มือถือชิป Snapdragon 860 | 870 | 888 ต่างกันอย่างไร ? รุ่นไหนเหมาะกับใคร ? เลือกซื้อรุ่นไหนดี ?
อย่างที่หลายท่านน่าจะทราบกันดีว่า ชิปเซ็ต Snapdragon ซีรี์ส 8xx จากค่าย Qualcomm เป็นชิปเซ็ตระดับเรือธง ซึ่งมักจะถูกใช้กับสมาร์ทโฟนระดับท็อปประจำปีนั้น ๆ และโดยปกติแล้วชิปเซ็ตซีรีส์ 8xx จะมีการเปิดตัวให้เห็นแค่เพียง 2 รุ่นต่อปี ต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Qualcomm มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ เพราะได้มีการเปิดตัวชิปเซ็ต Snapdragon 8xx จำนวน 2 รุ่นใหม่ให้เห็นกัน ได้แก่ Snapdragon 870 และ Snapdragon 860 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับเรือธงที่เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมจากชิป Snapdragon 888 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว และเพิ่งจะเริ่มมีการนำมาใช้เมื่อช่วงต้นปีนี้
อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านน่าจะเริ่มเกิดความสงสัยกันแล้วว่า ชิปเซ็ต Snapdragon 860 | 870 | 888 มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ? เลือกซื้อรุ่นไหนดี ? และรุ่นไหนเหมาะกับใคร ? วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter มีคำตอบครับ
เปรียบเทียบสเปกในเบื้องต้นของ Snapdragon 860 | 870 | 888
Snapdragon 860
สำหรับ Snapdragon 860 เป็นชิปเซ็ตที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Snapdragon 855 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวท็อปประจำปี 2019 โดยหลัก ๆ จะยังคงใช้สถาปัตยกรรมเดียวกันกับ Snapdragon 855 ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร, โครงสร้าง CPU แบบ 8 แกนประมวลผล ไปจนถึงการมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 640
สิ่งที่ Snapdragon 860 อัปเกรดขึ้นจากชิปเซ็ตรุ่นเดิมก็คือ การมาพร้อมกับ CPU หลักแบบ Kyro 485 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.96Hz จากเดิม 2.84GHz ในรุ่น Snapdragon 855 ซึ่งเท่ากับว่าชิปเซ็ต Snapdragon 860 มีความเร็วประมวลผลสูงสุดเท่ากับรุ่น Snapdragon 855+ นั่นเอง
นอกจากนี้ Snapdragon 860 ยังมีการอัปเกรดจาก Snapdragon 855+ ในเรื่องของการรองรับหน่วยความจำ RAM สูงสุดถึง 16GB จากเดิมในรุ่น Snapdragon 855+ ที่รองรับ RAM 12GB พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านการถ่ายภาพ ด้วยการรองรับการใช้งานโหมดถ่ายภาพกลางคืนบนโหมด Ultra Wide, รองรับโหมดถ่ายภาพเวลฟี่กลางคืน ไปจนถึงการถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และหลังพร้อมกัน (Dual Video)
หากพูดง่าย ๆ ก็คือ Snapdragon 860 เป็นชิปเซ็ตรุ่น Snapdragon 855+ ที่กลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้งในปี 2021 นั่นเอง แต่สเปกบางอย่างจะยังคงเป็นรองชิปเซ็ต Snapdragon 8xx ซีรีส์รุ่นอื่นที่เปิดตัวออกมาในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น การรองรับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4x เท่านั้น, รองรับกล้องเดี่ยวความละเอียดสูงสุด 192 ล้านพิกเซล หรือรองรับ Bluetooth สูงสุดที่ 5.1 เป็นต้น
Snapdragon 870
มาต่อกันที่ Snapdragon 870 กันบ้าง ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทาง Qualcomm ได้พัฒนาต่อยอดมาจาก Snapdragon 865+ โดยพื้นฐานยังคงใช้สถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร พร้อมโครงสร้าง CPU แบบ 8 แกน ที่ประกอบไปด้วย Kyro 585 Prime จำนวน 3 แกน, Kyro 585 Gold จำนวน 3 แกน และ Kyro 585 Silver จำนวน 4 แกน ซึ่งสิ่งที่ Snapdragon 870 อัปเกรดก็คือ มีการเพิ่ม Clock Speed ของแกน Kyro 585 Prime ให้สูงขึ้นที่ระดับ 3.2GHz จากเดิม 3.1GHz ซึ่งจะช่วยให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
แม้ว่าชิปเซ็ตอาจดูแรงขึ้น แต่ทาง Qualcomm ก็เลือกที่จะลดทอนสเปกบางอย่างของ Snapdragon 870 ออกไปจากรุ่น Snapdragon 865+ ไม่ว่าจะเป็น การรองรับแค่เพียง Wi-Fi 6 (จากเดิมรองรับ Wi-Fi 6 และ Wi-Fi 6E หรือ ความเร็วในการดาวน์โหลดผ่าน Wi-Fi สูงสุด 1.774 Gbps (จากเดิม 3.6Gbps) ซึ่งสาเหตุที่มีการปรับลดสเปกบางส่วนจาก Snapdragon 865+ ก็เพื่อให้ทางแบรนด์ต่าง ๆ ได้นำไปสร้างมือถือสเปกแรง ในราคาประหยัดนั่นเอง
Snapdragon 888
สำหรับ Snapdragon 888 เป็นชิปเซ็ตตัวท็อปสุดในซีรีส์นี้ เพราะเป็นชิปเซ็ตเพียงรุ่นเดียวของค่ายที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 5 นาโนเมตร พร้อมเปลี่ยนโครงสร้าง CPU เป็น Kyro 680 ตัวใหม่ล่าสุดที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผล และการประหยัดพลังงานดีขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตเรือธงรุ่นก่อน อีกทั้ง ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิกตัวใหม่ในชื่อ Adreno 660 ที่จะช่วยให้การประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้นจากเดิมถึง 25% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ Snapdragon 888 ยังมีสเปกด้านอื่น ๆ ที่แตกต่างกับ Snapdragon 860 และ Snapdragon 870 อย่างสิ้นเชิง ทั้ง ความสามารถในการถ่ายวิดีโอแบบ 4K HDR, ระบบ Auto-focus และระบบวัดแสงอัตโนมัติด้วย AI, การถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 12 ล้านพิกเซลได้ถึง 120fps, รองรับระบบชาร์จเร็วแบบ Quick Charge 5 ไปจนถึงรองรับโมเด็ม Snapdragon X60 5G (รุ่นอื่น ๆ รองรับ Snapdragon X50)
ซึ่งสาเหตุที่ Snapdragon 888 มีสเปกโดยรวมที่แตกต่างกับ Snapdragon 860 และ 870 ก็เนื่องมาจากถูกพัฒนามาในฐานะชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง (Flagship) และเรือธงพรีเมียม (Premium Flagship) ที่มักจะมาคู่กับสเปกฮาร์ดแวร์ด้านอื่น ๆ ที่สูงตามไปด้วย เช่น กล้องหลังความละเอียดสูง, หน้าจอ Refresh Rate สูง และฟีเจอร์การถ่ายภาพ รวมถึงการถ่ายวิดีโอในระดับสูง เป็นต้น
สรุป Snapdragon 860 | 870 และ 888 ซื้อรุ่นไหนดี ?
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะเข้าใจถึงคอนเซ็ปท์ และความแตกต่างระหว่างชิปเซ็ตทั้งสามรุ่นนี้แล้ว ส่วนประเด็นว่า ควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี ? และรุ่นไหนเหมาะกับใคร ? ทางทีมงานขอสรุปไว้ดังนี้ครับ
มือถือชิป Snapdragon 860 เหมาะกับใคร ?
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการในช่วงราคาเริ่มต้นไม่ถึง 10,000 บาท (อ้างอิงจากราคา POCO X3 Pro ในแถบยุโรปที่ 249 ยูโร หรือประมาณ 9,100 บาท)
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีหน้าจอ Refresh Rate ระดับสูง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือสเปกแรงพอประมาณ สำหรับใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมหนัก ๆ พร้อมเปิดกราฟิกระดับกลาง - สูง ได้อย่างลื่นไหล
มือถือชิป Snapdragon 870 เหมาะกับใคร ?
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีหน้าจอ Refresh Rate และ Touch Sampling Rate ระดับสูง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีหน่วยประมวลผล CPU รวมถึงหน่วยความจำ RAM ที่รวดเร็ว
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือสเปกแรงสำหรับใช้งานทั่วไป เล่นเกมแบบเปิดกราฟิกระดับสูงได้ลื่นไหล
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพ ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
มือถือชิป Snapdragon 888 เหมาะกับใคร ?
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือเรือธงที่มีสเปกแรงในทุก ๆ ด้าน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีหน้าจอ Refresh Rate และ Touch Sampling Rate ระดับสูง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีกล้องความละเอียดสูง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และมีความโดดเด่นด้านการถ่ายวิดีโอ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีฟีเจอร์ครบเครื่อง เช่น การชาร์จไร้สาย, การกันน้ำ, ตัวเครื่องที่มีความสวยหรูพรีเมียม ฯลฯ
ข้อมูลอ้างอิง : Qualcomm (1), (2), (3)
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 29/3/2564
