หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 14/1/2568

รู้จัก Bloatware แอปแถมที่ติดมากับมือถือจากโรงงาน แถมมาทำไม ทำไมบางแอปลบไม่ได้?

 

กำลังเป็นประเด็นร้อนในตอนนี้สำหรับกรณีที่สมาร์ทโฟน OPPO และ realme ได้ติดตั้งแอปเงินกู้มาให้จากโรงงาน แถมยังลบออกไม่ได้ จนทาง กสทช. ต้องออกมาจัดการ แต่จริง ๆ แล้วการติดตั้งแอปสารพัดในมือถือมาให้จากโรงงานไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเรียกแอปเหล่านี้ว่า “Bloatware” แต่ติดตั้งมาให้ทำไม และส่งผลกระทบอะไรกับผู้ใช้บ้างนั้น ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Bloatware ในสมาร์ทโฟนกันครับ

 

Bloatware คืออะไร

Bloatware หมายถึงแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งมาล่วงหน้าบนสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่ได้ร้องขอ แอปเหล่านี้อาจถูกติดตั้งโดยผู้ผลิตสมาร์ทโฟน (OEMs) หรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ตัวอย่างของ Bloatware ได้แก่ แอปการตลาด, เกมทดลองใช้, หรือแม้แต่บริการพิเศษที่ผู้ผลิตต้องการนำเสนอ ซึ่งไม่ได้มีแค่ในสมาร์ทโฟน OPPO หรือ realme ที่เป็นข่าวเท่านั้น แต่มีอยู่ในทุกยี่ห้อและมีมานานแล้ว แม้กระทั่งบนคอมพิวเตอร์ Windows ก็มีเหมือนกันครับ

 

ทำไมมือถือถึงต้องมี Bloatware

คำถามที่เกิดขึ้นแน่ ๆ คือ ผู้ผลิตติดตั้งแอปพวกนี้มาทำไม ในเมื่อผู้ใช้อยากใช้แอปอะไรก็ไปโหลดเอาเองได้ แบบนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลหรือเปล่า? แน่นอนว่าเรื่องนี้มีเหตุผลของมันอยู่ ซึ่งแยกเป็น 3 ข้อหลัก ๆ ได้ดังนี้

1. การตลาดและการสร้างรายได้

ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งผู้ให้บริการเครือข่ายบางราย จะได้รับค่าตอบแทนจากบริษัทซอฟต์แวร์เพื่อให้ติดตั้งแอปเหล่านี้ลงในอุปกรณ์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้พัฒนาแอปจะจ่ายเงินให้ผู้ผลิตมือถือเพื่อติดตั้งแอปของตัวเองลงไปในเครื่องจากโรงงาน เจ้าของแอปได้ยอดดาวน์โหลดและเข้าถึงผู้ใช้ง่ายขึ้น ส่วนผู้ผลิตก็ได้ค่าตอบแทนไป

2. การสร้างแบรนด์

แอปบางตัวถูกออกแบบมาเพื่อโปรโมตบริการของบริษัทผู้ผลิต เช่น แอปสโตร์เฉพาะของแบรนด์นั้น ๆ หรือบริการคลาวด์ อย่างเช่น AppGallery ของ HUAWEI, Mi Store ของ Xiaomi, OPPO Share สำหรับการส่งไฟล์ ไปจนถึงแอปติดตามสุขภาพอย่าง Samsung Health ที่เอาไว้ใช้คู่กับสมาร์ทวอทช์ เป็นต้น

3. ข้อเสนอสำหรับผู้ใช้

ผู้ผลิตบางรายอาจมองว่า Bloatware เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มมูลค่า เช่น แอปสำหรับการจดโน้ต หรือแอปที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนมีประโยชน์มากขึ้น

 

Bloatware มีผลดีผลเสียยังไงต่อผู้ใช้

Bloatwate ไม่ได้เป็นแอปอันตรายเสมอไป เพราะบางส่วนก็เป็นแอปที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพัฒนาขึ้นเองเพื่อมาเสริมการใช้งาน ส่วนแอปอื่น ๆ ที่เป็น third-party ผู้ผลิตก็จะต้องคัดก่อนอยู่แล้ว ส่วนในมุมมองของผู้ใช้อย่างเรา ๆ ก็จะมีผลดีผลเสียดังนี้ครับ

ผลดี:

  • ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่มีประโยชน์: แอปบางตัวอาจมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้โดยตรง เช่น แอปช่วยสำรองข้อมูล หรือแอปกล้องที่มีฟีเจอร์พิเศษ หรือก็คือแอปที่มีประโยชน์ในการใช้งานจริง ๆ นั่นเอง
  • บริการครบวงจร: หลายแอปก็เป็นแอปที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องโหลดอยู่แล้ว เช่น แอปธนาคารต่าง ๆ ซึ่งมือถือบางยี่ห้อก็ติดตั้งมาให้จากโรงงานเลย ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาไปดาวน์โหลดเพิ่ม

ผลเสีย:

  • เปลืองพื้นที่เก็บข้อมูล: แอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น อย่างเช่นเกมเล่นฆ่าเวลา, แอปโซเชียลบางตัว หรือแอปอะไรก็ตามที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับผู้ใช้ แน่นอนว่าแอปพวกนี้มีไว้ก็หนักเครื่อง เปลืองพื้นที่จัดเก็บของอุปกรณ์โดยใช่เหตุไปเปล่า ๆ
  • หนักเครื่อง: Bloatware บางตัวอาจทำให้มีการทำงานเบื้องหลังแม้เราจะไม่เคยเปิดใช้เลยก็ตาม จึงไปแย่งใช้ทรัพยากรระบบ และทำให้สมาร์ทโฟนมีอาการหน่วง, ค้าง, กระตุก, เด้ง ให้ผู้ใช้ได้หงุดหงิดรำคาญกันไป
  • เสียเวลาลบ: หากไม่ต้องการแอปที่แถมมา ผู้ใช้ต้องไล่ลบเอาเองทีละตัว ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่น้อย ๆ แถมบางแอปก็ลบทิ้งไม่ได้ หรือลบแล้วสักพักก็กลับมาอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก

 

ทำไม Bloatware บางตัวถึงลบไม่ได้

นอกจากจะโผล่มาในมือถือเราแบบไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำแล้ว Bloatware บางตัวยังลบออกจากมือถือไม่ได้ด้วย ซึ่งเป็นเพราะแอปพลิเคชันเหล่านี้ถูกออกแบบให้เป็นแอประบบ หรือ System Apps ซึ่งจะผูกตัวเองเข้ากับระบบปฏิบัติการ จึงถือว่ามีความสำคัญต่อการทำงานของระบบ (แม้จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ก็ตาม) ระบบจึงล็อกไม่ให้ลบแอปเหล่านี้ออกเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานโดยรวม นอกจากนี้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบางรายยังล็อกการลบ Bloatware เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงทางการตลาด หรือเพื่อรักษาประสบการณ์ใช้งานที่ออกแบบมาเฉพาะของแบรนด์นั้น ๆ ด้วย

 

ไม่อยากได้ Bloatware ทำอย่างไร

หากใครต้องการใช้สมาร์ทโฟนที่ปราศจาก Bloatware บอกเลยว่า “ยาก” เพราะสมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อต่างก็มี Bloatware แถมมาให้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามากน้อยแค่ไหน และมีประโยชน์จริง ๆ หรือไม่ ส่วนยี่ห้อสมาร์ทโฟนที่มี Bloatware น้อยในปัจจุบันก็ยังพอมีตัวเลือกอยู่บ้าง อย่างเช่น

  • iPhone
  • Google Pixel
  • Sony Xperia
  • HMD (Nokia)
  • Nothing Phone

 

สรุป

Bloatware เป็นดาบสองคมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อผู้ใช้ แม้ว่าบางแอปจะมีประโยชน์และช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งาน แต่ผู้ใช้หลายคนยังคงมองว่าเป็นภาระที่ไม่จำเป็น และอาจมองได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธื์ของผู้ใช้

กรณีของ OPPO และ realme ที่มีแอปสุ่มเสี่ยงเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในอนาคต ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องหาสมดุลระหว่างการนำเสนอ Bloatware และความสบายใจของผู้ใช้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

 


วันที่ : 14/1/2568

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy