รวม 10 มือถือกล้องดีที่สุดแห่งปี 2017 จาก GSMArena กล้องมือถือรุ่นไหนมีจุดเด่นอย่างไร มาดูกัน!
ในปี 2017 สิ่งหนึ่งที่เราเห็นจากวงการสมาร์ทโฟนนั่นก็คือ การแข่งขันในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ที่หลายต่อหลายค่างได้ทำการพัฒนาให้มีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ทำให้ช่วยผู้ใช้อย่างเราๆ สามารถเก็บภาพความประทับใจได้ดีกว่าเดิม ซึ่งแม้ว่าหลายแบรนด์ได้หันไปเลือกใช้งานระบบกล้องคู่ (Dual-Camera) เพื่อเพิ่มลูกเล่นในการถ่ายภาพกันบ้างแล้ว ก็ยังมีหลายแบรนด์เช่นเดียวกันที่ยังมั่นใจในกล้องเพียงแค่ตัวเดียว แต่ก็ทดแทนด้วยการพุ่งเป้าพัฒนาซอฟท์แวร์ประมวลผลภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยวิเคราะห์ และปรับแต่งภาพถ่ายให้มีความสวยงามมากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งนอกเหนือจากการจัดอันดับกล้องสมาร์ทโฟนโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำอย่าง DxOMark แล้ว ทางสื่อต่างประเทศอย่าง GSMArena ที่ได้ทดลองใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ มาโดยตลอดปี 2017 ก็ได้มีการรวบรวม 12 สมาร์ทโฟนที่มีความยอดเยี่ยมด้านการถ่ายภาพด้วยเช่นกัน แต่จะมีรุ่นไหนติดโผบ้าง และแต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไรนั้น เราลองไปติดตามกันเลยดีกว่าครับ
*รายชื่อสมาร์ทโฟนด้านล่างเป็นการรวบรวมของ GSMArena โดยวัดจากประสิทธิภาพของกล้องหลังเท่านั้น
Google Pixel 2 / Pixel 2 XL
กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 27 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจด้านกล้องถ่ายภาพรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับ Pixel 2 และ Pixel 2 XL แชมป์มือถือกล้องดีสุดในโลกจาก DxOMark ณ ชั่วโมงนี้ โดย Pixel 2 ได้มีการลดขนาดเซ็นเซอร์รับภาพให้เล็กลงจากรุ่นเดิมที่ 1/ 2.6 “ พร้อมกับเพิ่มเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel คล้ายกับค่าย Samsung มาให้ด้วย
โดย Pixel 2 และ Pixel 2 XL มาพร้อมกับกล้องเดี่ยวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีกล้องเพียงตัวเดียว แต่สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยฟีเจอร์ Portrait Mode ได้ โดยอาศัยการทำงานของเทคโนโลยี Dual Pixel และปัญญาประดิษฐ์ของ Google ทีได้เรียนรู้ภาพถ่ายต่างๆ มาเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านภาพ จึงทำให้สามารถแยกแยะได้ว่า ส่วนใดคือตัวแบบ หรือวัตถุที่ควรโฟกัส และส่วนใดคือพื้นหลัง ทำให้ Pixel 2 และ Pixel 2 XL สามารถละลายฉากหลังได้อย่างเนียนตานั่นเอง
นอกเหนือจากความสามารถในการถ่าย Portrait Mode แล้ว Pixel 2 ยังมีจุดเด่นในเรื่องการถ่ายภาพกลางแจ้ง, การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย การเก็บรายละเอียด, สีสัน รวมไปถึงการจัดการ Noise ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่มีกล้องที่ไว้วางใจได้ในทุกสภาพแสง และทุกสถานการณ์เลยทีเดียว
Samsung Galaxy Note 8 / Galaxy S8
กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องหลักแบบ Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 26 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.7 และกล้องรองแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 52 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.4
หากพูดถึงหนึ่งในสมาร์ทโฟนเมื่อช่วงต้นปีที่มีประสิทธิภาพด้านกล้องถ่ายรูป จะต้องมีชื่อของ Samsung Galaxy S8 ติดอยู่อย่างแน่นอน เนื่องจากมาพร้อมกับจุดเด่นด้านอัลกอริทีมในการจัดการ Noise พร้อมรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.7, เซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ ตลอดจนถึงการติดตั้งระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS มาให้ จึงทำให้ Galaxy S8 มีจุดเด่นด้านการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยนั่นเอง
ซึ่งทาง Samsung ก็ได้ทำการยกประสิทธิภาพของกล้อง S8 มาใส่ไว้บน Galaxy Note 8 ด้วยเช่นเดียวกัน แต่คราวนี้อัปเกรดใหม่ด้วยการหันไปใช้งานระบบกล้องคู่ (Dual-Camera) เป็นรุ่นแรกของค่าย ด้วยการเพิ่มกล้องรองแบบ Telephoto เข้ามา เพื่อช่วยในการซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียดได้ 2 เท่า (Optical Zoom 2X) รวมไปถึงการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยฟีเจอร์ Live Focus
LG V30 / LG6
LG V30 : กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 30 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.6 และกล้องรองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 13 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.9
หลังจากที่แบรนด์สมาร์ทโฟนจากประเทศเกาหลี ได้ริเริ่มการนำระบบกล้องคู่มาติดตั้งบนมือถือของตนเองในรุ่น LG V10 หลังจากนั้น มือถือเรือธงของ LG ก็ได้ยึดการใช้งานระบบกล้องคู่มาโดยตลอด ซึ่งระบบกล้องคู่ของ LG นั้นมีจุดเด่นด้านการเลือกใช้เลนส์มุมมองกว้างแบบ Ultra Wide ทำให้เก็บมุมมองของภาพถ่ายได้กว้างกว่ากล้องสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป โดยใน LG V30 ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีนี้ก็ยังคงใช้ระบบนี้อยู่เช่นเดิม ซึ่งหากใครที่ชอบภาพแบบกว้างๆ เหมือนถ่ายจากกล้อง Active Cam น่าจะถูกอกถูกใจไม่ใช่น้อย ส่วนคุณสมบัติด้านอื่นก็ถือว่าน่าสนใจ ทั้งการเลือกใช้จอ OLED แทบไร้ขอบ ผสานพลังคู่กับชิปไฮเอนด์ Snapdragon 835 แต่หากใครที่ต้องการประหยัดงบ LG G6 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่มีความโดดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพมุมกว้างเช่นเดียวกัน
iPhone X / iPhone 8 Plus
iPhone X : กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.22 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 28 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 และกล้องรองแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซล 1.0 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 52 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.4
Apple เริ่มหันมาใช้ระบบกล้องคู่ตั้งแต่ iPhone 7 Plus โดยเลนส์ตัวที่สองที่เพิ่มเข้ามานั้น เลือกใช้เป็นแบบ Telephoto เพื่อช่วยในเรื่องของการซูมภาพแบบ Optical Zoom 2x ซึ่งบน iPhone X และ iPhone 8 Plus ที่เปิดตัวไปในปีนี้ ก็ยังคงเลือกใช้งานระบบเดิมอยู่ แต่ได้ปรับปรุงเรื่องการถ่ายภาพบุคคลให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการปรับปรุงในจุดอ่อนของ iPhone รุ่นเก่าๆ ด้านเรื่องของสีสันภาพที่ดูมืดและค่อนข้างไร้ชีวิตชีวา เคยเป็นจุดอ่อนของ iPhone รุ่นก่อนๆ ด้วย
Huawei Mate 10 / Mate 10 Pro
กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 27 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.6 และกล้องรองความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 27 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.6
Huawei ได้เริ่มใช้งานระบบกล้องคู่มาซักพักแล้ว ซึ่งรุ่นที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีนั่นก็คือ Huawei P9 ซึ่งในรุ่น Mate 10 Series ก็ยังคงเลือกใช้งานระบบกล้องคู่ที่ร่วมพัฒนากับ Leica โดยแบ่งออกเป็น เซ็นเซอร์รับภาพสี RGB + เซ็นเซอร์รับภาพขาวดำ Monochrome อยู่เช่นเดิม ทำให้ภาพขาวดำที่ได้เป็นภาพขาวดำแบบแท้ๆ ที่มีการไล่ระดับโทนสีภาพอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การปรับแต่งด้วยซอฟท์แวร์นั่นเอง ส่วนการถ่ายภาพสีก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ Huawei Mate 10 ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย รวมทั้งกล้องทั้งสองตัวยังสามารถทำงานร่วมกันเพื่อถา่ยภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย
HTC U11+ / HTC U11
HTC U11+ : กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 26 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.7
HTC U11+ และ U11 ถือว่าเป็นหนึ่งในมือถือที่มีความโดดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพทั้งคู่ โดยกล้องของ HTC U11 นั้น เคยขึ้นแท่นมือถือกล้องดีที่สุดจาก DxOMak มาแล้ว ซึ่งในรุ่น HTC U11+ ก็ได้มีการต่อยอดประสิทธิภาพด้านกล้องถ่ายภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยการปรับปรุงเรื่องการเก็บรายละเอียด รวมไปถึงการจับโฟกัสภาพ โดยมาพร้อมกับความละเอียดเท่าเดิมที่ 12 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ Dual Pixel ขนาด 1/ 2.6”
Nokia 8
กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็นกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 27 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องรองความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพขาวดำ Monochrome เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 27 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.0
สำหรับ Nokia 8 ถือว่าเป้นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่หลายฝ่ายตั้งตารอมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นมือถือระดับเรือธงรุ่นแรกของค่ายพี่ใหญ่ Nokia หลังกลับมาบุกตลาดในปี 2017 นั่นเอง โดย Nokia 8 มาพร้อมกับระบบกล้องคู่สี + ขาวดำ คล้ายกับทางฝั่งของ Huawei แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องของความละเอียดกล้องที่น้อยกว่า แต่อย่างไรก็ดี กล้องของ Nokia 8 ถือว่ามีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือกถ่ายภาพขาวดำแบบแท้ๆ โดยอาศัยการทำงานของกล้องรองที่ติดตั้งมาให้ และที่สำคัญ Nokia 8 สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอผ่าน Portrait Mode ได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ได้อีกด้วย
Sony Xperia XZ1
กล้องหลักความละเอียด 19 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.22 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 25 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.0
Sony เป็นอีกหนึ่งค่ายที่มีการแข่งขันด้านความละเอียดของกล้องถ่ายภาพมาโดยตลอด ซึ่งในบางรุ่นแม้ว่าจะเป็นระดับกลาง ก็จัดเต็มด้านกล้องถ่ายภาพมาให้ที่ความละเอียด 23 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ส่วนในรุ่นเรือธงอย่าง XZ1 ก็จัดวางมาให้ที่ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งมือถือกล้องเดี่ยวที่มีกล้องความละเอียดสูงกว่าคู่แข่งปีนี้เลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ดี XZ1 ยังมีปัญหาในเรื่องการเก็บรายละเอียดภาพถ่าย เมื่อต้องถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แต่คาดว่าในรุ่นต่อๆ ไปอาจได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นมากกว่านี้ หลังเริ่มมีสเปกบางส่วนของเรือธงรุ่นใหม่ ที่เริ่มหันมาใช้ระบบกล้องคู่หลุดออกมาให้รับชมกันบ้างแล้ว
Xiaomi Mi 6
กล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) โดยแบ่งออกเป็นกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.25 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 27 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 และกล้องรองแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.0 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 52 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.6
Xiaomi Mi 6 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถซูมแภาพแบบ Optical Zoom 2x ได้เหมือนกับเรือธงแบรนด์อื่นๆ ด้วยการติดตั้งกล้องเลนส์ Telephoto มาให้ด้วย นอกจากนี้ Xiaomi ยังได้มีการระบบแยกแยะตัวแบบออกจากพื้นหลัง เพื่อช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ คล้ายกับทางฝั่ง Note 8 หรือ iPhone X / 8 Plus รวมทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพในหลายสถานการณ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมือถือกล้องคู่ราคาประหยัดที่พกพาความน่าสนใจมาพอสมควรเลยทีเดียว
Moto Z2 Play
กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน ทางยาวโฟกัส 26 มม. พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.7
สำหรับคุณสมบัติโดยรวมของ Moto Z2 Play จะถูกจัดวางมาให้อยู่ในระดับกลาง แต่สำหรับด้านกล้องถ่ายภาพนั้น ถือว่ามาพร้อมกับสเปกระดับเรือธงเลยทีเดียว ด้วยการติดตั้งกล้องมาให้ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดถึง f/1.7 เทียบชั้นกับเรือธงจากค่าย Samsung เลยทีเดียว ซึ่งจากคุณสมบัตินี้ ทำให้ Moto Z2 สามารถเก็บภาพคุณภาพสูงได้อย่างน่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน
อย่างไรก็ดี รายชื่อสมาร์ทโฟนด้านต้นก็มาจากการรวบรวมของ GSMArena เท่านั้น ซึ่งกล้องของมือถือรุ่นใดจะดีกว่ากันนั้น ทางทีมงานคงไม่สามารถตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลด้วย แต่ก็เป็นที่น่าสนใจว่า กล้องสมาร์ทโฟนในปี 2018 นี้ จะถูกพัฒนาไปในทิศทางใด จะหันมาใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยวิเคราะห์ภาพถ่ายมากขึ้น หรือติดตั้งกล้องหลังมาให้มากกว่า 2 ตัวหรือไม่ คงต้องจับตาดูกันดีๆ ครับ
ที่มา : GSMArena
วันที่ : 18/12/2560