รู้จัก Widevine DRM L1 สิ่งที่ทำให้มือถือของคุณดู Netflix แบบ HD ได้

ปัจจุบันนี้การดูหนังแบบสตรีมมิ่งผ่านแอปเริ่มแพร่หลายจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลายๆ คนไปแล้ว เพราะดูได้ทุกที่ทุกเวลาทั้งบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่ทั้งนี้ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่า ทำไมสมาร์ทโฟนบางเครื่องถึงไม่สามารถสตรีมหนังแบบ HD ได้ ทั้งๆ ที่สเปกก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่อย่างใด ในขณะที่บางรุ่นดูแบบ HD ได้ทั้งที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางๆ คำตอบก็คือ สมาร์ทโฟนเหล่านั้นไม่ผ่านการรับรอง Widevine DRM L1 นั่นเอง คำถามต่อมาก็คือ Widevine DRM L1 คืออะไร?

รู้จักกับเทคโนโลยี DRM

หนังทุกเรื่องที่เราดูบน Netflix และผู้ให้บริกาสตรีมมิ่งอื่นๆ รวมไปถึงเพลง ล้วนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการปกป้องโดยเทคโนโลยีป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือ Digital Rights Management (DRM) ไม่ให้มีการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และแพลตฟอร์มป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผู้ให้บริการส่วนใหญ่เลือกใช้กัน ก็คือ Widevine DRM ของ Google

ตัวอย่างผู้ให้บริการสตรีมมิ่งที่ใช้ Widevine DRM

Widevine DRM ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ด้วยการแบ่งคุณภาพของไฟล์สตรีมมิ่งตามระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทาง หากมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ คุณภาพของไฟล์ที่สตรีมมาก็จะถูกจำกัดให้มีคุณภาพต่ำตาม ในทางกลับกัน ถ้ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ก็จะสามารถรับชมไฟล์คุณภาพสูงได้ โดยมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ L3, L2 และ L1 หากต้องการดู Netflix แบบ HD สมาร์ทโฟนของเราจะต้องผ่านมาตรฐาน L1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่านั้น

ระดับความปลอดภัยข้างต้น จะประเมินจาก Trusted Execution Environment (TEE) ที่อยู่ในชิปประมวลผลของอุปกรณ์ ซึ่งชิปตระกูล ARM Cortex-A ทุกรุ่น จะมีเทคโนโลยี TrustZone ที่ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการที่เชื่อถือได้ (เช่น Android) ในการสร้าง TEE ขึ้นมาเพื่อใช้กับเทคโนโลยี DRM 

การจะได้รับการรับรองความปลอดภัยในระดับ L1 นั้น การประมวลผลเนื้อหาข้อมูลทั้งหมด และการถอดรหัสข้อมูล จะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด Trusted Execution Environment (TEE) ของชิปประมวลผลทุกประการ เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะไม่มีทางนำไฟล์ออกไปสู่ภายนอกได้ 

สำหรับระดับความปลอดภัย L2 ขอเพียงแค่การถอดรหัสข้อมูลอยู่ในขอบเขตของ TEE เป็นใช้ได้ ส่วนระดับ L3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มี TEE 

ทั้งนี้ การตรวจรับรองมาตรฐาน Widevine DRM ไม่มีการเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ หรือค่าออกใบรับรองแต่อย่างใด ดังนั้นมันจึงไม่เกี่ยวกับต้นทุน และไม่ได้ทำให้สมาร์ทโฟนราคาแพงขึ้น เพราะสิ่งที่ต้องทำก็แค่ส่งตัวอย่างสมาร์ทโฟนไปให้ประเมินเท่านั้นเอง

จะรู้ได้อย่างไรว่าสมาร์ทโฟนของเราเป็น L1 หรือไม่?

ระดับมาตรฐานความปลอดภัย Widevine DRM จะไม่แสดงให้เห็นในหน้าสเปกทั่วไปของสมาร์ทโฟน ถ้าเราอยากรู้ ก็จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยนั่นคือแอปพลิเคชัน DRM Info ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีบน Play Store ครับ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DRM Info

เมื่อโหลดแอปมาแล้ว ให้เลื่อนลงมาที่ Widevine CDM และดูที่ Security Level เพียงเท่านี้ก็ทราบแล้วครับ ว่ามือถือของเราจะดู Netflix แบบ HD ได้หรือไม่

ตัวอย่างการตรวจสอบระดับความปลอดภัย DRM บน Redmi Note 8 Pro

ถึงตรงนี้หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยของใครหลายๆ คนเกี่ยวกับการรับชม Netflix และสตรีมมิ่งอื่นๆ แบบ HD ได้ สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกับสาระดีๆ จาก Thaimobilecenter ได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ

บทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 12/6/2563