เลือกซื้อมือถือ Xiaomi รุ่นไหนดีในปี 2020? แต่ละรุ่นเหมาะกับใคร? เราสรุปมาให้แล้ว
เรียกได้ว่าในปี 2020 นี้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นจากแบรนด์ดังในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจในลำดับต้นๆ ได้แก่ Xiaomi ที่มีตัวเลือกครบครันทุกระดับ พร้อมความคุ้มค่าในราคา ซึ่งคำถามที่ตามมาคือ แล้วเราควรซื้อรุ่นใดถึงจะคุ้มค่าที่สุด
ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงขอมาแนะนำมือถือ Xiaomi รุ่นที่น่าซื้อที่สุดในปี 2020 และแต่ละรุ่นเหมาะกับใคร ให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ โดยจะมีรุ่นใดบ้างนั้น ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ
Redmi 9 (4GB+64GB) : 3,999 บาท
5020 mAh + 18W | Quad Camera 13MP | Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว
ชูโรงที่แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging ผ่านพอร์ต USB Type-C โดยใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G80 จับคู่กับ RAM ขนาดสูงสุด 4GB บนการดีไซน์เป็นจอไร้ขอบทรงหยดน้ำแบบ Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ ส่วนที่ด้านหลังมี Texture ป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ พร้อมติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ในดีไซน์วงกลมโฉมใหม่ ที่รองรับการถ่ายภาพในทุกระยะ
จุดเด่นของ Redmi 9
- แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging
- หน้าจอแสดงผล Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล)
- ชิปเซ็ต MediaTek Helio G80
- กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera)
- รับประกันตัวเครื่องนาน 15 เดือน
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Redmi 9
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างหนัก ผู้ที่มีอุ้งมือขนาดเล็กอาจถือใช้งานลำบาก
Redmi 9 เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
- ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน ในราคาสบายกระเป๋า
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Redmi 9
- ตัวเครื่องมีขนาด 163.32x77.01x9.1 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 198 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล : 394 ppi) ในอัตราส่วน 19.5:9 ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek Helio G80
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G52 MC2
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB / 4GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB / 64GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวที่หนึ่งแบบ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 118 องศา มีรูรับแสง F/2.2
- กล้องตัวที่สอง Main Camera Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีรูรับแสง F/2.2
- กล้องตัวที่สามแบบ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีรูรับแสง F/2.4
- กล้องตัวที่สี่แบบ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร มีรูรับแสง F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีรูรับแสง F/2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- รองรับเซ็นเซอร์ IR Remote
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0 และ NFC
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รุ่น 3GB+32GB ราคา 3,499 บาท
- รุ่น 4GB+64GB ราคา 3,999 บาท
Redmi Note 9 Pro (6GB+64GB) : 7,999 บาท
5020 mAh + 33W | Quad Camera 64MP | DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว
สมาร์ทโฟนดีไซน์จอไร้ขอบ ไร้รอยบาก ไร้ติ่งหยดน้ำขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว พร้อมฝังหน้าจอไว้บนหน้าจอที่ตรงกลางแบบ In-Display Camera ส่วนที่ด้านหลังดีไซน์แบบสมมาตร ครอบทับฝาหลังด้วยกระจกขอบโค้ง 3D Curved Triple Corning Gorilla Glass 5 ติดตั้งกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) คมชัด 64 ล้านพิกเซล ในดีไซน์ใหม่บนแถบสี่เหลี่ยมสีดำที่ตรงกลาง สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint) และใช้งานชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 720G รุ่นใหม่ จับคู่กับ RAM ขนาดสูงสุด 6GB พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging บนระบบปฏิบัติการ Android 10 เวอร์ชันใหม่
จุดเด่นของ Redmi Note 9 Pro
- หน้าจอดีไซน์ใหม่แบบ DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+
- แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W Fast Charging
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 720G
- กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
- รับประกันตัวเครื่องนาน 15 เดือน
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Redmi Note 9 Pro
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างหนัก ผู้ที่มีอุ้งมือขนาดเล็กอาจถือใช้งานลำบาก
Redmi Note 9 Pro เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
- ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกด้านในราคาสมเหตุสมผล
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Redmi Note 9 Pro
- ตัวเครื่องมีขนาด 165.75x76.68x8.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 209 กรัม
- หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 แบบ Cinematic Screen ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 720G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4x ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 64GB / 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 512GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel ขนาด 1.6 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/1.89
- กล้องตัวที่สองแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/2.2 สามารถถ่ายภาพมุมกว้างสุด 119 องศา
- กล้องตัวที่สามแบบ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 2 เซนติเมตร
- กล้องตัวที่สี่แบบ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน
รองรับการโฟกัสภาพแบบ PDAF, ฟังก์ชัน AI Scene Detection ในการตรวจจับซีนต่างๆ, ซูมสูงสุดที่ 10 เท่า (10x Digital Zoom), โหมดถ่ายภาพกลางคืน Ultra Nightscape, AI Beauty, Portrait และบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าฝังบนจอแบบ In-Display Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel ขนาด 1.6 ไมครอน
- แบตเตอรี่ความจุ 5020 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 11
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (Dual-Band) และ Bluetooth 5.0
- รองรับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รุ่น 6GB+64GB ราคา 7,999 บาท
- รุ่น 6GB+128GB ราคา 8,999 บาท
POCO X3 NFC : 6,999 บาท
หน้าจอ Refresh Rate ระดับ 120Hz | Qualcomm Snapdragon 732G | 5160 mAh + 33W
สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของวงการที่มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 732G รุ่นล่าสุด โดยมีหน้าจอสุดลื่นด้วยค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz พร้อมค่า Touch Sampling Rate ที่ระดับ 240Hz จับคู่กับ RAM ขนาด 6GB พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5160 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging ผ่านพอร์ต USB Type-C และรองรับลำโพงเสียงแบบคู่ พร้อมระบบเสียง Hi-Res Audio นอกจากนี้ยังมีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra-Wide, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth ที่รองรับการถ่ายภาพในทุกระยะ
จุดเด่นของ POCO X3 NFC
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 732G รุ่นแรกของวงการ
- หน้าจอ Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz
- กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5160 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W Fast Charging
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ POCO X3 NFC
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างหนัก ผู้ที่มีอุ้งมือขนาดเล็กอาจถือใช้งานลำบาก
POCO X3 NFC เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
- ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020 พร้อมมีค่า Refresh Rate มากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไปในท้องตลาด
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกด้านในราคาสมเหตุสมผล
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ POCO X3 NFC
- ตัวเครื่องมีขนาด 165.3x76.8x9.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 215 กรัม
- หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 แบบ Cinematic Screen ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 395 ppi) มีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 120Hz พร้อมค่า Touch Sampling Rate ระดับ 240Hz และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 732G
- ระบบระบายความร้อน LiquidCool Technology 1.0 Plus ที่สามารถลดอุณหภูมิของ CPU ได้ 6 องศาเซลเซียส
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 64GB / 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX682 ขนาด 1/1.73 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel ขนาด 1.6 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/1.89
- กล้องตัวที่สองแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.2 สามารถถ่ายภาพมุมกว้างสุด 119 องศา
- กล้องตัวที่สามแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/2.4 สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
- กล้องตัวที่สี่แบบ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้า AI ฝังบนจอแบบ In-Display Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel ขนาด 1.6 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/2.2
- แบตเตอรี่ความจุ 5160 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 for POCO
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2x2 MIMO 802.11 a/b/g/n/ac (Dual-Band), Bluetooth 5.1 และ NFC
- รองรับบริการ Google Pay
- รองรับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
- รุ่น 6GB+64GB ราคา 6,999 บาท
- รุ่น 6GB+128GB ราคา 7,999 บาท
Xiaomi Mi Note 10 Lite : 10,399 บาท
3D Curved AMOLED | Snapdragon 730G | Quad Cam 64MP | 5260 mAh + 30W
สมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่มากับการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด พร้อมหน้าจอพรีเมียม 3D Curved AMOLED ขนาด 6.49 นิ้ว ลงโค้งมนแบบสามมิติ ที่มีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730G รวมถึงติดตั้งกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพทุกมุมมอง ด้วยเลนส์ Ultra-Wide, Macro และ Depth Sensor
จุดเด่นของ Xiaomi Mi Note 10 Lite
- หน้าจอแสดงผล 3D Curved AMOLED ขนาด 6.47 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730
- มี RAM ขนาด 8GB + ROM ขนาด 128GB
- แบตเตอรี่ความจุ 5260 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Fast Charging
- กล้องหลัง 4 ตัว คมชัด 64 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพครบทุกระยะ (Wide + Ultra Wide + Depth + Macro)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Screen Fingerprint)
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Xiaomi Mi Note 10 Lite
- ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
Xiaomi Mi Note 10Lite เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เน้นด้านการถ่ายภาพ
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสเปกครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกด้าน ในงบประมาณหมื่นกลาง
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Xiaomi Mi Note 10 Lite
- ตัวเครื่องมีขนาด 157.8x74.2x9.67 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 204 กรัม
- หน้าจอแสดงผล 3D Curved AMOLED ขนาด 6.47 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล : 398 ppi) รองรับมาตรฐาน HDR10 ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 730G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 618
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4x ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX686 ขนาด 1/1.73 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel ขนาด 1.6 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/1.89
- กล้องตัวที่สองแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/2.2 สามารถถ่ายภาพมุมกว้างสุด 119 องศา
- กล้องตัวที่สามแบบ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน มีรูรับแสงขนาด F/2.4
- กล้องตัวที่สี่แบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 2 เซนติเมตร มีรูรับแสงขนาด F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงขนาด F/2.4
- แบตเตอรี่ความจุ 5260 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 30W Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 11
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (Dual-Band), Bluetooth 5.0 และ NFC
- รองรับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
Xiaomi Mi 10 (8GB+256GB) : 21,999 บาท
เรือธงรองรับ 5G รุ่นล่าสุดของทาง Xiaomi ที่มากับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 รองรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบ Vapour Chamber Liquid-Cooling ที่ช่วยลดอุณหภูมิตัวเครื่องให้ไม่ร้อนจนเกินไป จับคู่กับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 8GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 รวมถึงแบตเตอรี่ความจุ 4780 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Fast Charging พร้อมหน้าจอแสดงผลสุดลื่นด้วย Refresh Rate ระดับ 90Hz ขนาดใหญ่เต็มตา 6.67 นิ้ว บนตัวเครื่องกระจกขอบโค้งแบบ 3D โดยติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ที่มีกล้องหลัก Ultra Clear คมชัด 108 ล้านพิกเซล และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 8K
จุดเด่นของ Xiaomi Mi 10
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- เป็นเรือธงชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 รองรับเครือข่าย 5G ราคาถูกสุดในไทย ที่มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนี้ (วันที่ 11 พฤษภาคม 2563)
- RAM 8GB + ROM 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ที่มีกล้องตัวหลัก Ultra Clear ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 8K
- แบตเตอรี่ความจุ 4780 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Fast Charging (ชาร์จแบตเอตรี่เต็ม 100% ในเวลา 57 นาที) และชาร์จไร้สาย 30W Fast Wireless Charging รวมถึงฟังก์ชัน Reverse Charge (10W)
- รับประกันตัวเครื่องนาน 24 เดือน
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Xiaomi Mi 10
- ไม่รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
Xiaomi Mi 10 เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับเรือธง และรองรับเครือข่าย 5G
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงชิปเซ็ตตัวท็อปใหม่ล่าสุดจากทาง Qualcomm
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ แสดงผลได้เต็มตา ในดีไซน์ใหม่ประจำปี 2020
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นเล่นเกมด้วยหน้าจอที่มี Refresh Rate สูงกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไป
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเน้นการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง
- ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่เยอะ สามารถใช้งานได้นาน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพื่อย่นระยะเวลาการชาร์จ
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Xiaomi Mi 10
- ตัวเครื่องมีขนาด 162.6x74.8x8.96 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 208 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 865 ที่มีความเร็ว 2.84GHz
- ระบบระบายความร้อนแบบ Vapour Chamber Liquid-Cooling
- เทคโนโลยี Game Turbo 3.0
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 640
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลัก Ultra Clear ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.33 นิ้ว โครงสร้าง 7 ชิ้นเลนส์ พิกเซลขนาด 1.6 ไมครอน (เทคโนโลยี 4-in-1 Pixel) มีขนาดรูรับแสงที่ F/1.69 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS
- กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.4 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Macro มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.4
- กล้องตัวที่สี่เลนส์ Depth มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4780 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Fast Charging (ชาร์จแบตเอตรี่เต็ม 100% ในเวลา 57 นาที) และชาร์จไร้สาย 30W Fast Wireless Charging รวมถึงฟังก์ชัน Reverse Charge (10W)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้า (In-Display Fingerprint)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 11
- ลำโพงเสียง Stereo แบบคู่ พร้อมเทคโนโลยี Dual 1216 Super Linear และ Smart PA
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 8x8 MU-MIMO, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และ NFC
- ระบบ Dual GPS
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงแนวทางในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือ Xiaomi ในปี 2020 แบบเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งทางทีมงานไม่สามารถฟันธงได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดี และคุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากผู้ใช้แต่ละท่านมีไลฟ์สไตล์ ความชอบ และความต้องการใช้งานในด้านที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ทางทีมงานจึงขอแนะนำให้ทุกท่านไปทำการทดลองใช้งานตัวเครื่องในเบื้องต้น หรือหาข้อมูลในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อจริง หากทดลองเล่นรุ่นใดแล้วถูกใจ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป และมีราคาวางจำหน่ายที่เข้ากับงบประมาณที่ตั้งไว้ ก็ถือว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นน่าซื้อเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
นำเสนอบทความโดย : Thaimobilecenter.com
วันที่ : 1/10/2563