ก่อนจะมาถึง OPPO Find X ย้อนดูพัฒนาการสมาร์ทโฟน Find Series ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา พัฒนาไปไกลแค่ไหน มาดูกัน!
เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Find X มือถือรุ่นล่าสุดจากตระกูล Find Series ของแบรนด์ OPPO ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้านดีไซน์แบบไร้ขอบ พร้อมนวัตกรรมแบบจัดเต็ม ทั้งกล้องที่ถูกซ่อนเอาไว้ด้านในของตัวเครื่อง รวมไปถึงระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ และที่สำคัญ OPPO Find X นับว่าเป็นการกลับมาของมือถือตระกูล Find Series อีกครั้ง หลังจากห่างหายจากวงการไปเป็นเวลาหลายปี
วันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงขอพาทุกท่านไปย้อนชมมือถือรุ่นเด่นจากตระกูล Find Series ที่เคยเปิดตัวตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อให้ได้เห็นถึงพัฒนาการ และการเปลี่ยนแปลงของสมาร์ทโฟน OPPO Find Series ซึ่งหากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันได้เลยครับ
OPPO Find X903 (2011)
Find Series มีต้นกำเนิดมาจากรุ่น Find X903 ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2011 ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟน Android ที่ความน่าสนใจรุ่นหนึ่ง ณ ช่วงเวลานั้น และยังถือเป็นใบเบิกทางของ OPPO ในด้านการทำตลาดสมาร์ทโฟนด้วย โดยมาพร้อมกับแป้นคีย์บอร์ด QWERTY แบบสไลด์ออกด้านข้าง พร้อมคุณสมบัติภายในที่ถูกจัดอยู่ในระดับเรือธง ด้วยหน้าจอทัชสกรีนแบบ IPS LCD ขนาด 4 นิ้ว ที่รองรับการสัมผัสแบบ Multi-Touch พร้อมกันสูงสุด 10 จุด ส่วนภายในขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon MSM8255 ความเร็ว 1GHz และกล้องหลังความละเอียด 4 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ ทาง OPPO ยังได้ทำแคมเปญโฆษณา OPPO Find X903 ร่วมกับพระเอกชื่อดังระดับโลกอย่าง Leonardo DiCaprio อีกด้วย
OPPO Find 3 (2012)
ถัดมาในปี 2012 OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นสานต่อของตระกูล Find Series ภายใต้ชื่อ OPPO Find 3 และเป็น “สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ OPPO ได้นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย" หลังจากที่ก่อนหน้านี้ OPPO เคยวางจำหน่ายเฉพาะฟีเจอร์โฟนเท่านั้น
สำหรับ OPPO Find 3 มีความโดดเด่นไล่ตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่องที่ผลิตมาจากวัสดุประเภทอะลูมิเนียมอัลลอยด์ขัดเงา ผสานขอบข้างแบบเคฟล่า และครอบทับด้วยกระจกที่ด้านหน้าของจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องดูมีความเรียบหรูพรีเมียมมากขึ้น
ส่วนภายในเลือกใช้งานขุมพลัง Qualcomm MSM8260 แบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.5GHz ซึ่งทำงานควบคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1GB และหน่วยความจำภายในความจุ 16GB ด้านกล้องถ่ายภาพเลือกใช้งานเซ็นเซอร์รับภาพจาก Sony ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชสองดวงแบบ Dual-LED
OPPO Finder (2012)
ในปีเดียวกันกับการเปิดตัว OPPO Find 3 ก็มีการเปิดตัว OPPO Finder ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านความบางเฉียบเพียง 6.65 มิลลิเมตร ซึ่งนับว่ามีตัวเครื่องที่บางกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น iPhone 4s หรือ Motorola Droid RAZR ทำให้ OPPO Finder ขึ้นแท่นมือถือที่มีความบางที่สุดในโลก สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากตัวเครื่องมีการขึ้นโครงด้วยโลหะแบบสแตนเลสสตีล เกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตมีดพับสวิส (Swiss Army Knife) ด้านสเปกภายในจัดเต็มด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Plus ขนาด 4.3 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรันด้วยระบบปฏิบัติการ Android Ice Cream Sandwich ตั้งแต่แกะกล่อง
OPPO Find 5 (2012)
ถัดมาในปี 2013 แบรนด์ OPPO ได้ส่งมือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ OPPO Find 5 ลงเข้าแข่งขันในตลาด ซึ่งมาพร้อมกับจุดเด่นด้านนวัตกรรมจอแสดงผลที่มีความละเอียดคมชัดระดับ Full HD 1080p ต่างจากสมาร์ทโฟนส่วนมากในยุคนั้นที่มักจะมาพร้อมกับความละเอียดหน้าจอระดับ HD 720p เท่านั้น นอกจากนี้ OPPO Find 5 ยังเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับกระจกหน้าจอที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบ OGS ซึ่งช่วยให้หน้าจอมีความบาง และโปร่งแสงยิ่งขึ้น ทำให้แสดงสีสันได้อย่างสดใสมากกว่าที่เคย
นอกเหนือจากนวัตกรรมของหน้าจอแสดงผลแล้ว OPPO Find 5 ยังมาพร้อมกับความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่เลือกใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Stacked CMOS ขนาด 1/3.06 นิ้ว ทำให้สามารถถ่ายภาพวิดีโอแบบ Slow Motion ได้ที่ระดับ 120 เฟรมต่อวินาที (120fps) และยังสามารถถ่ายภาพนิ่งได้ 5 ภาพต่อวินาที ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ได้แบบไม่พลาด รวมทั้งยังมีการฝังฮาร์ดแวร์สำหรับช่วยถ่ายภาพในโหมด HDR (High Dynamic Range) โดยเฉพาะ ซึ่งนับว่าเป็นมือถือรุ่นแรกของวงการที่มาพร้อมกับนวัตกรรมดังกล่าวเลยทีเดียว
OPPO Find Way (2013)
นอกเหนือจากการพัฒนามือถือในกลุ่มเรือธงแล้ว OPPO Find Series ยังเคยมีการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเอาใจคุณผู้หญิงโดยเฉพาะกับรุ่น OPPO Find Way ซึ่งเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่ชูโรงด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบ Beauty Plus 2.0 สำหรับช่วยปรับแต่งใบหน้าของผู้ถ่าย ให้มีความผอมเพรียวเป็นธรรมชาติ พร้อมกับปรับดวงตาให้ดูมีความสดใส ส่วนทางด้านสเปกก็จัดวางมาให้ตอบโจทย์การใช้งานแบบครบเครื่อง ด้วยชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Quad-Core Processor และแบตเตอรี่ความจุ 3000mAh
OPPO Find 7 / Find 7a (2014)
หลังจากประสบความสำเร็จในรุ่น Find 5 ต่อมาในปี 2014 ทาง OPOO ได้ทำการเปิดตัว OPPO Find 7 สมาร์ทโฟนเรือธงโฉมใหม่ที่มาพร้อมกับจุดเด่นด้านการแสดงผลด้วยหน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD เป็นรุ่นแรกของโลก พร้อมความหนาแน่นพิกเซลของหน้าจอสูงถึง 538 ppi
นอกจากนี้ OPPO Find 7 ยังมีเอกลักษณ์ในเรื่องของดีไซน์ที่มีความโค้งมนโอบรับกับอุ้งมือ พร้อมแผงไฟแจ้งเตือนแบบ Skyline Notification ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ ซึ่งเป็นแสงสีน้ำเงินโค้งเว้าเข้าหาตัวเครื่องแบบโค้งมนอย่างสวยงาม โดยเราจะได้เห็นแสงนี้ปรากฏขึ้นเมื่อได้รับข้อความแต้งเตือนในรูปแบบต่างๆ ทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดทุกข้อความสำคัญนั่นเอง
OPPO Find 7 ยังมีการจัดเต็มในเรื่องของคุณสมบัติแบบรอบด้าน ด้วยการมาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลรุ่นท็อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 801 จับคู่ RAM 3GB ผสานระบบชาร์จเร็วแบบ VOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-75% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น รวมทั้งยังมาพร้อมกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพแบบ Pure Image 2.0 ผสานฟังก์ชันพิเศษอย่าง Super Zoom สำหรับช่วยถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นการถ่ายภาพนิ่งอย่างรวดเร็วเป็นจำนวน 10 ภาพ จากนั้นตัวระบบจะเลือกภาพที่ดีที่สุดจำนวน 4 ภาพ เพื่อนำมาผสานรวมกันเป็นภาพเดียว ผลลัพธ์จะทำให้ได้ภาพความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ทำให้เรามองเห็นดีเทลต่างๆ บนภาพถ่ายได้อย่างคมชัดนั่นเอง
ส่วนทางด้านรุ่น Find 7a จะเป็นรุ่นรองท็อปที่ถอดแบบจุดเด่นมาจากรุ่น Find 7 เอาไว้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ตัวเครื่องแบบโค้งมน ความแรงด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 801 ไฟแจ้งเตือนแบบ Skyline Notification หรือกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซลได้ แต่มีการปรับลดคุณสมบัติบางส่วน อย่างเช่น ความละเอียดหน้าจอเป็นระดับ Full HD และปรับ RAM เป็นขนาด 2GB ทำให้มีราคาวางจำหน่ายที่ถูกลง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความน่าสนใจไม่แพ้รุ่นท็อปเลยทีเดียว
OPPO Find X (2018)
หลังจากห่างหายไปเป็นเวลากว่า 4 ปี ล่าสุดในปี 2018 OPPO Find Series ก็กลับมาอีกครั้งภายใต้ชื่อรุ่น OPPO Find X ที่มีการยกเครื่องใหม่หมดจด พร้อมจัดเต็มด้านนวัตกรรมรอบด้าน เริ่มตั้งแต่ดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบ Panoramic Arc Screen ขนาด 6.4 นิ้ว ที่มีพื้นที่ในการแสดงผลเมื่อเทียบกับตัวเครื่องสูงถึง 93.8% ทำให้สามารถรับชมคอนเทนต์ได้อย่างเต็มตาเต็มอารมณ์
ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ทาง OPPO ได้มีการใส่นวัตกรรมกล้องแบบ Pop-up ซึ่งตัวกล้องจะสไลด์ออกมาจากด้านบนแบบอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพ นอกจากนี้ บริเวณแผงกล้อง Pop-up ของ Find X ยังได้มีการฝังเซ็นเซอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Flood Illuminator, Infrared และ Dot Projector ซึ่งเซ็นเซอร์เหล่านี้จะถูกนำไปใช้สำหรับระบบ O-Face หรือฟังก์ชันสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนเพื่อปลดล็อกเข้าสู่การใช้งาน และยังมีความปลอดภัยเพียงต่อสำหรับนำไปใช้ยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินได้อีกด้วย
สำหรับสเปกของ OPPO Find X ก็จัดเต็มด้วยคุณสมบัติแบบไฮเอนด์ รอบด้าน ด้วยชิปเซ็ตประมวลผลรุ่นท็อปของปีนี้จากค่าย Qualcomm อย่าง Snapdragon 845 ซึ่งจะทำงานควบคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB และหน่วยความจำภายในขนาดจุใจถึง 256GB ส่วนด้านการถ่ายภาพ มาพร้อมกับกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง 25 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 16+20 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 3730mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วแบบ VOOC
นอกจากนี้ OPPO Find X ยังมีรุ่นพิเศษในชื่อ OPPO Find X Automobili Lamborghini Edition ซึ่งเป็นการจับมือร่วมพัฒนากับแบรนด์ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ชื่อดังอย่าง Lamborghini นั่นเอง โดยมาพร้อมกับบอดี้กระจกด้านหลังสีดำตัดเทาเข้ม ที่มีลวดลายคล้ายกับคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมประทับโลโก้กระทิงดุของ Lamborghini เอาไว้ให้เห็นแบบเด่นชัด ส่วนคุณสมบัติภายในอัปเกรดไปอีกขั้นด้วยหน่วยความจำภายในความจุ 512GB และระบบชาร์จเร็วแบบ SuperVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
จะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มือถือตระกูล Find Series ของ OPPO มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี มือถือ OPPO Find Series ที่ทีมงานกล่าวไว้ด้านต้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้ว OPPO Find Series ยังมีมือถือที่น่าสนใจอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น OPPO Find Piano, OPPO Find Clover, OPPO Find Muse, OPPO Find Mirror, OPPO Find Ways, OPPO Find 5 mini ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีนวัตกรรม และจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ ก็ต้องมาติดตามกันต่อว่า OPPO Find Series ในอนาคตจะถูกพัฒนาไปในทิศทางใด รวมทั้ง OPPO Find X มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้น จะมีการนำเข้ามาวางขายในประเทศไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งหากทีมงานมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกท่านได้รับทราบโดยทันที
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 25/6/2561
