หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 12/1/2566

แบต iPhone ควรเปลี่ยนตอนไหน อัปเดตปี 2023 พร้อมวิธีสังเกตอาการแบตเสื่อมเบื้องต้น

 

แบตเตอรี่สมาร์ทโฟน เมื่อมีการชาร์จบ่อยครั้ง หรือมีอายุการใช้งานระยะหนึ่ง ก็จะส่งผลให้แบตเตอรี่สูญเสียความสามารถด้านการเก็บประจุไฟฟ้า ซึ่งแบตเตอรี่ไอโฟนก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่เชื่อว่าหลายท่านที่กำลังใช้ iPhone อยู่ อาจเคยเกิดความสงสัยว่า เมื่อไหร่ควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ ? วันนี้ทางทีมงานได้รวบรวมแนวทางการสังเกตอาการของไอโฟนทุกท่านด้วยตนเอง ซึ่งหากไอโฟนมีอาการเหล่านี้ ก็อาจถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วครับ

 

1.สุขภาพแบตเริ่มน้อยกว่าปกติ

iOS มีฟีเจอร์ Battery Health หรือสุขภาพแบตเตอรี่ โดยให้ผู้ใช้เข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > สุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health) โดยระบบจะทำการแสดงตัวเลขปริมาณความจุแบตเตอรี่สูงสุด ซึ่งหากเป็นเครื่องใหม่แกะกล่อง ตัวเลขจะอยู่ที่ 100% แต่หากตัวเลขเริ่มต่ำกว่า 80% ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงเวลาอันสมควรในการเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที แต่การที่ตัวเลขสุขภาพแบตเตอรี่ลดลง ก็อาจส่งผลต่อความสามารถด้านการเก็บแบตเตอรี่ที่น้อยลง ทำให้ต้องชาร์จแบตอยู่บ่อย ๆ และอาจส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องด้วย

 

2.เครื่องดับ / รีสตาร์ท อยู่บ่อยครั้ง

Apple เปิดเผยว่า แบตเตอรี่ที่มีกำลังไฟต่ำ หรือมีอายุการใช้งานที่สูง ผู้ใช้อาจมีโอาสพบปัญหาเครื่องถูกปิดเองโดยไม่คาดคิดมากขึ้น ซึ่งหากผู้ใช้ทดลองแก้ไขเบื้องต้นผ่านการรีเซ็ตเครื่อง หรืออัปเดตระบบปฏิบัติการแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ควรหยิบยกมาพิจารณาเพื่อทำการแก้ไขต่อไป

 

3. เครื่องอืด

ในระบบปฏิบัติการ iOS จะมีฟีเจอร์สำหรับจัดการประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อป้องกันตัวเครื่องปิดเองจากปัญหาแบตเตอรี่ แต่หากผู้ใช้พบอาการเหล่านี้อยู่เป็นประจำ เช่น เปิดแอปฯ นาน, เสียงลำโพงลดลง, แฟลชใช้ไม่ได้, แอปฯ ที่เปิดค้างไว้ต้องโหลดใหม่ทุกรอบ หรืออัตราเฟรมของการเลื่อนหน้าจอลดลง ก็อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ กลับมาทำงานได้ตามปกติ

 

4.ข้อความแจ้งเตือน

ในหน้าสุขภาพแบตเตอรี่ iOS หากผู้ใช้พบข้อความแจ้งเตือน “iPhone เครื่องนี้มีปัญหาในการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิดเนื่องจากแบตเตอรี่ไม่สามารถส่งมอบพลังงานสูงสุดที่จำเป็นได้ จึงมีการปรับใช้การจัดการประสิทธิภาพการทำงานเพื่อช่วยปกป้องไม่ให้เกิดปัญหานี้อีกครั้ง ปิดใช้งาน…” ก็หมายความว่า แบตเตอรี่เริ่มมีอาการเสื่อม ทำให้ระบบไม่สามารถดึงพลังงานสูงสุดไปใช้งานได้ แม้ว่าผู้ใช้จะสามารถกด ปิดใช้งาน ระบบจัดการประสิทธิภาพแบตเตอรี่ได้ด้วยตนเอง แต่ระบบดังกล่าวจะไม่สามารถเปิดกลับได้อีก ซึ่งเมื่อเปิดโหมดนี้แล้ว อาจส่งผลให้เครื่องช้าลง เฟรมเรทตก หรือลำโพงเสียงเบา ซึ่งทางที่ดีควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการเช็ตแบตเตอรี่โดยด่วน

 

5.แบตหมดเร็วผิดปกติ

สุดท้ายให้ลองเข้าไปที่การตั้งค่า -> แบตเตอรี่ และเลื่อนลงมาด้านล่างเล็กน้อย จะพบกับประวัติการบริโภคพลังงานโดยรวมของตัวเครื่อง รวมถึงอัตราการบริโภคพลังงานของแต่ละแอปพลิเคชัน โดยให้ลองดูเส้นสีเขียวว่ามีการลดระดับอย่างรวดเร็วหรือไม่ รวมทั้งให้ลองสังเกต Screen On (เวลาใช้งานโดยนับจากการเปิดหน้าจอแสดงผล)​ ว่าน้อยลงกว่าเดิมหรือไม่ โดยหากแบตเตอรี่มีสุขภาพที่ดี และยังไม่เสื่อม ควรจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7-9 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีการเปิดแอปพลิเคชันมากน้อยเพียงใดด้วย

 

เปลี่ยนแบตเตอรี่ไอโฟนที่ไหนดี ?

ทีมงานแนะนำว่า ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่กับ Apple Sttore หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple โดยตรง เพราะในไอโฟนบางรุ่น หากมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ของแท้มา ระบบอาจขึ้นข้อความแจ้งเตือน “ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่า iPhone เครื่องนี้ใช้แบตเตอรี่ Apple ของแท้หรือไม่ ไม่มีข้อมูลสุขภาพสำหรับแบตเตอรี่นี้ ดูเพิ่มเติม…” ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้ไม่สามารถตรจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ได้ โดยสามารถค้นหา Apple Store และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจาก Apple ได้ที่นี่

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com


วันที่ : 12/1/2566

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy