รู้จักเทคโนโลยี 150W SUPERVOOC และ 240W SUPERVOOC ของ OPPO กับระบบชาร์จเร็ว เต็ม 100% ไม่ถึง 10 นาที จากงาน MWC 2022

OPPO เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่บุกเบิกเทคโนโลยีชาร์จเร็วในวงการสมาร์ทโฟน และมีการพัฒนามาอย่างไม่หยุดยั้งจนทำให้กลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมชาร์จเร็วในปัจจุบัน โดยจุดเริ่มต้นของระบบชาร์จเร็วของ OPPO เริ่มขึ้นในปี 2014 ด้วยการเปิดตัว VOOC Flash Charge (Voltage Open Loop Multi-Step Constant-Current Charging) ให้เห็นกันเป็นครั้งแรก โดยเป็นระบบชาร์จเร็วที่แตกต่างกับการชาร์จทั่ว ๆ ไป เพราะสามารถจ่ายกระแสไฟได้มากกว่า แถมยังปลอดภัยกว่าด้วยนวัตกรรมป้องกันแบบ 5 ขั้นตอน (Five-core Protection)

หลังจากที่สร้างเสียงฮือฮาในปี 2014 ต่อมาในปี 2018 ก็ได้มีการเปิดตัวระบบชาร์จที่เร็วไปอีกขั้น 50W SuperVOOC Flash Charge ที่ใช้บนมือถือสุดล้ำอย่าง OPPO Find X และได้มีการพัฒนาระบบชาร์จเร็วมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เราได้เห็นระบบชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC Flash Charge รวมถึงระบบการชาร์จไร้สายความเร็วสูงแบบ 50W AirVOOC Wireless Flash Charge

และเมื่อไม่นานมานี้ OPPO แสดงให้เห็นภายในงาน Mobile World Congress 2022 ด้านการเป็นผู้นำนวัตกรรมการชาร์จเร็ว ด้วยการเปิดตัว 2 เทคโนโลยีใหม่ ได้แก่ 150W SUPERVOOC พร้อม Battery Health Engine (BHE) และ 240W SUPERVOOC ระบบชาร์จที่เร็วที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ เราไปทำความรู้จักกับสองเทคโนโลยีใหม่นี้กันดีกว่าครับ

150W SUPERVOOC พร้อม BHE คืออะไร ?

150W SuperVOOC พร้อม Battery Health Engine หรือ BHE เป็นระบบชาร์จเร็วแบบกระแสตรงที่มีกำลังการจ่ายไฟสูงสุดระดับ 20V/7.5A โดยใช้ปั๊มชาร์จสองตัวเพื่อช่วยส่งพลังงานไปยบังแบตเตอรี่แบบคู่ เพื่อช่วยกระจายความร้อนภายในตัวเครื่อง และยังทำให้การชาร์จแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh เพียงแค่ 5 นาที ก็ได้แบตเตอรี่กลับมาถึง 50% และหากต้องการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ก็ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 15 นาทีเท่านั้น

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มคิดว่า ระบบชาร์จเร็วที่มีกำลังการจ่ายไฟระดับ 150W จะต้องมาพร้อมกับอแดปเตอร์ไซส์ใหญ่เหมือนกับที่ใช้บนแล็ปท็อป ซึ่งอาจไม่สะดวกต่อการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ แต่ในความจริงแล้ว อแดปเตอร์ของระบบชาร์จเร็ว 150W SUPERVOOC มีความยาว สูง และกว้างอยู่ที่ 58x57x30 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 172 กรัมเท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ มีขนาดเล็กพอ ๆ กับอแดปเตอร์ชาร์จเร็วแบบ 65W SUPERVOOC ที่ใช้ในสมาร์ทโฟน OPPO หลายต่อหลายรุ่นในปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้อแดปเตอร์จ่ายไฟกำลังสูงมีขนาดเล็กได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ OPPO เลือกใช้เทคโนโลยี GaN หรือแกลเลียมไนไตรด์ในหัวชาร์จ เพื่อลดขนาดของอุปกรณ์แปลงกำลังไฟฟ้า

นอกจากการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงบนสมาร์ทโฟนแล้ว อแดปเตอร์ Type-C ของหัวชาร์จ 150W SUPERVOOC ยังมาพร้อมกับมาตรฐานการชาร์ PD และ PPS ทำให้สามารถนำไปใช้ชาร์จกับอุปกรณ์อย่างแล็ปท็อป รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องพกอแดปเตอร์หลายตัวอีกต่อไป

ในส่วนของ BHE หรือ Battery Health Engine จะเป็นฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงสุขภาพแบตเตอรี่ โดยทำงานร่วมกับชิปจัดการแบตเตอรี่ที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้นมา โดย BHE จะประกอบไปด้วยเทคโนโลยีหลักทั้งหมด 2 อย่าง ได้แก่ 1. Smart Battery Health Algorithm และ 2. Battery Healing Technology

สำหรับ Smart Battery Health Algorithm มาพร้อมกับความสามารถด้านการมอนิเตอร์ศักย์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์เพื่อช่วยปรับกระแสไฟฟ้าการชาร์จให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ ลดการเกิดลิเธียมที่ตายแล้วอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ยังคงรักษากระแสไฟในการชาร์จให้อยู่ในระดับสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ และความเร็วด้านการชาร์จได้อย่างสมดุล

ส่วนทางด้าน Battery Healing Technology เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จากระบบภายในของแบตเตอรี่ โดยอิเล็กโทรดจะได้รับการซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องในระหว่างรอบการชาร์จ และการคายประจุของแบตเตอรี่ ทำ Solid Electrolyte Interface (SEI) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของแบตเตอรี่แบบลิเธียม มีความเสถียร และทนทานมากยิ่งขึ้น ช่วยลดการสึกหรอของขั้วไฟฟ้าแบตเตอรี่ จึงทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นแม้ว่าจะใช้งานร่วมกับระบบชาร์จความเร็วสูงก็ตาม

จากผลทดสอบของ OPPO เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไปในท้องตลาด จะสามารถรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ได้ที่ระดับ 80% หลังจากผ่านการชาร์จจนเต็มไปแล้ว 800 รอบ แต่เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 150W SUPERVOOC พร้อม BHE ของ OPPO จะสามารถรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ได้ในระดับเดียวกันหลังผ่านรอบการชาร์จจนเต็มไปแล้ว 1,600 รอบ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี BHE มีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพแบตเตอรี่ได้มากเลยทีเดียว

ส่องเทคโนโลยี 240W SUPERVOOC ชาร์จแบตเต็มใน 9 นาที !

นอกจาก 150W SUPERVOOC พร้อม BHE แล้ว OPPO ยังได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีการชาร์จเร็วขั้นสุดแบบ 240W SUPERVOOC ที่ถือว่าเป็นความก้าวล้ำด้านนวัตกรรมด้านการชาร์จอย่างแท้จริง เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh จาก 1-100% ได้ในเวลาประมาณ 9 นาทีเท่านั้น

สำหรับ 240W SUPERVOOC เป็นเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่รองรับการจ่ายไฟสูงสุดระดับ 24V/10A ผ่านอินเทอร์เฟสแบบ Type-C ที่มีปั๊มชาร์จสามตัว และสามารถแปลงพลังงานจ่ายไฟให้กับมือถือได้ที่ระดับ 10V/24A เพื่อช่วยให้การชาร์จเป็นไปอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของความปลอดภัย ทาง OPPO ได้ใช้มาตรการป้องกันความปลอดภัยแบบ 5 ประการ รวมทั้งมีการใช้ชิปควบคุมอัจฉริยะที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า รวมถึงอุณหภูมิระหว่างการชาร์จ เพื่อให้การชาร์จแบตเตอรี่มีความปลอดภัยในนะรดับสูงสุด โดยการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัย จะเริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสอบมือถือโดยรวมว่ามีความเสียหายจากภายนอกว่ามีความเสียหายหรือไม่ พร้อมทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิมากกว่า 13 ตัวที่ติดตั้งอยู่ในสมาร์ทโฟน เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนสูงจนเกินไป และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ระหว่างชาร์จแบตเตอรี่อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าทั้งเทคโนโลยี 150W SUPERVOOC พร้อม BHE และ 240W SUPERVOOC เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองการใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างแท้จริง ซึ่งก็น่าติดตามกันต่อไปว่าเทคโนโลยีของ OPPO ที่เปิดตัวให้เห็นภายในงาน Mobile World Congress 2022 จะถูกหยิบยกไปใช้งานในสมาร์ทโฟน OPPO รุ่นใดเป็นครั้งแรก ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

[บทความนี้เป็น Advertorial]

วันที่ : 15/3/2565