือรุ่นแรกที่นำเทคโนโลยี 5G มาใส่ไว้ในมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท, มือถือกลุ่มแรกที่ได้ใช้ชิปตัวท็อป Snapdragon 865, 888 และ 765G, มือถือกลุ่มแรกที่มาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว 125W UltraDart Charge รวมถึงยังเป็นมือถือกลุ่มแรกที่มีฟีเจอร์ถ่ายดาวแบบ Starry Mode เป็นต้น
ไม่หยุดที่จะเดินหน้าพัฒนาต่อ
แม้ว่า realme จะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในปี 2020 แต่ในปี 2021 ทาง realme ก็ยังตั้งเป้าที่ก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำของวงการสมาร์ทโฟน ด้วยการตั้งเป้าขึ้นสู่ Top 3 หรือแม้แต่ Top 1 ให้ได้ภายในปี 2021 พร้อมผลักดันให้ realme เป็นแบรนด์ขับเคลื่อนหลักของตลาด นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าเป็นแบรนด์ Top 3 ในด้านอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Smart Wearable) ของตลาดโลก และตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในตลาดหูฟัง True Wireless (TWS) ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
realme ยังมีแผนการผลักดัน AIoT ของตนเองเข้าสู่เฟสใหม่ เพื่อสร้าง Ecological Chain Enterprise สำหรับขยายการทำงานของอุปกรณ์ AIoT ที่มีให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ผ่านการสร้าง realme TechLife เพื่อค้นหาพาร์ทเนอร์บนท้องตลาดที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลก เพื่อจับมือสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ รวมถึงกลยุทธ์ในการผลิตอุปกรณ์ AIoT ภายใต้ 3 หัวใจหลัก ได้แก่ ดีไซน์, มาตรฐานระดับคุณภาพ และโครงข่ายการเชื่อมต่อ
นอกจากนี้ realme ยังตั้งเป้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ใช้รุ่นใหม่ในกลุ่ม Generation Z โดยมีการเข้าไปมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมด้าน ดนตรี. กีฬา, วิดีโอ รวมถึง E-Sports รวมถึงแผนการที่จะนำเสนอเทคโนโลยีในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายสบายกระเป๋า ด้วยเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5G ที่ทุกคนจับต้องได้ และภายในเวลา 2-3 ปีต่อจากนี้ สมาร์ทโฟนทุกกลุ่มราคาของ realme จะต้องรองรับ 5G ทั้งหมด
สำหรับสมาร์ทโฟน 5G ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทาง realme ก็มีเป้าหมายว่า จะต้องเปิดตัวมือถือ 5G ให้ทันก่อนแบรนด์หลักในตลาด เพื่อเปิดให้เข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้ง่าย โดยตั้งเป้ายอดขายมือถือ 5G เอาไว้ที่ 25 ล้านเครื่องในปี 2021 รวมทั้งทาง realme จะมีการจับมือร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, E-commerce และอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อให้ 5G ไม่จำกัดอยู่เฉพาะแค่มือถือ แต่ต้องช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานในภาพรวมให้ยกระดับไปอีกขั้น
ในส่วนของบริการ realme ก็มีแผนที่จะทำการเปิดตัว Flagship Store แห่งแรกของโลกเร็วๆ นี้ และวางแผนที่จะขยายร้านค้าให้มากถึง 1,000 ร้านทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงมือถือ และบริการจาก realme ได้จากทุกทิศทาง
จะเห็นได้ว่าจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในปี 2020 มาจนถึงกลยุทธ์ที่เตรียมเดินหน้าพัฒนาต่อในปี 2021 ก็เรียกได้ว่า realme เป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟน และไลฟ์สไตล์ที่กำลังน่าสนใจ และน่าจับตามองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยในปี 2021 นี้ ทาง realme จะมีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนที่เข้ามาสร้างความฮือฮาให้กับตลาดมือถือในบ้านเราบ้าง รวมทั้งจะมี AIoT ชิ้นไหนที่เข้ามาช่วยเติมเต็ม และอำนวยความสะดวกด้านการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น อีกไม่นานเราก็น่าจะได้ทราบกันแล้วครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
[บทความนี้เป็น Advertorial]
วันที่ : 30/1/2564
