เจาะ 10 อันดับสมาร์ทโฟนกล้องเทพจาก DxOMark พร้อมจุดเด่นเฉพาะตัว รุ่นไหนน่าซื้อบ้างในชั่วโมงนี้?
การถ่ายภาพเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ต่อให้สเปกสูงแค่ไหน ถ้าถ่ายรูปไม่สวยก็ไม่อาจเรียกว่าเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนได้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งหลายจึงพยายามพัฒนาเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอย่างไม่หยุดหย่อน และแข่งขันกันแบบไม่มีใครยอมใคร ขณะเดียวกัน ผู้ใช้ที่หลงใหลในการถ่ายรูปต่างก็พยายามมองหาสมาร์ทโฟนกล้องเทพมาเป็นอาวุธคู่มือ แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่มากมายในท้องตลาด การหาสมาร์ทโฟนหนึ่งเดียวที่ใช่จึงไม่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจึงได้นำ 10 สุดยอดสมาร์ทโฟนกล้องเทพจากการจัดอันดับโดย DxOMark มาให้ชมกัน พร้อมทั้งจุดเด่น-จุดด้อยด้านการถ่ายภาพ และความน่าซื้อของแต่ละรุ่น มาช่วยให้ทุกคนเลือกสมาร์ทโฟนโดนใจได้ง่ายขึ้นครับ
สำหรับ 10 อันดับสมาร์ทโฟนที่ได้คะแนนสูงสุดจาก DxOMark ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2020 มีดังนี้ :
ทั้งนี้ เราจะไม่พูดถึง Honor 30 Pro+ และ Honor V30 Pro เนื่องจากยังไม่ได้วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการครับ
Huawei P40 Pro
จุดเด่น
- ช่วง dynamic range กว้างมาก
- รักษารายละเอียดของภาพที่การซูมระยะกลางถึงไกลได้ดี
- Autofocus ทำงานรวดเร็ว แม่นยำในทุกสภาวะ
- สมดุลระหว่าง texture และ noise ดีมาก
- วัดแสงได้แม่นยำเมื่อถ่ายในเวลากลางคืน
- เก็บรายละเอียดภาพแนว bokeh ได้ดี
จุดอ่อน
- ประมวลผลสีสันและสมดุลแสงขาวเพี้ยนไปบ้างในบางครั้ง
- การถ่ายในสภาวะแสงจ้าบางครั้งมืดเกินไป (underexposure)
- รายละเอียดเล็กๆ ของใบหน้ายังไม่คม และมี noise ค่อนข้างชัดเมื่อถ่ายด้วย Night Mode
น่าซื้อหรือไม่?
ถ้าพูดถึงการถ่ายรูป สมาร์ทโฟน Huawei เป็นตัวเต็งมาแต่ไหนแต่ไร และในตอนนี้ Huawei P40 Pro เรือธงรุ่นล่าสุดก็ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของ DxOMark ไปตามคาด นอกจากเรื่องถ่ายรูป เรื่องสเปกก็ไฮเอนด์สมฐานะเรือธง โดยมากับชิปเซ็ต Kirin 990 ตัวท็อป เรียกได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบเกือบทุกด้าน แต่จุดที่ต้องพิจารณา คือการที่ Huawei P40 Pro ไม่สามารถใช้ Google Services ใดๆ ได้เลย ถึงแม้จะยังลงแอปพลิเคชันด้วย APK ได้อยู่ แต่บริการบางอย่างที่เราคุ้นเคยอย่าง Maps หรือ Drive ก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดี ผู้ใช้ทั่วไปที่คุ้นเคยกับ Google มาก่อนจึงใช้งานลำบาก แต่ถ้ารับตรงนี้ได้ Huawei P40 Pro คือสมาร์ทโฟนเรือธงที่ถ่ายรูปสวยที่สุด และน่าซื้อที่สุดในตอนนี้แล้วครับ
OPPO Find X2 Pro 5G
จุดเด่น
- Autofocus ยอดเยี่ยม
- สีสวย มี dynamic range กว้าง
- มี Noise น้อยมากในทุกสภาพแสง
- รักษารายละเอียดของภาพที่ระยะการซูมใกล้ และไกลได้ดี
- ภาพถ่ายแบบ Ultra Wide แทบไม่เบี้ยวเลย
- เอฟเฟกต์ bokeh สมจริง และมี dynamic range กว้าง
จุดอ่อน
- รายละเอียดบริเวณขอบภาพลดลงที่การซูมระยะกลาง
- ในโหมด Portrait บางครั้งฟังก์ชั่น HDR จะไม่ทำงาน โดยเฉพาะเมื่อถ่ายในที่ร่ม
- ภาพแบบ Ultra Wide ยังมีรายละเอียดไม่คมเท่าที่ควร
น่าซื้อหรือไม่?
OPPO Find X2 Pro 5G คือเรือธงระดับ Master Piece ของ OPPO ที่มีความโดดเด่นตั้งแต่บอดี้ที่เป็นเซรามิกสุดพรีเมียม, จอ AMOLED 120Hz, หน่วยความจำ RAM 12GB + ROM 512GB ที่เรียกได้ว่าเหลือเฟือ, ชาร์จแบตเตอรี่ไวเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ และยังรองรับ 5G แต่ก็มีราคาที่สูงมากเป็นเงาตามตัว แต่ราคาค่อนข้างสูง โดยรุ่น Pro 5G มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 40,990 บาท ถึงแม้จะซื้อแบบติดโปรกับโอเปอเรเตอร์ก็ยังมีราคาอยู่ที่ 20,000 บาทขึ้นไปซึ่งก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ OPPO หรือต้องการสมาร์ทโฟนชั้นยอดจริงๆ สเปกและฟีเจอร์หลายๆ อย่างของ Find X2 Pro 5G ดูจะเกินความจำเป็นไปมาก ขยับลงมาเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่างตระกูล Reno น่าจะเหมาะกับความต้องการและสบายกระเป๋ากว่า แต่ถ้าไม่ติดเรื่องงบ OPPO Find X2 Pro 5G น่าเป็นเจ้าของมากๆ ครับ
Xiaomi Mi 10 Pro
จุดเด่น
- รายละเอียดดี และมีสมดุลระหว่าง texture และ noise โดยเฉพาะในที่ที่มีแสงจ้า
- สมดุลแสงขาวและการวัดแสงแม่นยำ คงที่
- รักษารายละเอียดที่ระยะซูมกลางถึงไกลได้ดี
- คำนวณมิติความลึกได้แม่นยำ ให้เอฟเฟกต์ bokeh ที่ดูดี
- การถ่ายแบบ Ultra Wide เก็บรายละเอียดในสภาวะแสงจ้าได้ดี
จุดอ่อน
- หน้าคนหลุดโฟกัสบ่อย
- บางครั้งสีออกมาจืดเกินไป โดยเฉพาะโทนสีแดง
- มี noise ในจุดที่เป็นเงา
- เกิด ghosting บ่อยๆ เมื่อถ่ายแบบ Ultra Wide และเปิด HDR
น่าซื้อหรือไม่?
Xiaomi Mi 10 Pro มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 29,990 บาท ถ้าดูจากสเปกของฮาร์ดแวร์ และราคาของสมาร์ทโฟน Mi รุ่นอื่นๆ ราคานี้ถือว่าแพงพอสมควร ชุดกล้องหลัง 4 ตัวใช้เซ็นเซอร์รับภาพหลัก Samsung ISOCELL Bright HMX ความละเอียด 108 ล้านพิกเซลเหมือนกับ Mi Note 10 Pro และมีชุดเลนส์เสริมที่คล้ายๆ กัน แต่ Mi 10 Pro จะนำเลนส์ Portrait มาแทนที่เลนส์ Telephoto และ Macro ของ Mi Note 10 Pro พร้อมทั้งมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ และอัปเกรดพลังการประมวลเป็น Snapdragon 865 ทำให้คุณภาพของรูปถ่ายโดยรวมออกมาดีกว่า ส่วนสเปกด้านอื่นๆ ก็ครบเครื่องสมฐานะเรือธง โดยมีทั้งระบบชาร์จไว 50W, RAM แบบ LPDDR5, ROM แบบ UFS 3.0 และระบบระบายความร้อน LiquidCool 2.0 ถ้าอยากได้มือถือที่สเปกสูงด้วย ถ่ายรูปดีด้วย Xiaomi Mi 10 Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมีราคาใกล้เคียงกับ Huawei Mate30 Pro 5G และยังใช้ Google Services ได้ตามปกติ และราคาก็ยังถูกกว่า OPPO X2 Pro มาก แต่ถ้าต้องการเพียงแค่ถ่ายรูป ไม่เน้นสเปกแรงๆ Xiaomi Mi Note 10 Pro เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะคุณภาพของรูปถ่ายไม่ต่างกันมากนัก แต่ราคาประหยัดกว่ากันเยอะเลยครับ
Huawei Mate30 Pro / Mate30 Pro 5G
จุดเด่น
- รายละเอียดภาพสูงในเกือบทุกสภาวะ
- วัดแสงได้ดีในการทดสอบทุกสภาวะ
- ถ่ายกลางแจ้งให้สีสวยสดใส
- ควบคุม noise ได้ดี
- คำนวณความลึกได้ดี และมีช่วง dynamic range กว้าง ในโหมด bokeh
- รักษารายละเอียดได้ดีที่ระยะซูมใกล้-กลาง
- วัดแสง สมดุลแสงขาวดีเมื่อเปิดแฟลช
จุดอ่อน
- เกิด clipped highlight บ้างในสภาวะแสงจ้า
- บางครั้งสีของภาพจะออกมาแก่กว่าปกติเมื่อถ่ายในที่ร่ม
- บางครั้งสีจะซีดในโหมด bokeh
- สมดุลแสงขาวคลาดเคลื่อนไปบ้างเมื่อซูม
- วัดแสง สมดุลแสงขาวไม่ค่อยคงที่เมื่อเปิดแฟลช
น่าซื้อหรือไม่?
นี่คือตัวเต็งด้านการถ่ายรูปของปี 2019 แม้จะเปิดตัวมาเกือบปีแล้วแต่สเปกและการถ่ายรูปยังถือว่าจัดจ้านอยู่ ถ้าซื้อเครื่องเปล่า Mate30 Pro 5G จะมีราคาจะเท่ากับ Xiaomi Mi 10 Pro ส่วนรุ่นที่ไม่มี 5G ก็จะมีราคาถูกกว่าเล็กน้อย แต่ดีกว่าตรงที่ซื้อแบบติดโปรกับผู้ให้บริการเครือข่ายได้ ทำให้ราคาเริ่มต้นเหลืออยู่ที่ประมาณ 15,000 - 18,000 บาท ซึ่งไม่เกินเอื้อมมากนัก พลังในการถ่ายรูปและสเปกเรียกได้ว่าหายห่วง แต่ตัวเครื่องยังมีรอยบากบนหน้าจอที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบจุดนี้ ส่วนข้อเสียเปรียบคงหนีไม่พ้นการที่ใช้ Google Services ไม่ได้ ผู้ใช้ทั่วไปที่ชินกับ Google จะใช้งานลำบากพอสมควร แต่ถ้าใครสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ (ซึ่งไม่ยากเท่าไหร่) ก็จัดว่าน่าซื้อพอสมควรเพราะราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเรือธงคู่แข่งแบรนด์อื่นครับ
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
จุดเด่น
- รูปถ่ายมีสีสวยสดใส
- ช่วง dynamic range กว้าง
- ควบคุม noise ได้ดี
- วัดแสงและคำนวณสีสันได้อย่างยอดเยี่ยมในการถ่ายแบบ Ultra Wide
- วัดแสงและเก็บรายละเอียดได้ดีเมื่อใช้แฟลช
จุดอ่อน
- Autofocus ทำงานช้าในสภาวะแสงน้อย
- สมดุลแสงขาวเพี้ยนบางครั้ง ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง
- เกิด fusion artifacts ชัดเจนเมื่อซูม
- การถ่ายแบบ Ultra Wide มี clipped highlight (จุดที่สว่างจนไม่มีข้อมูลสีอยู่เลย) เก็บรายละเอียดไม่ดีนัก และมี artifacts ชัดเจน
- Night Mode มักจะออกมามืดกว่าที่ควร และแสดงสีเพี้ยน
น่าซื้อหรือไม่?
Samsung เป็นสมาร์ทโฟนที่หาอุปกรณ์เสริมง่าย ศูนย์บริการเยอะ เป็นแบรนด์หลักที่มีความน่าเชื่อถือสูง คุณภาพของสมาร์ทโฟนโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี จัดโปรโมชั่นได้ทุกค่าย ใครที่ไม่รู้จะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนอย่างไร Samsung เป็นตัวเลือกที่ชัวร์ที่สุดเสมอ ถึงแม้รุ่นท็อปจะมีราคาสูงพอๆ กับ OPPO Find X2 Pro 5G แต่มี Galaxy Gift และ Galaxy Rewards ที่คอยมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษให้เราอยู่ตลอด ซึ่งคุ้มมากๆ ในระยะยาวถ้าใช้เป็นประจำ แต่ในกรณีนี้ ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพการทำงานของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ยังไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากชิปเซ็ต Exynos 990 ยังมีพลังการประมวลผลเป็นรอง Snapdragon 865 อยู่ และตัวกล้องก็ยังมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เช่นความร้อน และ Autofocus แต่ทั้งนี้ คุณภาพของรูปถ่ายจาก Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ไม่ได้ต่างจากรุ่นรองอย่าง S20+ มากนัก จะได้เปรียบชัดเจนที่ระยะการซูมเท่านั้น ส่วนสเปกก็แรงไล่เลี่ยกัน เพราะฉะนั้นถ้าไม่ซีเรียสเรื่องการซูม Samsung Galaxy S20+ ดูจะน่าซื้อกว่าครับ
Xiaomi Mi CC9 Pro Premium (Xiaomi Mi Note 10 Pro)
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพการซูมสูง เพราะมีเลนส์ telephoto มาให้ถึง 2 ตัว
- สมดุลระหว่าง texture และ noise อยู่ในเกณฑ์ดี
- Autofocus รวดเร็ว แม่นยำ และประสิทธิภาพคงที่
- ภาพถ่ายแบบ Ultra Wide มีความเบี้ยวน้อยมาก และรักษารายละเอียดได้ดี
- Night Shot ให้โทนสีผิวเป็นธรรมชาติเพราะมี soft flashlight
จุดอ่อน
- ภาพถ่ายสูญเสียความคมชัดบริเวณขอบ
- ท้องฟ้าติดโทนสีม่วง
- ช่วง dynamic range ไม่ค่อยกว้างเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
น่าซื้อหรือไม่?
Xiaomi Mi Note 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เน้นการถ่ายรูปเต็มรูปแบบ และประสิทธิภาพของตัวกล้องก็โดดเด่นต่างจากมือถือระดับกลางรุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่างมาก จุดเด่นคือกล้องหลังที่มีถึง 5 ตัว โดยมีกล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล และเลนส์ Telephoto ถึง 2 ตัว ทำให้ซูมได้ไกลเป็นพิเศษ คุณภาพของรูปถ่ายใกล้เคียงกับเรือธงอย่าง Xiaomi Mi 10 Pro แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่ากันมาก โดยอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท เพียงแต่จะไม่สามารถจัดโปรกับผู้ให้บริการเครือข่ายค่ายไหนได้เลย จะมีแต่โปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ถ้าเน้นเพียงการถ่ายรูป Xiaomi Mi Note 10 Pro ดูจะน่าซื้อกว่า Mi 10 Pro แต่ถ้าพิจารณาสเปกโดยรวมและความแรงด้วย ราคานี้ถือว่าค่อนข้างแพง เพราะมีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่ให้สเปกดีกว่าในราคาใกล้ๆ กัน หลายรุ่นให้ชิปรุ่นท็อป Snapdragon 865 ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าต้องการมือถือในงบ 20,000 บาทที่ถ่ายรูปสวยโดยไม่เกี่ยงสเปก Xiaomi Mi Note 10 Pro เป็นตัวเลือกที่น่าซื้อที่สุดในตอนนี้แล้วครับ
OnePlus 8 Pro
จุดเด่น
- เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี
- ควบคุม noise ได้ดี
- มีการวัดแสงที่แม่นยำ
- Autofocus ทำงานรวดเร็ว ไว้ใจได้
- ภาพถ่ายแบบ Ultra Wide สีสวย เก็บรายละเอียดดี
- เก็บรายละเอียดของภาพได้มาก และมี noise น้อยเมื่อเปิดแฟลช
จุดอ่อน
- สมดุลแสงขาวเพี้ยนเล็กน้อยเมื่อถ่ายกลางแจ้ง
- เกิด clipped highlight บ้างในสภาวะแสงที่ซับซ้อน
- มี artifacts ชัดเจนในโหมด Ultra Wide
- Night Shot ค่อนข้างมืด และมี noise
น่าซื้อหรือไม่?
OnePlus 8 Pro คือสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีความโดดเด่นรอบตัวไม่แพ้ตัวเต็งอย่าง Galaxy S20 Ultra หรือ OPPO Find X2 Pro คุณสมบัติการถ่ายรูปโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่สูสีกับคู่แข่งรุ่นอื่นๆ แต่ไม่ได้มีจุดเด่นด้านใดเป็นพิเศษ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีจุดอ่อนที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน และที่ไม่เหมือนใครคือมีโหมด Color Filter ที่มีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้นในตอนนี้ แต่เมื่อดูสเปกโดยรวมแล้ว OnePlus 8 Pro เหมือนจะเน้นประสิทธิภาพด้านความบันเทิงมากกว่า โดยมากับจอ AMOLED 120Hz ที่ได้รับการการันตีความสวยงามระดับ A+ จาก DisplayMate และยังมี RAM LPDDR5 อีก 12GB จะดูหนังหรือเล่นเกมก็สนุกเต็มร้อยแน่นอน ส่วนเรื่องกล้องถือว่าทำได้ดีมาก แต่ก็อาจจะไม่โดดเด่นเท่าคู่แข่งบางรุ่น
OnePlus 8 Pro มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 34,990 บาท สามารถซื้อในราคาติดสัญญาได้กับ AIS เพียงเจ้าเดียวในราคาเริ่มต้น 24,490 บาท ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นราคาที่สูงพอสมควร ถ้าจะซื้อมาเพื่อเน้นถ่ายรูปอย่างเดียว สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นอาจจะตอบโจทย์กว่าและประหยัดกว่า แต่ถ้าใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่กล้องดีด้วย และสเปกแรงตอบโจทย์การใช้งานอื่นๆ ด้วย OnePlus 8 Pro ก็น่าซื้อเหมือนกันครับ
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นจาก DxOMark และทีมงาน Thaimobilecenter เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใช้แต่ละคนต่างก็มีความชอบและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปสวยระดับท็อป อาจจะไม่ถูกกับสไตล์การถ่ายภาพและการใช้งานของบางคนก็ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่เข้ากับสไตล์ของเราที่สุดจะดีกว่าครับ
บทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 10/6/2563
