หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 12/12/2561

เปิดตัว Vivo NEX Dual Display เรือธงรุ่นท็อปจัดเต็ม 2 จอหน้า-หลัง พร้อมกล้อง Triple Camera ชิป Snapdragon 845 จับคู่ RAM จุใจ 10GB และระบบสแกนนิ้วใต้จอ!

 

ล่าสุดก็เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะสำหรับ Vivo NEX Dual Display สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปจากตระกูล NEX Series ของค่าย Vivo ที่มีจุดเด่นเป็นหน้าจอการแสดงผลแบบคู่ตามชื่อรุ่นนั่นเอง ทั้งที่ด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมกับติดตั้งระบบกล้อง 3 ตัว (Triple Camera) โดยไม่มีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ที่หน้าจอหลัง ซึ่งจะใช้งานกล้อง 3 ตัวกับหน้าจอหลังในการถ่ายเซลฟี่นั่นเอง ทางด้านสเปกก็จัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 845 พร้อมกับหน่วยความจำแรม (RAM) ที่มากถึง 10GB และเทคโนโลยีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือภายใต้หน้าจอเวอร์ชันใหม่ที่สามารถปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.29 วินาที รวมถึงระบบการปลดล็อกด้วยใบหน้าแบบ 3D ที่สามารถปลดล็อกได้แม้ในที่มืด

 

สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Vivo NEX Dual Display

- ตัวเครื่องมีขนาด 157.19x75.3x8.09 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 199.2 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบคู่ (Dual Display) หน้าจอหลักที่ด้านหน้า Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) ส่วนหน้าจอรองที่ด้านหลังขนาด 5.49 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080x1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 845
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 10GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB
- กล้องดิจิทัล 3 ตัวแบบ Triple Camera ความละเอียด 12 + 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX363 มีรูรับแสงขนาด F/1.79+F/1.8 และกล้อง TOF 3D Camera ที่มีขนาด F/1.3 โดยรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, ฟังก์ชัน AI Scene Recognition และเทคโนโลยี Body & Face Shaping 
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh พร้อมเทคโนโลยี Fast Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ซึ่งถูกครอบทับด้วย Funtouch Os 4.5
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Screen Fingerprint)
- ระบบสแกนใลหน้าแบบ 3D (Zero Light Face Recognition) ที่สามารถปลดล็อกได้แม้ในที่มืด
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM) พร้อมเทคโนโลยี Full Netcom
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C

Vivo NEX Dual Display เปิดราคาที่ 4,998 หยวน หรือประมาณ 23,800 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันค่ะว่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยหรือไม่ 

 

ที่มา : Vivo


วันที่ : 12/12/2561

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy