"ป๋าทิม" เผย Apple รับมือภาษีทรัมป์ ทำต้นทุนพุ่ง 900 ล้านเหรียญ แต่ซัพพลายเชนยังนิ่ง
ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ออกมาเปิดเผยถึงผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีต่อธุรกิจของบริษัท พร้อมยอมรับว่าต้นทุนในไตรมาสมิถุนายนนี้จะเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากสถานการณ์ยังคงเดิม
คุก ระบุว่า ช่วงไตรมาสเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Apple ยังควบคุมสถานการณ์ได้ดี ด้วยการปรับแต่งซัพพลายเชนและสต็อกสินค้า ทำให้ภาษียังไม่ส่งผลชัดเจน แต่สำหรับไตรมาสถัดไป เขายอมรับว่ายังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้แม่นยำ เพราะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนนโยบายในอนาคต
"ถ้าภาษียังเป็นไปตามเดิม เราประเมินว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น 900 ล้านเหรียญในไตรมาสมิถุนายนนี้" ทิม คุก กล่าวในการประชุมรายงานผลประกอบการ
เพื่อบรรเทาผลกระทบ Apple ได้เร่งกระจายฐานการผลิต โดยปัจจุบัน iPhone กว่า 50% ที่ขายในสหรัฐฯ ผลิตในอินเดีย ขณะที่ Mac, iPad, AirPods และ Apple Watch ถูกย้ายไปประกอบในเวียดนาม
คุก เสริมว่า สำหรับไตรมาสนี้ Apple คาดว่า iPhone ส่วนใหญ่ที่ขายในอเมริกาจะถูกระบุว่าผลิตในอินเดีย ขณะที่สินค้าที่ส่งขายทั่วโลก ยังคงใช้ฐานการผลิตจากจีนเป็นหลัก
ปัจจุบัน Apple ได้รับการยกเว้นจากภาษีตอบโต้ 125% ในหลายรายการสินค้า แต่ก็ยังมีบางหมวด เช่น อุปกรณ์เสริม ที่โดนเต็ม ๆ รวมเป็นอัตราภาษีสูงถึง 145% โดยเฉพาะมาตรการภาษี 20% ล่าสุดที่กำลังบีบให้ต้นทุนสินค้าของ Apple ขยับสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้ คุก ยังยอมรับว่าการสอบสวนตามมาตรา 232 ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่การเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต จะส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อธุรกิจของ Apple อีกระลอก
"ทีมปฏิบัติการของเรา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการปรับซัพพลายเชนและบริหารสต็อก"" คุกกล่าวเสริม พร้อมยืนยันว่า Apple จะเดินหน้ารับมือเต็มที่
ที่มา : macrumors
วันที่ : 2/5/2568
